อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังชี้ชัด รัฐบาลกำลัง “เบียดบังประชาชน” อุ้มบริษัทบุหรี่นอก
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง ในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งข้อสงสัยถึงกรณี รัฐบาลลุงตู่ในปี 2560 แก้กฎหมายช่วยเหลือบริษัทบุหรี่ต่างชาติหรือไม่? ใจความ ดังนี้
ข่าวที่ศาลไทยปรับบริษัทบุหรี่ต่างชาติรายหนึ่งเป็นเงิน 1,225 ล้านบาท อาจจะทำให้ประชาชนดีใจว่า มีการลงโทษการฉ้ออากรเสียที แต่แท้จริงจะตกใจ เพราะอัตราค่าปรับดังกล่าว เป็นไปตามที่รัฐบาลลุงตู่แก้ไขพ.ร.บ.ศุลกากร ในปี 2560
ถ้าคำนวณตามกฎหมายเดิม ผมได้ข้อมูลว่าจะคำนวณได้ดังนี้ ตามที่ศาลตัดสิน ตัวเลขที่ให้ถือเป็นค่าบุหรี่ คือ 6,135 ล้านบาท ค่าอากร 5% คิดเป็น 306 ล้านบาท ค่าบุหรี่บวกกับค่าอากรจึงเท่ากับ 6,441 ล้านบาท ปรับ 4 เท่าของ 6,441 ล้านบาทจะเท่ากับ 25,764 ล้านบาท พูดเป็นตัวเลขกลมๆ คือ 2.5 หมื่นล้านบาท
ถามว่าเกิดอะไรขึ้น?
รัฐบาลลุงตู่แก้ไขกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือบริษัทบุหรี่ต่างชาติให้เสียค่าปรับน้อยลง หรือไม่? (จาก 2.5 หมื่นล้านบาท เหลือ 1.2 พันล้านบาท)
ให้ดูข้อเท็จจริงต่อไปนี้
ตามกฎหมายเดิม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 กำหนดอัตราค่าปรับ “สําหรับความผิดครั้งหนึ่ง ๆ ให้ปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว” ดังนั้น ตามกฎหมายเดิม ถ้าหากราคาบุหรี่ 100 บาท บวกกับฉ้ออากร 5 บาท รวมแล้วเท่ากับ 105 บาท ค่าปรับ 4 เท่าของ 105 บาท ก็จะเท่ากับ 420 บาท สาเหตุที่กฎหมายกำหนดอัตราค่าปรับสูงมาก ก็เพื่อเป็นมาตรการป้องปราม ทำให้ผู้ที่จ้องจะทำความผิด จะเห็นผลเสียได้ชัดเจน
แต่รัฐบาลลุงตู่ได้ออกพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 กลับไปลดค่าปรับฮวบฮาบ เป็น “ปรับเป็นเงินตั้งแต่ครึ่งเท่า แต่ไม่เกินสี่เท่าของค่าอากรที่ต้องเสียเพิ่ม
อธิบายง่ายๆ ลุงตู่เปลี่ยนค่าปรับเป็น 4 เท่าของอากร คือ 4 เท่าของ 5 บาท คือเหลือเพียง 20 บาท
กฎหมายใหม่ที่แตกต่างจากเดิมคือของเดิม ค่าปรับมีสองส่วน คือมีราคาบุหรี่ บวกกับค่าอากรที่เลี่ยง จึงเป็น 2.5 หมื่นล้านบาท แต่ของใหม่มีเพียงส่วนเดียว คือเฉพาะค่าอากรที่เลี่ยง 300 ล้านบาท ปรับ 4 เท่า จึงเหลือเพียง 1.2 พันล้านบาท
เหตุใดจึงน่าสงสัยว่ารัฐบาลลุงตู่แก้ไขกฎหมายลดอัตราค่าปรับ เพื่อเอื้อบริษัทบุหรี่ต่างชาติ?
