เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - นสพ.เซาท์มอร์นิงไชนาโพสต์รายงานถึงตระกูลชินวัตร 2 วันซ้อน ตั้งคำถามว่าใกล้วันเลือกตั้งทั่วไปในไทยเข้ามา แต่ยังเป็นปัญหาว่า "ทักษิณ ชินวัตร" จะยังคงทำให้ตระกูลกลับมาผงาดอีกครั้งเหมือนเมื่อชนะการเลือกตั้งในปี 2001 ได้หรือไม่ โดยลงรูปภาพบุตรชายคนโต “พานทองแท้ ชินวัตร” ที่ในเวลานี้มีอายุ 39 ปีแล้ว พร้อมกล่าวว่า เป็นคนในตระกูลชินฯล่าสุดที่กระโดดเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ก่อนแกะรอยทักษิณและน้องสาว ยิ่งลักษณ์ ที่ได้เดินทางไปเคารพบรรพชนที่หมู่บ้านในมณฑลกว่างตง ทางใต้ของจีน
หนังสือพิมพ์เซาท์มอร์นิงไชนาโพสต์ สื่อฮ่องกง รายงานเมื่อวานนี้(20 ม.ค)ว่า หากว่าไม่ใช่เรื่องที่พลิกเหนือความคาดหมายที่เกิดรัฐบาลของพลเอก สุรยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เกิดกระพริบตาก่อน ไทยคงจะได้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างที่ตั้งตารอคอยหลังจากป่วยเป็นโรคเลื่อนมานาน ในขณะที่มีการประท้วงเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯสัปดาห์ที่แล้วในเรื่องนี้ ที่อาจเสี่ยงต่อการถูกจับเข้าคุก
วันพฤหัสบดี(16) ก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไทยได้ส่งสัญญาณยืนยันอย่างหนักแน่นล่าสุดว่า บรรดาผู้นำของกองทัพต่างคาดหวังว่า จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 24 มี.คนี้ แต่ทว่าบรรดานักวิเคราะห์ได้พากันขบคิดถึงคำถามที่ว่า เมื่อใดกันแน่ที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และ “ตระกูลชินวัตร” ที่ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ในปี 2001 และทุกการเลือกตั้งนับตั้งแต่นั้น จะสามารถกลับมาผงาดได้ในรอบนี้หรือไม่
พรรคเพื่อไทย ซึ่งถือเป็นจักรกลทางการเมืองของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีตลอดกาลของไทย ซึ่งทางสื่อฮ่องกงชี้ว่า พรรคนี้จงรักภักดีต่อทักษิณและอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ซึ่งเป็นน้องสาว เป็นอย่างมาก และได้ออกอาการตื่นเต้นสุดขีดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเมื่อรัฐบาลไทยได้ออกคำสั่งยกเลิกการห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง
แต่ทว่า…นักสังเกตการณ์ต่างพากันไม่แน่ใจว่า ทางพรรคจะยังคงมีศักยภาพพอในด้านกลยุทธวิธีหรือในความนิยมในหมู่กลุ่มฐานเสียงเดิม
ซึ่งยุทธศาสตร์ของพรรคที่ใช้ คือการใช้นโยบายประชานิยมเพื่อฐานเสียงรากหญ้าพร้อมไปกับชื่อตระกูลชินวัตรด้วยการส่งสมาชิกของตระกูลชินวัตรลงสมัคร แต่อาจกลายเป็นความผิดพลาดในรอบนี้ ดันแคน แม็คคาร์โก(Duncan McCargo) นักสังเกตการณ์ที่จับตาตระกูลชินวัตรมาอย่างยาวนานชี้
กลายเป็นเรื่องที่น่าสงสัยในยุทธศาสตรของตระกูลชินวัตรล่าสุด ที่ได้ส่งสาวกที่จงรักภักดีไปลง 3 พรรคการเมืองได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคเพื่อธรรม เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์ชี้
