‘การให้ที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดคือการให้อภัย’ หลายคนเคยได้ยินประโยคนี้ คุณเห็นด้วยไหมคะ? เราว่ามันก็เป็นเรื่องจริงอยู่นะ เพราะการให้อภัยจะส่งผลดีต่อจิตใจเราเอง และความสัมพันธ์ต่อคนรอบข้างด้วย
แต่ต้องยอมรับกันตรง ๆ ว่าการให้อภัยไม่ใช่เรื่องง่ายเลย บางคนอาจใช้เวลาเป็นสิบ ๆ ปีเพื่อกล้าให้อภัยใครสักคน ไม่แปลกหรอกค่ะ ไม่มีคำว่านานไปหรือเร็วไปสำหรับเรื่องแบบนี้ แต่ละคนก็ใช้เวลาเยียวยาหัวใจต่างกันไป เพราะฉะนั้นก่อนเริ่มให้อภัยใครสักคน เราต้องบอกตัวเองเสมอว่า เราจำเป็นต้องก้าวข้ามความโกรธเกลียดเคียดแค้นในใจให้ได้เสียก่อน แม้ว่าช่วงเวลาเหล่านั้นจะยากลำบากแค่ไหนก็ตาม จงจำไว้ว่าการให้อภัยไม่ใช่เป็นเรื่องแพ้ชนะ แต่เป็นการปลดปล่อยบ่วงที่ติดค้างในใจออกไป เพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้นในวันข้างหน้าต่างหาก
สิ่งดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังการให้อภัยคือ ทำให้เครียดน้อยลง ลดความกังวล หลัก ๆ มาจากการที่เราทิ้งอารมณ์ทางลบ เช่น โกรธ, โมโห, เจ้าคิดเจ้าแค้นออกไป ทำให้จิตใจเราทุกข์น้อยลงไปด้วย เผลอ ๆ จะมีความสุขมากขึ้นด้วยซ้ำค่ะ
หากวันนี้คุณอยากให้อภัยคนอื่น แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร 'ห้องแนะแนว' มีวิธีคิดและฝึกฝนมาฝากกันเบื้องต้นค่ะ ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ
"ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ"
ทุกคนคือมนุษย์ และมนุษย์ทุกคนล้วนเคยผิดพลาด แม้แต่เราเองก็ตามไม่ใช่เหรอ ไม่มีใครไม่เคยทำผิด อย่าคาดหวังความเพอร์เฟ็กต์จากคนอื่นเพราะตัวเราเองยังทำไม่ได้ ความล้มเหลว ผิดแผน ไม่ได้ดั่งใจคือสิ่งที่เราต้องเผชิญอยู่บ่อยครั้งในชีวิต เพราะฉะนั้นหากเราจะโกรธใคร เกลียดใคร เพียงเพราะเขาทำไม่ถูกใจเรา ก็คงไม่ยุติธรรมนัก เราจึงจำเป็นต้องบอกตัวเองว่าทุกคนมีโอกาสพลาดพลั้งกันได้ แต่จะรับผิดชอบต่อความผิดพลั้งนั้นอย่างไรมากกว่า ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ถึงจะเริ่มต้นให้อภัยคนอื่น ๆ ได้ในขั้นตอนต่อไป
"เอาใจเขามาใส่ใจเรา"
ลองคิดในมุมกลับกันดูว่า ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หากเราเป็นเขา เราจะทำอย่างไร ลองถามตัวเองดูว่า ‘ทำไม’ เขาถึงเลือกทำแบบนั้น มี ‘เหตุผล’ อะไรที่ตัดสินใจแบบนี้ บางทีเราอาจจะทำแบบเดียวกับที่เขาทำก็ได้นะ การคิดกลับกันแบบนี้จะช่วยให้เกิดแง่มุมใหม่ ๆ หรือทำให้เราเข้าใจในจุดที่เขายืนอยู่มากยิ่งขึ้นก็ได้ เพราะความเข้าใจผิดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อาจเกิดจากความคิดของเราเพียงฝ่ายเดียวโดยที่ยังไม่ไถ่ถามจากอีกฝ่าย เพราฉะนั้นความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นคือกุญแจสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องการให้อภัย
"การให้อภัยเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล"
บางคน ‘ให้อภัยแต่ไม่ลืม’ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นี่ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด การที่เราให้อภัยเขาแปลว่า เราไม่คิดโกรธเคืองเขาเรื่องในอดีตแล้ว แต่ที่ยังต้องจดจำเพราะเป็นบทเรียนให้ตัวเองในอนาคต ว่าจะต้องไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำซ้อนอีก หรือหากเกิดจะได้รู้ทางหนีทีไล่ละรับมือได้ดียิ่งขึ้น ไม่กลับไปจมทุกข์ซ้ำเดิม หรือบางคนอาจจะให้อภัยแต่ไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกัน ขอห่างกันไปเลยสบายใจกว่า ก็ไม่ผิดอีกนั่นแหละ วิธีการรักษาหัวใจของเราไม่เหมือนกัน ให้อภัยได้แล้ว แต่หวั่นกลัวที่จะคบค้าสมาคมกันต่อไป ก็ย่อมทำได้ อย่างน้อยที่สุดโฟกัสที่การให้อภัยซึ่งกันและกันก็เพียงพอแล้ว ทางที่เหลือข้างหน้าก็แล้วแต่โชคชะตาจะกำหนด ใครสะดวกแบบไหนก็ให้อภัยแบบนั้นค่ะ