1.ฐานความผิดในกฎหมายใหม่ มาตรา 243 คือ “นําของที่ผ่านหรือกําลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสําหรับของนั้นๆ”
ฐานความผิดนี้ มิได้แตกต่างไปจากฐานความผิดในกฎหมายเดิมในมาตรา 27 ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะเปลี่ยนวิธีคิดค่าปรับให้ลดฮวบลงอย่างนี้
2.กฎหมายใหม่ระบุหลักการและเหตุผลว่า “มีบทบัญญัติบางเรื่องล้าสมัยหรือไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน” และ “การค้าและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศได้พัฒนาและขยายตัวมากขึ้น ทําให้มีความจําเป็นต้องปรับปรุงการดําเนินพิธีการศุลกากรและการดําเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล”
เหตุผลที่ระบุในกฎหมายใหม่ ก็ไม่ได้อธิบายเหตุผลใดที่แสดงถึงความจำเป็นยิ่งยวดที่จะต้องลดอัตราค่าปรับลงอย่างฮวบฮาบเช่นนี้ และผมก็ไม่เห็นว่ามีมาตรฐานสากลใดที่บังคับให้รัฐบาลไทยต้องลด
3.กฎหมายใหม่ไม่ได้เลิกวิธีคิดค่าปรับที่ให้รวมค่าของเอาไว้ด้วย สำหรับฐานความผิดอื่นๆ เช่น มาตรา 227 การลักลอบออกนอกเส้นทางที่อธิบดีอนุมัติ ค่าปรับยังคิดเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว และมาตรา 242 การลักลอบนําเข้าโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีนี้ค่าปรับก็ยังคิดเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วเช่นกัน
ผมจึงไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลใดที่สนับสนุนการลดอัตราค่าปรับสำหรับความผิดฐานฉ้ออากร ตามมาตรา 243 ให้ต่ำกว่าความผิดฐานลักลอบออกนอกเส้นทาง ตามมาตรา 227 และการเคลื่อนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 242 ได้แม้แต่น้อย
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากนะครับ เพราะรัฐบาลใดก็ตามที่คิดมิชอบ หาทางเกี้ยเซี้ยกับบริษัทบุหรี่ต่างชาติ ในความผิดที่ยืดยาวต่อเนื่องมานาน ที่ไม่ต่างจากมหากาพย์รามเกียรติ์
รัฐบาลนั้นจะเท่ากับฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างแท้จริง
คือเบียดบังทั้งต่อราษฎรและทั้งต่อหน้าที่ทางราชการ อันเป็นการทำร้ายประเทศชาติโดยตรง ผมจึงขอเรียกร้องให้ลุงตู่กรุณาสั่งให้เจ้าหน้าที่ชี้แจงต่อสาธารณะ ว่าความเข้าใจของผมผิดพลาดหรือไม่ และสิ่งที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไร
นอกจากประเด็นการลดอัตราค่าปรับที่ผมไม่เห็นว่าสมเหตุสมผลแล้ว ยังมีปัญหาการละเลยกำหนดกติกาด้านภาษีสรรพสามิต ที่ทำให้บุหรี่ไทยเสียเปรียบบุหรี่นอกอีกด้วย ซึ่งผมจะเจาะลึกในโอกาสต่อไป
ผมหวังว่าลุงตู่จะกรุณาสั่งการให้ชี้แจงว่า ผมเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือไม่ เป็นการด่วนนะครับ
Tib Chutikarn #เวรกรรมประเทศไทย
09 ธ.ค. 2562 เวลา 05.41 น.
prasat งานมีอ้วนหลายคน
09 ธ.ค. 2562 เวลา 05.41 น.
HuaNa จ่ายจริง 5000 ล้านครับ
2500 เข้าหลวง
2500 เข้าทางตีน
ประหยัด 2 หมื่นล้าน
บริษัท ไหน ไม่เอาก็ไม่รู้จะทไง?
09 ธ.ค. 2562 เวลา 05.54 น.
sri ลุงตู่ ทำไมอุ้ม บ. บุหรี่ไฟฟ้าล่ะ
09 ธ.ค. 2562 เวลา 05.20 น.
Pat จัดเลย ไม่ไว้ว่างใจ ลุงตูบโดน สอดใส้เยอะ
09 ธ.ค. 2562 เวลา 06.15 น.
ดูทั้งหมด