สัญญาณแปร่ง "ฝ่ายค้าน" ส่อเค้ารัฐบาลอยู่ยาว

อภิปรายงบประมาณรายจ่ายปี 63 มีทั้งที่เป็นตามคาด คือรัฐบาลชี้ถึงความสำคัญเพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศ ส่วนฝ่ายค้าน ชี้ถึงความผิดพลาดบกพร่อง ไม่ตอบโจทย์ประชาชน

แต่ที่ผิดความคาดหมาย คือ ความเป็นเอกภาพของฝ่ายค้าน ที่ส่อเค้าตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ โหวตค้าน พรก.โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพและกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการ ถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ วันเดียวกัน ก่อนถึงวาระพิจารณางบ ปี 63

แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับร่าง พ.ร.บ.งบฯ ฉบับนี้ แต่ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สะท้อนจุดยืนที่แตกต่างกันของฝ่ายค้าน เนื่องจากพรรคอื่นๆ ในฝ่ายค้านก็โหวตสนับสนุน

นำไปสู่ประเด็นพาดหัว "ฝ่ายค้านเสียงแตก" บนหน้าสื่อหลัก ทั้งที่ในทางปฏิบัติ เรื่องอย่างนี้ ฝ่ายค้านต้องมีการหารือ และให้มีมติไปในทิศทางเดียวกัน

มิหนำซ้ำ ยังมี ส.ส.อนาคตใหม่บางส่วนโหวตสวนทาง และบางส่วนงดออกเสียง หรือไม่ร่วมประชุม

ทั้งที่สถานการณ์ปัจจุบัน ฝ่ายค้านต้องผนึกกำลังกันให้แน่น หากต้องการให้บทเรียนกับรัฐบาล หรืออาจถึงขั้นให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปไม่ได้

ก่อนวันอภิปราย นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.และแกนนำสำคัญพรรคเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งเน้นนโยบายด้านเศรษฐกิจตั้งแต่ต้น ก็ยืนยันผ่านคนพรรคเพื่อไทย ไม่ขอร่วมวงอภิปรายงบ อ้างขอจองกฐินในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจทีเดียวเลย ก็ทำให้กองเชียร์รู้สึกทะแม่งๆ ชอบกล

ยังมีกรณี พล ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ประกาศกลางสภาผู้แทนฯว่า พรรคจะไม่ร่วมพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ด้วย ซึ่งหากตีความ "ไม่ร่วมพิจารณา" ครอบคลุมไปถึงการไม่ลงมติโหวตเสียงด้วยแล้ว ยิ่งจะทำให้เสียงฝ่ายค้านหายไปอีกถึง 10 เสียง เลิกฝันเรื่องจะคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบได้เลย

ยังไม่นับรวม เรื่องขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทย เรื่องจะส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ลงแข่งขันด้วยหรือไม่ หลังจากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ถูกวางตัวไว้ล่วงหน้าให้เป็นผู้สมัครของพรรค กลับเปิดตัวและประกาศจะลงสมัครอิสระ ไม่สังกัดพรรค

แม้ท่าทีแกนนำสำคัญในพรรค อย่างนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรค หรือนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค จะสนับสนุน โดยมีนัยไม่ส่งผู้สมัครคนอื่นลงแข่ง เพราะจะตัดคะแนนกันเอง

แต่สำหรับกลุ่ม กทม.ที่มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เคยเป็นประธานภาค กลับเปิดแถลงอ้างเป็นมติของภาค กทม.ให้พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัคร ลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.

ทำเอานายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ต้องออกแถลงการณ์ ยืนยันพรรคยังไม่มีมติว่าจะส่งหรือไม่ส่งคนลงสมัครผู้ว่ากรุงเทพฯ

ท่ามกลางกระแสข่าวลือหึ่งวงในว่า ต่างฝ่ายต่างพยายามวิ่งหาคนที่อยู่แดนไกล หวังให้เห็นชอบกับแนวทางของตนเอง

ถือเป็นเรื่องคุกรุ่นล่าสุดที่เกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทย พรรคที่มี ส.ส.มากเป็นอันหนึ่งในสภาผู้แทนฯ ขณะนี้ และมีหัวหน้าพรรค นายสมพงษ์ เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ

และหากย้อนหลังกลับไปไม่นานนัก ก็เคยมีเรื่องวิวาทะในพรรค กระทั่งนำไปสู่เหตุการณ์ "ล็อคคอ-ตบหัว" สั่งสอน ระหว่างนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.มหาสารคาม กับนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น เจ้าของแม็กซ์มวยไทย สังกัดพรรคเพื่อไทยทั้งคู่

นอกจากนี้ ยังเคยมีข่าว 14 ส.ส.ในสังกัด แอบไปนัดกินข้าวกับแกนนำของพรรคพลังประชารัฐในวันอภิปรายทั่วไปของฝ่ายค้านมาแล้ว

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์ "เพาะพันธุ์" ฟาร์มงูเห่า รองรับปัญหาเสียงปริ่มน้ำ อันเป็นปัญหาใหญ่และสุ่มเสี่ยงที่สุดของฝ่ายรัฐบาล

การออกลูกสะเปะสะปะ ต่างคนต่างพรรค ต่างไปคนละทิศละทางของฝ่ายค้านตอนนี้ จึงถูกจับตามองด้วยความสงสัยระคนเป็นห่วงกังวลว่าจะยืนหยัด ประคับประคองความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้นานแค่ไหน ทั้งในพรรคร่วมด้วยกัน และภายในพรรคเพื่อไทยเอง

เพราะมีปัญหาเมื่อไหร่ ฝ่ายรัฐบาลจะยิ่งเริงร่า และยืดเวลาบริหารประเทศชาติออกไปได้นานเท่านั้น