จะบอกว่าสังคมทุกวันนี้มันบิดเบี้ยวผิดรูปไปมากก็คงไม่แปลก เพราะความคิดของคนสมัยนี้ก็ค่อนข้างประหลาด โดยเฉพาะเรื่องความถูก-ผิด
คนเดี๋ยวนี้อยู่ดี ๆ ก็งงว่าอะไรถูก อะไรผิด เหมือนอยู่ ๆ เรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องยาก ซึ่งมันน่าตกใจที่คนเรามาถึงขั้นแยกแยะถูก-ผิดไม่ออกกันแล้ว ทั้งที่มันไม่ได้ยากอะไรเลย เราแค่ต้องไม่สับสน ไม่อคติ และไม่ตีมึนกับเรื่องแบบนี้
ถ้ามันถูก ยังไงมันก็ถูก
ความถูกต้องก็เหมือนความจริง ไม่มีใครเปลี่ยนความจริงให้เป็นอย่างอื่นได้ และเรื่องอะไรที่มันถูกต้องก็ไม่มีตัวแปรอะไรมาทำให้มันเปลี่ยนจากความถูกต้องกลายเป็นความผิดได้ ในทางกลับกันเรื่องใดก็ตามที่มันผิด ก็ไม่มีวันทำให้มันถูกต้องได้เหมือนกัน
โดยเนื้อแท้ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าอะไรคือเรื่องดี ๆ เรื่องที่ถูกต้อง แต่ที่สังคมมันบิดเบี้ยวอย่างทุกวันนี้ก็เพราะคนบางคนพยายามทำเรื่องที่ผิดให้กลายเป็นถูก และคนส่วนใหญ่ดันเห็นชอบกับการกระทำนั้นเสียด้วย ทำให้บรรทัดฐานของสังคมถูกเปลี่ยนไป มองความผิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา และยอมรับได้
ทั้งที่ความจริง..ไม่มีตรงกลางระหว่างความถูก-ผิด ถูกก็คือถูก และผิดก็คือผิด จะเข้าข้างหรือเปลี่ยนวิธีคิดยังไง ผิดก็กลายเป็นถูกไปไม่ได้
ถ้ามันผิด ก็ผิดอยู่วันยันค่ำ
เรื่องผิด ๆ เป็นอะไรที่แยกแยะได้ง่ายมาก คนส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ทำลงไป ผิดหรือไม่ แต่ที่มันเป็นปัญหาอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเราไม่ค่อยยอมรับความจริงกันสักเท่าไหร่
เช่น การโกงทุกรูปแบบ ซึ่งชัดเจนมากว่าผิด แต่คนส่วนใหญ่จะตีมึน ถ้ามีผลประโยชน์ของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือนักการเมืองโกงประเทศชาติ แต่บางคนบอกไม่เป็นไร ถ้าเค้าฉลาดและสามารถทำให้ประเทศพัฒนาได้ ทั้งที่ในใจลึก ๆ ก็รู้กันอยู่แล้วว่าการโกงมันผิด!
ยิ่งเดี๋ยวนี้คนเราอาศัยช่วงชุลมุนกันเก่ง คนทำผิดเหมือนกันเยอะ ๆ อยู่ดี ๆ ก็มั่วทำไปกับเค้าด้วย เพราะคิดว่า ‘ใคร ๆ เค้าก็ทำกัน’ เพิ่มเราอีกสักคนคงไม่หนักหนาอะไรหรอกมั้ง แต่ในความเป็นจริง อะไรที่ผิด ก็คือผิด ไม่ว่ายังไงก็เปลี่ยนเรื่องที่ผิดให้กลายเป็นถูกหรือกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปไม่ได้ ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าไอ้ ‘ใคร ๆ เค้าก็ทำกัน’ นั่นก็ผิด!
