ทุกคนเริ่มต้นจากการเป็นคนไม่เชื่อเรื่องดวง
เพราะไม่มีเด็กหรือผู้ใหญ่คนไหนรู้ได้เองว่า
ชีวิตคืออะไร
มีปีดีปีชงดักรออยู่ที่ช่วงอายุประมาณไหนบ้าง
.
บางคนเปลี่ยนจาก ‘ไม่อยากเชื่อเรื่องดวง’
มาเป็นเชื่อแบบสุดลิ่มทิ่มประตู
หรือกระทั่งกลายเป็นหมอดูเสียเอง
ก็เพราะใช้ชีวิตมาเรื่อยๆ
แล้วเห็นเองว่าแต่ละปีไม่เหมือนกัน
บางปีเฮงอย่างชัดเจน บางปีซวยกะลุดมุดเหลือเชื่อ
ฉะนั้น เมื่อเจอหมอดูทักตรง จึงเริ่มคล้อยตาม
แล้วหันมาศึกษาโหราศาสตร์
จนเข้าใจหลักเกณฑ์น้ำขึ้นน้ำลงของชีวิตได้
.
แต่บางคนเป็นตรงข้าม
คือ อาจเริ่มจาก ‘มีความโน้มเอียงจะเชื่อง่าย’
แต่กลายเป็นต่อต้านรุนแรง
เพราะเจอหมอดูกำมะลอ ไม่รู้จริงแล้วทักมั่ว
หรือกระทั่งเจอหมอดูแม่นที่สุดในประเทศ
แต่ทายไม่ตรง เพราะคำนวณจากวันเวลาเกิดผิดๆ
จึงทายผิดตามไปด้วย
หรือบางทีลูกค้าบอกวันเดือนปีเกิดถูก
แต่ดวงปรับเปลี่ยนไปแล้ว
ด้วยบาปหนักหรือบุญใหญ่ในชาติปัจจุบัน
ที่สะสมไว้จนเกินของเก่า ชนะกรรมเก่าขาดลอย
ซึ่งหมอดูตามตำราอย่างเดียวจะไม่อาจหยั่งทราบได้
.
ลองมาทำความเข้าใจกันใหม่
ให้เห็นความเกี่ยวข้องกัน
ระหว่าง ‘วิบากกรรม’ กับ ‘ดวง’
วิบากกรรมคือผลของกรรมที่ทำไว้
อาจเป็นกรรมที่ทำไว้ในชีวิตที่แล้ว ที่ลืมแล้ว
หรืออาจเป็นกรรมที่ทำไว้ในชีวิตนี้ ที่ยังจำได้
.
การให้ผลของกรรมมีคิว มีลำดับ
ไม่มีการบอกกล่าวว่าจะได้รับผลเมื่อไหร่
ไม่ใช่ทำอะไรปุ๊บต้องได้รับผลปั๊บ
ไม่ใช่เตะใครวันนี้ พรุ่งนี้ต้องโดนเตะคืนทันตาเห็น
ซึ่งลำดับการให้ผลของกรรม
อันไม่เป็นที่รู้แก่มนุษย์ทั่วไปนี่แหละ
ที่ทำให้กังขา ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า
ผลของกรรมมีหรือไม่มีกันแน่
ธรรมชาติไม่ได้อยากให้เราเชื่อ
ตรงข้าม จะปิดกั้นสุดฤทธิ์ไม่ให้ใครรู้ใครเห็นด้วยซ้ำ
.
เหล่าผู้บุกเบิกสร้างตำราโหราศาสตร์
แม้ไม่รู้เรื่องกรรมและการให้ผลของกรรมชัดเจน
ก็อาศัยหลักการสังเกตการจัดเรียงดาวในแต่ละปี
แล้วผูกเป็นรหัส เป็นฤกษ์เกิดให้มนุษย์แต่ละคน
กระทั่งกลายเป็นลายแทง หรือ ‘ดวงชะตา’ ขึ้นมา
ซึ่งแปลว่า ดวงชะตาก็คือลำดับการให้ผลของกรรม
อันไม่เป็นที่รู้แก่คนทั่วไป
เราจึงควรตั้งมุมมองไว้แบบพุทธว่า
ปีดีหรือปีชง ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
และที่สำคัญ ไม่ใช่จะต้องเกิดอะไรแบบตายตัวเสมอไป
เพราะถ้าเชื่อเช่นนั้น ก็เข้าข่ายมิจฉาทิฏฐิ
เป็นลัทธิที่ทึกทักว่าอะไรๆ
ต้องเป็นไปตามการบันดาลของกรรมเก่าท่าเดียว
.
ที่ถูกควรมองว่า
ปีดีเปรียบเหมือนของขวัญจากอดีตชาติ
ตัวตนเก่าของเราเคยก่อร่างสร้างบุญใหญ่ดีๆ ไว้
แล้วถึงคิวที่กรรมจะเผล็ดผลครอบคลุมไปทั้งปีหน้า
.
อีกประการหนึ่ง
ของขวัญที่มือเราในอดีตหยิบยื่นให้
ก็คล้ายของขวัญที่เราได้รับจากมือคนอื่นในปัจจุบัน
เราอาจจะแฮปปี้กับมันก็ได้
อาจจะเฉยๆ กับมันก็ได้
หรือแกะห่อแล้วอาจทำหน้าเบ้ผิดหวังก็ได้
.
ของขวัญบางชิ้น
อาจส่งเสริมให้เรามึนเมาประมาทก็ได้
หรืออาจทำให้เราเกิดสติกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้นก็ได้
.
ของขวัญบางชิ้น
ถ้าไม่ระวังให้ดี ก็อาจแตกพังได้แต่แรกแกะ
ทว่าหากเห็นค่า ดูแลทะนุถนอม
ก็อาจอยู่ทนในมือเราไปจนตาย
.