โดยพรรคมุ้งเหล่านี้คาดว่าจะต้องฟาดฟันอย่างหนักกับ "พรรคพลังประชารัฐ" ซึ่งเป็นพรรคฐานเสียงของคณะรัฐประหารชุดพลเอกประยุทธ์ ซึ่งทางพรรคได้ออกมาโยนหินถามทาง โดยประกาศว่า หากว่าทางพรรคชนะการเลือกตั้ง พลเอกประยุทธ์จะกลับเข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน บวกไปกับความท้าทายของพรรคประชานิยมเช่นพรรคเพื่อไทยต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่
คาร์โกเจ้าของหนังสือ “สถานีทักษิณแห่งประเทศไทย” (The Thaksinisation of Thailand)ได้แสดงทัศนะว่า
“ถือเป็นช่วงเวลาอย่างแท้จริงของพรรคเพื่อไทยในการประเมินเข้าไปถึงความหลากหลายและความมั่นคงของพรรคในการที่จะบริหารพรรค ให้ถอยห่างจากความเป็นธุรกิจในครอบครัว หาไม่แล้ว ทางพรรคคงต้องประสบต่อความยุ่งยากในการที่จะยังคงความเป็นผู้นำในสนามการเลือกตั้ง”
และสำหรับยุทธศาสตร์ 3 พรรค คาร์โกกล่าวให้ความเห็นว่า ในตอนแรกเขาไม่แน่ใจนักว่า นี่เป็นความตั้งใจแต่แรกหรือไม่ โดยชี้ไปว่า “ 3 พรรคนั้นล้วนแล้วแต่สะท้อนความเป็นพันธมิตรของทักษิณที่ต่างกันออกไป และไม่จำเป็นต้องมีการจัดการที่สอดคล้องกัน”
ทักษิณซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ก่อตั้งพรรคเมื่อ 20 ปีก่อนหน้า และเขาได้ให้น้องเขยของตัวเอง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และน้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นนั่งเป็นนายกฯหลังจากที่ตัวเองถูกทำรัฐประหารและมีความผิดทางอาญาจนต้องลี้ภัยไปต่างแดน
สื่อฮ่องกงชี้ว่า และในการเลือกตั้งที่กำลังจะใกล้เข้ามา พบว่าคนในตระกูลชินฯหน้าใหม่จะลงสู่สนามเลือกตั้งภายใต้ค่ายพรรคเพื่อไทย ซึ่งนั่นก็คือ บุตรชายคนโต พานทองแท้ ชินวัตร วัย 39 ปี
โดยสื่อไทยรายงานในวันที่ 26 พ.ย ปีที่แล้วว่า “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และยังมีรายงานในวันถัดมาอีกว่า ทางพรรคจัดให้พานทองแท้ขึ้นเวทีปราศรัยคู่นักการเมืองฝีปากกล้า อดีตรัฐมนตรีของไทย เฉลิม อยู่บำรุง
และล่าสุดเมื่อราวกลางเดือนนี้ พานทองแท้ออกแถลงการณ์ผ่านทางทวิตเตอร์ แสดงความไม่พอใจที่พรรคเพื่อไทยของตัวเองถูกคำสั่งห้ามไม่ให้สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยาเพื่อทำการหาเสียง โดยชี้เปรียบเทียบไปถึงพรรคการเมืองที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ พรรคพลังประชารัฐ สามารถเข้าใช้ได้
“ วันก่อนห้าม “พรรคเพื่อไทย”ใช้พื้นที่ฯ หาเสียง
วันนี้เวลคัมอีกพรรคฯ เชิญได้เลยเต็มที่..!!
2 วัน2มาตรฐาน จาก“หลังตีน” กลายเป็น“หน้ามือ”
เลือกตั้งครั้งนี้ จึงไม่เหมือนทุกครั้งทั่วไป
มันคือการแข่งขัน ระหว่าง “พลังประชาชน” กับ “พลังอำนาจรัฐ”
ใครอยู่ -ใครไป วันหย่อนบัตรรู้กัน..!!” รายงานจากทวิตเตอร์ของพานทองแท้ ชินวัตร อ้างอิงการรายงานจากสื่อไทย
ด้าน รศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ ประจำคณะคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แสดงความเห็นกับหนังสือพิมพ์เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์ว่า "พรรคไทยรักษาชาติ" ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาใหม่ กลุ่มคนนั้นเชื่อมโยงกับทักษิณเป็นอย่างมาก เกี่ยวข้องอย่างสำคัญกับพรรคเพื่อไทย ซี่งอ้างอิงจากรศ.ดร.ฐิตินันท์ ที่ได้ชี้ว่า หนึ่งในผู้สมัครที่จะลงรับการเลือกตั้งภายใต้แบรนด์พรรคนี้เป็นหลานสาวของยิ่งลักษณ์คือ ชยิกา วงศ์นภาจันทร์