"ทิ้งอดีต มองอนาคต"
การให้อภัยเปรียบเสมือนการทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิต เหมือนเราดึงโซ่ตรวนที่คล้องขาเราไว้ออก ทำให้เราเดินสะดวกยิ่งขึ้น ทำให้เราไม่เจ็บอีกต่อไป นั่นแหละค่ะ หัวใจของการให้อภัยที่แท้จริง คือการละทิ้งอดีตที่เคยทำให้เราทุกข์ จะทำให้ใจเราเองสงบขึ้น ไม่ยึดติดเรื่องเก่า ๆ พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยความโล่งอก และสงบ
"หัดมองด้านดี ๆ ของคนอื่นบ้าง"
คล้าย ๆ กับการเอาใจเขามาใส่ใจเรา แต่โฟกัสไปที่เรื่องบวก ๆ ของผู้อื่นแทน เพื่อฝึกให้เรามองรอบด้านและใจกันมากขึ้น ในมุมร้าย ๆ ที่เราเจอ อาจไม่ใช่ตัวตนเดียวของเขา ในสถานการณ์อื่น เขาอาจจะมีด้านบวกให้เห็น เพียงแค่เราต้องเปิดใจที่จะมองและยอมรับ นั่นจะทำให้เราเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันเพิ่มขึ้น
"หากไม่กล้า ก็ปรึกษาคนรอบข้าง"
หากคุณพยายามจะให้อภัยใครสักคน แต่ยังไม่สนิทใจ ลองพูดคุยกับคนที่ไว้ใจรอบตัวดูก่อน เผื่อจะได้ความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากที่เรามอง การติดอยู่ในความรู้สึกลบอาจทำให้เรามองข้ามเรื่องบางเรื่องไปโดยไม่ตั้งใจ บางครั้ง ‘กาวใจ’ จากคนอื่นก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกันนะคะ
.
.
การให้อภัยไม่ใช่แค่พูดออกไป แต่อภัยที่แท้จริงคือมาจากหัวใจที่ปล่อยวาง ชำระล้างจิตใจให้ไม่ผูกติดกับอารมณ์ขุ่นมัว ปลดตัวเองจากความเจ็บปวด แม้ว่าคุณไม่สามารถแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วได้ แต่คุณแก้ไขความรู้สึกนึกคิดของคุณเองได้นะคะ ลองดูสักตั้งค่ะ
.
.
w. ให้อภัยแต่ไม่ยุ่งด้วยค่ะ จบนะ ต่างคนต่างอยู่ไป
28 พ.ย. 2562 เวลา 17.52 น.
ป้าฮั้ว ให้อภัยไม่ยากหรอก
แต่กลับไปเหมือนเดิมนั้นไม่ได้แล้ว
คิดใหม่ทำใหม่จ้ะ
28 พ.ย. 2562 เวลา 17.28 น.
Tickety-Boo!!!🐈 การให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ การให้อภัย.
การให้อภัย ไม่ใช่การยอมแพ้หรือเสียเปรียบอะไร. แต่มันเป็นชัยชนะของ..ผู้มีปัญญา.
และการให้อภัย ถ้าเราทำได้หรือพยายามที่กำลังจะทำ. นั่นคือเรากำลังบำเพ็ญบารมีที่เรียกว่า.....
" อภัยทาน " อันเป็นทานบารมีอันสูงสุด.
28 พ.ย. 2562 เวลา 17.20 น.
BeeBee' เรื่องราวต่างๆๆๆที่เกิดขึ้น ผู้ที่ถูกกระทำ จะมีความรู้สึก โกรธ เกลียด แค้น อาฆาต พยาบาทและรอเวลาชำระแค้น ส่วนผู้ที่กระทำ อาจจะลืมไปแล้ว หรือคิดว่าทำนิดเดี่ยว โกรธ แค้น ขนาดนั้นเลยหรือ สรุปผู้ถูกกระทำคิดเป็นเรื่องใหญ่ ผู้กระทำคิดว่าเรื่องเล็ก แล้วมันจะจบลงแบบไหน ..... ผู้กระทำระวังจะตายโดยไม่รู้ตัว พึ่งสังวร ระมัด ระวังตัวเอง ส่วนผู้ ถูกกระทำมันจะเป็น สัญาความเคียดแค้นเก็บเอาไว้ในจิต รอวันเอาคืน......จะแก้มันได้ต้องปฏิบัติธัมมะ ล้างสัญญาที่เป็นอุปปาทาน ยึดไว้ออก...โดยใช
28 พ.ย. 2562 เวลา 17.41 น.
รัก โลภ โกธร หลง ล้วนแล้วก็ย่อมที่จะต้องพบเจอและหลีกเลี่ยงไม่พ้นต่อในการดำเนินชีวิตอย่างแน่นอน แต่ในการที่ไม่ไปยึดติดกับในสิ่งเหล่านั้นให้มากจนเกินไป ก็ย่อมจะช่วยทำให้ชีวิตย่อมมีความสุขได้เสมอ.
28 พ.ย. 2562 เวลา 20.56 น.
ดูทั้งหมด