จริงๆ ชีวิตมนุษย์ทั้งชีวิต
เป็นของขวัญล้ำค่าจากอดีตชาติอยู่แล้ว
เปรียบเหมือนแก้วสารพัดนึก
ที่จะใช้เนรมิตสวรรค์ก็ได้ เสกนรกก็ได้
หรือจะยุติการบันดาลทุกข์
เข้าสู่บรมสุขในมหาสมุทรแห่งนิพพานก็ได้
ของขวัญที่ส่งข้ามภพข้ามชาติมา
ไม่ใช่อะไรตายตัวที่ดีแน่ๆ เสมอไป
ขึ้นกับว่าเราจะใช้ในทางดีหรือทางร้ายด้วย
.
โลกเป็นอย่างนี้มาทุกยุคทุกสมัย
ไม่ว่าคนเชื่อหรือคนต่อต้านจะตายไปกี่ล้านคน
ก็จะมีคนใหม่เกิดมาเชื่อและต่อต้านอีกไม่รู้จบ
ดวงเดิมไม่ดี
แต่กรรมใหม่ดี
วิบากกรรมที่ต้องได้รับจริงๆ
ก็ผิดแผกแตกต่างจากดวงเดิมได้
หาใช่เป็นไปตามปีใหม่โดยอัตโนมัติ
หาใช่เป็นไปตามพรปีใหม่โดยปากใคร
หาใช่เป็นไปตามพิธีขึ้นปีใหม่โดยมือคน!
.
.
Yongyuth คนเราเกิดมาเพราะ ใจยังมีกิเลส ราคะ โมหะโทสะ ต้นเหตุคืออวิชา ความรู้หลง รู้ไม่ตรงตามความเป็นจริง ย่อมก่อกรรม ไปตามอำนาจ ของ กิเลสตัณหา คนสุดท้าย วิบากกรรม นำไปเกิด เมื่อร่างกาย ตาย แต่ใจ จะมี กรรมดีกรรมชั่ว พาไป สู่ภพภูมิ น้อยใหญ่ ตามอำนาจ บุญกรรมที่ทำมา เช่นมนุษย์ มาด้วยความไม่โลภ ไม่โกรธ แต่ยังหลง เพราะขาดสติปัญญา จึงยังไม่สามารถปล่อยวาง เพราะขาดปัญญาสัมมาทิฎฐิ ไม่ รู้แจ้งในอริยสัจ 4 นั่นเอง ผู้ใดเข้าถึง ด้วยการปฏิบัติ อริยมรรค มีองค์ 8 ย่อมได้ มรรคผลนิพพาน อันเป็นโลกุตรธรรม ตัดภพชาติ ในที่สุด
29 ธ.ค. 2562 เวลา 11.36 น.
"จะดีหรือว่าชั่วก็ขึ้นอยู่ที่ตัวทำ ชีวิตจะสูงหรือว่าจะต่ำก็ขึ้นอยู่กับการที่ทำตัว"ไม่มีใครจะมากำหนดชะตาชีวิตของเราได้ นอกเสียจากตัวของเราเอง.
29 ธ.ค. 2562 เวลา 02.30 น.
Chaloemvit K7824 ตังตฤณ เป็นใครหรือ เล่าเรียน ฝึกฝน ปฎิบัติอะไรมาครับ...
ทำไมจึงมีแนวคิด ความเชื่อ งานเขียน งานพูด ที่ลุ่มลึก..
มีเหตุผล น่าเชื่อถือ น่าติดตาม....
ความรุ้เล่าเรียน จดจำมา หรือ การตรึกครอง หยั่งรุ้ ได้จากการปฏบัติธรรมชั่นสูงครับ
29 ธ.ค. 2562 เวลา 03.26 น.
Rainny L.(อิมกึมบี)🌦 หากวางใจเรากลางไม่ ไม่ไหลไปตามแรงโน้มถ่วงของสภาพแวดล้อมรอบตัว ตรึกตรองดูด้วยหลักธรรมและปัญญา พระสมณะโคดมเองท่านก็ไม่ต้องการให้เชื่อสิ่งใดง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องดวงเป็นอวิชชาศาสตร์หนึ่ง ท่านให้เชื่อหลักธรรมคำสอนซึ่งหากลองปฏิบัติดูแล้วเกิดผลดีจึงค่อยเชื่อ นั่นคือหลักแห่งวิทยาศาสตร์ทางจิต ซึ่งทรงตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง
29 ธ.ค. 2562 เวลา 11.44 น.
Tui of Earth เรื่องดวงเป็นเหมือนกลศาสตร์ควอนตัม หลักความไม่แน่นอน หลักสถิติ นักดาราศาสตร์สามารถทำนายอนาคตของดวงอาทิตย์ได้นับพันล้านปี แต่ก็อย่างว่าอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน ความน่าเชื่อถือของการทำนายจึงต้องใช้การเดาอย่างมีหลักการ
ส่วนเรื่อง อดีตชาติมีและชาติหน้ามีจริงหรือไม่? ผมก็กำลังศึกษาเป็นงานอดิเรกว่ามีจริงหรือไม่ มันก็น่าคิดที่อายุของจักรวาลมีเป็นหมื่นหรือแสนล้านปี ยังหาเหตุผลไม่ได้ว่า ทำไมธรรมชาติให้เราเกิดมาแค่ 100ปี+- แล้วให้หายไปเฉยๆ หรือยังต้องเกิดอีกตราบใดที่จักรวาลยังอยู่
29 ธ.ค. 2562 เวลา 02.46 น.
ดูทั้งหมด