จริง ๆ อะไรก็ตามที่ผิด คือไม่ปกติ คือแปลก คือเรื่องที่ไม่ควรจะมีใครทำ และไม่ควรทำตาม ถ้าเราแยกออกว่าอะไรคือถูก-ผิด เราจะไม่มองว่าความผิดคือเรื่องปกติ เพราะความคิดแบบนี้คือความคิดของคนมักง่าย เอาความสบายของตัวเองเป็นที่ตั้ง โดยไม่มองความเป็นจริงที่เกิดขึ้นว่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน หรือไม่เคารพกติกาของสังคมยังไงบ้าง
‘ถูก-ผิด’ ต้องไม่มีคำว่า ‘แต่’
สมัยนี้คนเราข้ออ้าง ข้อแม้เยอะ จะทำอะไรแต่ละทีต้องมีเงื่อนไขมากมาย ไม่เว้นแม้กระทั่งความถูก-ผิด แต่ก่อนเราตอบได้ทันทีว่าอะไรคือถูก อะไรก็คือผิด แต่เดี๋ยวนี้มันมีทั้งข้อแม้ รายละเอียด ความต้องการ เสียงสนับสนุน และคำว่า ‘แต่’ อยู่เต็มไปหมด
จะบอกว่าตอนนี้เป็นยุคของการทำผิดแต่อาจไม่ได้หมายความว่าผิดอีกต่อไป จะว่าคนเดี๋ยวนี้ใจกว้างขึ้นก็คงไม่ใช่ อาจเป็นเพราะคนส่วนใหญ่มองเรื่องความถูก-ผิด แตกต่างออกไปอย่างเดิม กลายเป็นว่าทำผิดไม่เป็นไร แต่..แค่ทำดีบ้าง หรือทำผิดบ้างก็ได้ แต่..ต้องผิดน้อยกว่าคนอื่น
ทั้งที่บรรทัดฐานของสังคมมันควรจะเป็นการที่ไม่ว่าจะผิดมาก หรือผิดน้อย ยังไงก็คือความผิด คำว่า “แต่” เป็นแค่ข้ออ้างที่ไม่ค่อยชอบธรรมเพื่อให้ความผิดนั้น ดูเบาบางลง ซึ่งจริง ๆ แล้วเส้นแบ่งของความถูก-ผิด มันชัดเจนในตัวมันอยู่แล้ว คนเรารู้อยู่แล้วว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรควร และอะไรไม่ควร
ตอนนี้เส้นแบ่งถูก-ผิด อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นเส้นเบลอ ๆ จนแทบแยกไม่ออก และอยู่่ดี ๆ ทุกคนในสังคมก็เหมือนจะงงว่าอะไรถูก อะไรผิด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ความถูก-ผิดมันชัดเจนมาก มันไม่ได้ยากเลยที่จะมองเห็นว่าบางสิ่งบางอย่างไม่เหมาะ ไม่ควร เราต้องไม่สับสนว่าเรื่องนี้ ไม่เอาอารมณ์ไปครอบงำ ไม่เอาอคติไปตัดสิน เพราะทุกอย่างมันชัดเจนในตัวของมันอยู่แล้ว ไม่มี “แต่” และไม่มีตรงกลางระหว่างความถูก-ผิด
'ถูกของเขา ผิดของเรา'
จริงอยู่ที่เส้นแบ่งความถูก-ผิดไม่ได้มีกับทุกเรื่อง มันจะมีบางเรื่องที่ถูกของเขา อาจจะเป็นผิดของเราก็ได้ เพราะบางทีการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ วัน เวลา และเหตุการณ์ที่แต่ละคนต้องเผชิญ คนเรามีข้ออ้างมากมายที่ทำให้เหตุการณ์นั้น ‘ถูก’ หรือ ‘ผิด’ ตามที่ตัวเองต้องการ
เช่น การอยู่กินก่อนแต่งงาน การทำแท้ง หรือประเด็นสังคมอื่น ๆ ที่ถกเถียงกันอยู่ตอนนี้ บางคนว่าถูก บางคนว่าผิด เพราะทุกคนต่างมีบริบทในการตัดสินใจที่ต่างกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้
จริง ๆ แล้วคนเราไม่จำเป็นต้องตัดสินทุกเรื่องว่าถูกหรือผิด อย่างที่บอกว่าเส้นแบ่งความถูก-ผิดมันไม่ได้มีกับทุกเรื่อง ยิ่งไม่ใช่เรื่องของเรา ยิ่งไม่ต้องไปขีดเส้นแบ่งให้เขา เพราะเราไม่สามารถไปตัดสินความถูก-ผิดของใครได้ ยกเว้นตัวเราเองที่ต้องรู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้น อะไรถูก และอะไรผิด
ANUNPOL ใช่แล้วครับถูกต้องเลยมันเป็นแบบนี้จริงๆทุกวันนี้
03 พ.ค. 2564 เวลา 01.10 น.
"SYMMETRI" เมืองไทยใช้หลัก ถูกใจแต่ไม่ถูกต้อง มานาน พวกกรูทำผิดกรูก็มองว่าไม่ผิด บ้านเมืองเลยบิดเบี้ยวแบบทุกวันนี้
03 พ.ค. 2564 เวลา 04.24 น.
คนมักไม่มีใครๆยอมรับความผิดของตัวเองแต่มักมองเห็นความผิดผู้อื่นเป็นมานานเช่นนั้นแล
03 พ.ค. 2564 เวลา 00.58 น.
Oh จริง ถูกคือถูก ผิดคือผิด นะสอยู๊ดด
03 พ.ค. 2564 เวลา 02.44 น.
ไม่นะ / แต่ก่อนผู้คนทั่วไปเชื่อว่าโลกแบน ปัจจุบันเชื่อว่าโลกกลม นี้เป็นตัวอย่างชี้ชัดว่า ผิด/ถูก ไม่พ้นความจริงที่ปรากฏและเมื่อได้พิสูจน์แล้ว.
03 พ.ค. 2564 เวลา 02.47 น.
ดูทั้งหมด