ไลฟ์สไตล์

กรมสุขภาพจิตแนะก่อนขับขี่รถบนถนน ควรตั้งสติ มีน้ำใจต่อผู้ร่วมเส้นทาง

TODAY
อัพเดต 24 ต.ค. 2562 เวลา 04.42 น. • เผยแพร่ 24 ต.ค. 2562 เวลา 04.42 น. • Workpoint News

กรมสุขภาพจิต แนะตั้งสติ เตรียมกายใจให้พร้อมก่อนขับขี่บนท้องถนน รู้จักให้อภัยแบ่งปันน้ำใจต่อผู้ร่วมเส้นทาง แนะ 5 วิธี ป้องกันความรุนแรงที่เหมาะสมที่ควรทำในการขับขี่ยานพาหนะ เชื่อทุกคนมีสิทธิเลือกวิธีตอบสนองอารมณ์ของตัวเองภายใต้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ปัจจุบันการเดินทางบนท้องถนนเป็นเรื่องที่เครียดสำหรับใครหลายๆ คนเนื่องจากต้องใช้ระยะเวลานานอยู่บนท้องถนนที่มีการจราจรติดขัด เกิดมลภาวะ และมีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่ค่อยเคารพกฏจราจรและขับขี่อันตราย ความเครียดต่างๆ เหล่านี้ อาจก่อให้เกิดการกระทบกระทั่งบนท้องถนนได้บ่อยครั้ง ซึ่งการบันดาลโทสะบนท้องถนน หรือ road rage มักพบได้ตั้งแต่การแสดงภาษากาย การแสดงความรุนแรงทางวาจา การทะเลาะวิวาททางกายภาพ หรือแม้แต่การใช้อาวุธทำร้ายร่างกายกัน โดยส่วนมากมักจะเริ่มจากความรุนแรงเล็กๆ และขยายตัวเป็นความรุนแรงที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ การทะเลาะกับคนแปลกหน้าบนท้องถนนเล็กน้อยอาจนำไปสู่ปัญหาที่เป็นคดีความทางอาญาได้หากไม่มีวิธีการป้องกันที่ดี

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยวิธีการป้องกันความรุนแรงที่เหมาะสมที่ควรทำในการขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนน ควรปฎิบัติดังนี้ คือ 1.เผื่อเวลาก่อนออกเดินทาง เพราะเส้นทางอาจมีการจราจรติดขัดหรือมีอุบัติเหตุ การเผื่อเวลาจะทำให้เราไม่ร้อนรนในการขับขี่, 2. ตั้งสติก่อนสตาร์ท ให้มีสติรู้ตัวเสมอว่าตนเองกำลังจะไปไหน มีใครรออยู่ และเตรียมสภาพกายและจิตใจให้พร้อมก่อนการขับขี่ยานพาหนะ โดยดูว่ามีความพร้อมหรือไม่, 3. สร้างบรรยากาศ โดยการเปิดเพลงที่ชอบและร้องตาม หรือพูดคุยเรื่องดีๆ กับคนที่โดยสารมาด้วย, 4. อย่าคาดหวัง เพราะเราอาจต้องพบเจอผู้คนที่มีมารยาทบนท้องถนนแตกต่างกัน จึงไม่ควรคาดหวังว่า เราจะปรับพฤติกรรมของคนอื่นได้ ควรมองการขับขี่ถูกต้องและปลอดภัยของตนเองเป็นหลัก และ 5. เป็นคนใจดีบนท้องถนน โดยขับขี่เคารพกฏจราจร แบ่งปันน้ำใจต่อผู้ร่วมเส้นทาง ให้อภัย ไม่เก็บเอาความรุนแรงจากคนอื่นมาใส่ใจ ไม่มองถนนเป็นสนามแข่งที่ต้องมาเอาชนะกัน เน้นการเดินทางถึงเป้าหมายอย่างปลอดภัยพร้อมรอยยิ้ม

วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ถนนอโศกมนตรี

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

การกล่าวอ้างถึงปัญหาความรุนแรงบนท้องถนนกับอาการป่วยทางด้านสุขภาพจิตของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในหลายๆ เหตุการณ์ สังคมไทยควรทำความเข้าใจว่า แม้การมีปัญหาด้านสุขภาพจิตควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และปัญหาด้านสุขภาพจิตบางกลุ่มโรค เช่น โรคทางอารมณ์ โรควิตกกังวล ที่อาจทำให้มีอารมณ์แปรปรวนง่าย เศร้าเสียใจ หรือหงุดหงิดได้ง่ายกว่าปกติ อาจจะทำให้ผู้ป่วยควบคุมอารมณ์ได้ยากก็ตาม แต่พฤติกรรมหรือการกระทำที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นล้วนเป็นการตัดสินใจส่วนบุคคล *ทุกคนมีสิทธิเลือกวิธีตอบสนองอารมณ์ของตัวเองภายใต้ความรับผิดชอบของตัวเอง *

ปัญหาสุขภาพจิตจึงไม่ควรถูกยกมาเป็นคำอธิบายในการกระทำไม่ดีต่อผู้อื่นหรือกระทำไม่ดีกับสังคม เพราะจะทำให้สังคมมองภาพลักษณ์ผู้ป่วยจิตเวชในแง่ลบ “สังคมไทยควรเรียนรู้ที่จะยืนหยัดในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้ที่จะให้อภัย” อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 24
  • Archangel Que
    แค่จอดทางม้าลายให้คนข้ามคันหลังก็ยกไฟ ไล่ปาดแล้วครับ 😏
    24 ต.ค. 2562 เวลา 06.10 น.
  • Vinay
    ผู้ขับขี่ควรมีสามัญสำนึกด้วยครับ
    24 ต.ค. 2562 เวลา 06.07 น.
  • เดี่ยว LVP
    ทุดครั้งที่ผมขับจะมีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทางตลอดแต่เจอทุกครั้งพวกไร้น้ำใจพวกแทรกพวกเบียดตลอดแล้วจะให้พวกผมทำยังไงโดยเฉพาะพวกไร้น้ำใจ
    24 ต.ค. 2562 เวลา 06.37 น.
  • dang
    ขับรถการมีระเบียบวินัยรักษากฏจราจรเป็นเรื่องที่ถูกต้องแต่ไม่ใช่คาดหวังว่ารถคันอื่นจะต้องให้น้ำใจคุณตลอดเส้นทาง อย่างเคสน้องแว่นกลับรถคุณต้องรอระยะปลอดภัยจากรถทางตรง ไม่ใช่ให้กระบะที่มาทางตรงให้น้ำใจ ต้องเข้าใจกฏจราจรไม่ใช่เรียกร้องน้ำใจจากเพื่อนร่วมทาง เพราะตูขับรถมายี่สิบกว่าปีมากกว่าอายุน้องแว่นไม่เคยว่าใครไม่มีน้ำใจที่ไม่หยุดรถให้
    24 ต.ค. 2562 เวลา 06.19 น.
  • SomphongDe
    น้ำใจไม่พอต้องรู้อภัยด้วยครับ
    24 ต.ค. 2562 เวลา 06.27 น.
ดูทั้งหมด