ดันแคน แม็คคาร์โกกล่าวว่า “ในขณะที่ยิ่งลักษณ์ถูกขึ้นชื่อว่า เป็นเหมือนหลักทรัพย์ทางการเลือกตั้งที่มีมูลค่าสูง ถือเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จที่ได้รับการสนับสนุนจากฐานเสียงและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกองทัพและกลุ่มอำนาจเก่า แต่ในเวลานี้ แม็คคาร์โกชี้ว่า ***ยังคงเป็นที่สงสัยว่า “โอ๊ค พานทองแท้” จะสามารถทำได้หรือไม่***
ในขณะที่คนอื่นๆต่างกล่าวว่า ทางพรรคมีตัวเลือกจำกัด เว้นแต่ที่จะยังคงต้องชูคนในตระกูลชินฯต่อไป ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ที่หาทางอย่างออกหน้าในการที่จะทำให้ผลักดันให้พ้นจากสนามการเมืองไทย
สื่อฮ่องกงกล่าวว่า การทำรัฐประหารในไทย 2 ครั้งเมื่อปี 2006 และปี 2014 ถูกมองว่าเป็นความล้มเหลวในการทำให้ขบวนการทักษิณหมดไป ที่มีสถาบันทางการเงินให้การสนับสนุนจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในขณะที่กลุ่มปกป้องสถาบัน และคนชั้นกลางในเมืองต่างโจมตีตระกูลชินวัตรด้วยความเกลียดชัง และถูกมองว่าให้การสนับสนุนการทำรัฐประหารต่อตระกูลนี้
โดยเซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์ได้รายงานไปถึง ชยิกา หลานสาวของยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นบุตรสาว เยาวเรศ ชินวัตร ตัวแทนจากพรรคไทยรักษาชาติได้กล่าวผ่านอินสตราแกรมของตัวเองล่าสุดว่า
“ครั้งแรกในชีวิตกับการปราศรัยบนเวที ขอบันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำว่าวันนี้หลังพูดบนเวทีเสร็จ น้ำตาไหล ทั้งเสียงทั้งมือสั่นไปหมด แต่ดีใจที่ได้มายืนตรงจุดนี้ จุดที่เราจะได้บอกกับทุกคนในสิ่งที่เราเห็นจากประสบการณ์การทำงาน10 ปีที่ผ่านมาว่า "ความยากจนไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาด"ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องคิดใหม่ ทำใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าอีกครั้งค่ะ”
และความพยายามล่าสุดในการต่อต้านพรรคเพื่อไทย สื่อฮ่องกงชี้ว่า คือกฎการเลือกตั้งใหม่ในประเทศใหม่ โดยชี้ไปที่ส.วที่ถูกคัดสรรค์จากการแต่งตั้งของกองทัพจะสามารถดำรงตำแหน่งได้นาน 5 ปี
อ้างอิงจากสื่อไทยพบว่า ตามบทเฉพาะกาลของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. กำหนดให้ ส.ว.ชุดแรกมีทั้งหมด 250 คน ซึ่งแต่งตั้งโดยพระมหากษัตริย์ตามที่ คสช.ถวายคำแนะนำ โดยมีช่องทางสรรหาทั้งหมด 3 ทางคือ
1.ให้คณะกรรมการสรรหาส.ว.ซึ่งแต่งตั้งโดย คสช. จำนวน 9-12 คน คัดเลือกบุคคลมาทั้งหมด 400 รายชื่อยื่นเสนอต่อ คสช. จากนั้น คสช.จะเป็นผู้เลือกให้เหลือ 194 รายชื่อ เพื่อเป็นส.ว. และคัดเป็นรายชื่อสำรอง 50 รายชื่อ
2.ให้ กกต. จัดให้มีการคัดเลือกส.ว.ตามบททั่วไป แต่ให้มีการรับสมัครเพียงแค่ 10 กลุ่มอาชีพ ตามมาตรา 91 และให้มีการดำเนินการคัดเลือกตามที่บทเฉพาะกาลบัญญัติไว้ สุดท้ายให้ได้รายชื่อทั้งหมด 200 รายชื่อ เพื่อยืนให้ คสช. คัดเลือกให้เหลือ 50 รายชื่อเพื่อเป็นสมาชิกวุฒิสภา และคัดเป็นรายชื่อสำรอง 50 รายชื่อ
3.ให้มีส.ว.โดยตำแหน่ง 6 ตำแหน่งดังนี้ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทสส. ผบ.ทบ. ผบ.ทร. ผบ.ทอ.และผบ.ตร.
ส.ว.ชุดนี้จะมีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี และในวาระเริ่มแรกจะมีอำนาจให้ความเห็นชอบผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้
สื่อฮ่องกงชี้ต่อว่า ในขณะที่ส.สได้มีการแก้ไขว่าด้วยตัวแทนแบบสัดส่วน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นผลลบกับพรรคใหญ่เช่น พรรคเพื่อไทย และทำให้ในสถานการณ์เช่นนี้ ทางพรรคคงต้องทำทุกสิ่งเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้ตัวแทนผู้สมัครไม่สละเรือไปก่อน นักวิเคราะห์ชี้ และรวมไปถึงการใช้แม่เหล็กคนตระกูลชินฯ เช่น พานทองแท้ และ ชยิกา ลงสนามเลือกตั้งรอบนี้
พอล แชมเบอร์ส (Paul Chambers) อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยนเรศวร และนักสังเกตการณ์ทางการเมืองได้กล่าวว่า “ปราศจากคนตระกูลชินวัตรเข้ามาร่วมด้วย อาจมีนักการเมืองบางส่วนเริ่มเก็บสัมภาระและจากไป เป็นเพราะทักษิณและยิ่งลักษณ์ยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างจังหวัด”
ส่วนเควิน เฮวิสัน(Kevin Hewison) นักวิจัยทางการเมืองชาวออสเตรเลีย กล่าวว่า รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ได้ทำการห้ามลงรูปยิ่งลักษณ์และทักษิณในแคมเปญหาเสียงเลือกตั้ง ***จึงทำให้บุตรชาย “โอ๊ค” พานทอง แท้กลายเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลไป***
แต่ทว่า โอ๊ค ที่ปัจจุบันอยู่ในวัย 39 ปีประสบปัญหาที่สำคัญคือ เขาถูกตั้งข้อหาฟอกเงิน ซึ่งทางตระกูลชินฯออกมาชี้นิ้วว่า เป็นข้อหาทางการเมืองเหมือนที่ได้กระทำกับทักษิณและยิ่งลักษณ์
โดยรศ.ดร.ฐิตินันท์ได้แสดงความเห็นถึงบุตรชายทักษิณว่า เขาไม่คาดการณ์ว่า พานทองแท้จะมีบทบาทศูนย์กลางทางการเมืองเนื่องมาจากคดีความของเขา และเฮวิสันเสริมต่อในจุดนี้ว่า หากว่าพานทองแท้สามารถเกิดได้จริงทางการเมืองระหว่างการหาเสียง จากการที่เป็นทายาทสายตรงของทักษิณ มันอาจจะยังไม่มากเพียงพอ
ซึ่งภายใต้กฎหมายการเลือกตั้งใหม่ ทางพรรคไม่ดูเหมือนว่าจะสามารถได้เสียงส่วนใหญ่จากที่นั่งในสภาล่างทั้งหมด 500 ที่นั่ง แต่อาจได้สัดส่วนมากที่สุดในป็อปปูลาร์โหวต
ซึ่งจากความเห็นของเฮวิสันที่ได้ชี้ว่า มีปัจจัยด้านกำหนดวันเลือกตั้งในการช่วยตระกูลชินวัตร
และในขณะเดียวกัน สื่อฮ่องกงได้รายงานต่อไปถึง หมู่บ้านในมณฑลกว่างตง ทางใต้ของจีน ซึ่งมีภาพของอดีตนายกรัฐมนตรีไทยถึง 2 คนได้แก่ ทักษิณ ชินวัตร และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประดับอยู่ สำหรับการตามร่องรอยของคนทั้งคู่ล่าสุด
"ทุกคนในที่นี่รู้ว่าบุคคลทั้งสองเกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้อย่างแน่นอน” ซี ยีมิน ( Xie Yimin ) เจ้าของร้านอุปกรณ์ในบ้านตั้งในหมู่บ้านต้าเซียะ (Taxia village ) มณฑลกว่างตง ห่างออกไปจากเมืองเอกของมณฑล เมืองกว่างโจว 4 ชั่วโมงจากทางรถ
ซึ่งก่อนที่ทั้งทักษิณและยิ่งลักษณ์ต้องหลบไปอาศัยอยู่แต่ในต่างแดน คนทั้งคู่เป็นคนคุ้นเคยของที่นี่ สื่อฮ่องกงชี้ และด้วยการช่วยเหลือของรัฐบาลจีนในช่วงที่ทักษิณยังคงอยู่ในตำแหน่ง พบว่าเขาสามารถตามร่องรอยบรรพบุรุษต้นตระกูลของตัวเองจนมาพบที่หมู่บ้านแห่งนี้
พบว่าทักษิณเดินทางมาเยือนหมู่บ้าต้าเซียะครั้งแรกในปี 2005 และเดินทางมาพร้อมกับน้องสาว ยิ่งลักษณ์ อีกครั้งเมื่อปี 2014 ล่าสุด
ภาพของคนทั้งคู่ถูกประดับท่ามกลางรูปภาพลูกหลานของหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ได้แก่ตระกูลชิว (Qiu )
ทว่าความเป็นผู้มีชื่อเสียงของตระกูลชินวัตรสำหรับในหมู่บ้านนี้เริ่มที่จะหมดไป โดยซีกล่าวว่า “การเป็นญาติห่างๆกับ (ตระกูลชินวัตร) ถือเป็นสิ่งที่คนที่นี่ชอบพูดกัน"
แต่ไม่อีกต่อไป เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์ชี้
ในการเดินทางมาเยือนหมู่บ้านบรรพบุรุษเมื่อวันที่ 5 ม.ค ปี 2014 กลายเป็นการมาเยือนอย่างเงียบๆ อ้างอิงจากสื่อจีน โดยพบว่าทั้งทักษิณและยิ่งลักษณ์ต่างหยุดแวะที่ศาลเจ้าเพื่อทำการสักการะ
"นี่ไม่เหมือนกับการเดินทางมาก่อนหน้า” ซีแสดงความเห็นกับสื่อฮ่องกง ซึ่งร้านจำหน่วยอุปกรณ์ภายในบ้านของเธอนั้นตั้งห่างออกไปจากศาลเจ้าเพียงไม่กี่อึดใจ
“นับตั้งแต่เกิดเรื่องอื้อฉาวกับยิ่งลักษณ์ พวกเราถูกร้องขอให้เก็บความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาและหมู่บ้านของเราไว้ในระดับที่ไม่ต้องเปิดเผยมากนัก”
และเสริมต่อว่า “ทางหมู่บ้านเพิ่งทราบถึงการมาเยือนของคนทั้งคู่ก็ต่อเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้า ซึ่งตำรวจได้เริ่มต้นปิดถนน ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับการมาเยือนครั้งก่อนหน้านั้น พวกเราได้รับแจ้ง 1 สัปดาห์ล่วงหน้า”
ซีให้ข้อมูลว่า ชาวหมู่บ้านถูกสั่งให้ออกให้ห่าง มีเพียงเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐและญาติห่างๆของตระกูลชินวัตรเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ได้
โดยซีได้เปิดเผยว่า ทักษิณและยิ่งลักษณ์ได้ใช้เวลาการเยือนหมู่บ้านต้าเซียะนานครึ่งชั่วโมง พร้อมกับป้ายต้อนรับที่ถูกขึ้นว่า "ขอต้อนรับการกลับมาของ "ทักษิณ" และ "ยิ่งลักษณ์" "
เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์รายงานว่า การเดินทางไปเยือนหมู่บ้านบรรพบุรุษของทักษิณและยิ่งลักษณ์ สื่อภาครัฐของจีนถูกสั่งให้เลื่อนการรายงานออกไปภายในวันนั้น
ด้าน Qiu Mingqian สมาชิกคณะกรรมการหมู่บ้านต้าเซียะออกมาให้ความเห็นว่า ดูเหมือนแผนการที่จะอนุรักษประวัติศาสตร์ในหมู่บ้านแห่งนี้ที่เกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตรถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด
"ทางรัฐบาลจีนต้องการอนุรักษ์สิ่งสำคัญทางมรดกประวัติศาสตรที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา และทำให้วัดบรรพชนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง” Qiu ชี้ และเสริมว่า “แต่ดูเหมือนแผนการไม่เคยดูจะคืบหน้า ด้วยเหตุผลด้านการเมือง”
p o r จะเสนอข่าวไอ้พวกขี้โกงไปทำไม
21 ม.ค. 2562 เวลา 10.50 น.
ผัสพร ถามทักษินตอบไม่ได้หรอก ต้องถามปู ตอบได้แน่นอน เอาอยู่ค่าาาาา
21 ม.ค. 2562 เวลา 10.15 น.
ยาวชิบ อ่านไม่ไหวงดออกความเห็น
21 ม.ค. 2562 เวลา 10.17 น.
Aunn.ซี่แน่ เข้าทางโอ็ค ถ้าเพื่อไทยแพ้ มันไปฮ่องกงไม่กลับ เอารูปไปแขวนร่วมกับโคตรเง่าห่างๆของมัน
21 ม.ค. 2562 เวลา 11.16 น.
YEANG ขยะ
21 ม.ค. 2562 เวลา 11.14 น.
ดูทั้งหมด