พนักงานรถไฟเปิดใจมีความสุขที่ได้ทำ วันแม่จะไปกราบคุณยาย หลังบริการอุ้มลงรถไฟถึงชานชลา ชาวโซเชียลแห่ชื่นชม
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กในชื่อ “Pimchanok Praisuwan” ได้โพสต์ข้อความ “รอบนี้แถมให้ชม.กว่าๆ แต่บริการดีถึงใจ อุ้มคุณยายลงรถไฟให้อีก น่าร้ากกกก” พร้อมกับรูปภาพเจ้าหน้าที่รถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์กำลังช่วยอุ้มคุณยายลงสถานีรถไฟบ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นไปด้วยความอบอุ่น ส่งผลทำให้เกิดการแชร์โพสต์พร้อมกับเสียงชื่นชมถึงการให้บริการของพนักงาน 2 คนนี้เป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางเข้าพบกับคุณยายที่อยู่ในภาพ นั่นก็คือ นางเล่งเฮียง หอมทวนลม อายุ 82 ปี ซึ่งได้พักอาศัยอยู่ที่ ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง โดยคุณยายได้เล่าว่า เดิมทีตนเป็นชาว อ.บ้านโป่ง หลังจากสามีได้เสียชีวิตลง ตนก็อาศัยอยู่กับลูกสาว หรือ น.ส.พิมพ์ชนก ไพรสุวรรณ ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่เรื่องราว โดยมีอาชีพค้าขาย ต่อมาลูกสาวได้แต่งงานและย้ายไปอยู่กับครอบครัวที่ อ.หาดใหญ่ โดยลูกได้ชักชวนให้ตนไปอยู่ด้วย แต่ตนก็ปฏิเสธ ด้วยยังพอมีเรี่ยวแรงและต้องการอยู่ใกล้ชิดกับญาติๆ กระทั่งเมื่อ 4 ปีก่อน ได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับลูก เนื่องจากอายุที่มากขึ้น ประกอบกับสงสารลูกที่ต้องพะว้าพะวงเป็นห่วงแม่ หลังจากย้ายไปอยู่ทางใต้แล้ว ตนก็ยังคงเดินทางด้วยรถไฟไปมาหาสู่กับญาติพี่น้องใน อ.บ้านโป่ง เป็นประจำทุกปีมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่โอกาส
โดยเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนพร้อมลูกสาวต้องเดินทางมางานฌาปนกิจศพของพี่สะใภ้ที่ อ.บ้านโป่ง จึงซื้อตั๋วรถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์ ขบวนที่ 32 จากชุมทางหาดใหญ่ ในช่วงเวลา 18.45 น. กระทั่งมาถึงที่สถานีบ้านโป่งเวลา 08.42 น. ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่แคล้วคล่องว่องไวเหมือนก่อน และอ่อนเพลียจากการเดินทาง จึงทำให้ตนลงบันไดรถไฟลำบาก เมื่อเจ้าหน้าที่ประจำรถไฟทั้ง 2 คน มาเห็นจึงได้ช่วยประคองและถือสัมภาระให้ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นช่วยอุ้มตนลงจากรถไฟแทน สร้างความประทับให้กับตนและลูกเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังรู้สึกขอบคุณในน้ำใจที่เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน
หลังจากแวะพักผ่อนเยี่ยมเยือนพี่น้องเรียบร้อยแล้ว ตนก็จะเดินทางกลับด้วยรถไฟเช่นเดิม ด้วยเชื่อมั่นในการบริการ ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย และประหยัด โดยเฉพาะในช่วงนี้รถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์ได้จอดเทียบชนาชลาที่สถานีบ้านโป่ง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อสอบถามไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงทราบว่าพนักงานที่อุ้มคุณยายลงจากรถไฟคือ นายยาการียา มามุ หรือ มามุ อายุ 34 ปี ตำแหน่งลูกจ้างแทนพนักงานรถนอน ส่วนพนักงานที่ช่วยถือกระเป๋าสัมภาระ คือ นายสุกรีย์ สะนิ
และเมื่อได้พบ นายมามุ เล่าว่า พื้นเพตนเป็นชาว จ.นราธิวาส เนื่องจากสูญเสียพ่อและแม่ ชีวิตในช่วงวัยเด็กจึงค่อนข้างลำบาก ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ศูนย์เด็กกำพร้าฯ จ.ยะลา จนเรียนจบชั้น ม.6 ที่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จากนั้นตนได้เดินทางเข้า กทม. เพื่อหางานทำ โดยตนได้เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานีหัวลำโพง หลังจากทำงานไปได้ประมาณ 5 ปี ด้วยรู้สึกผูกพันกับรถไฟและชื่นชอบงานบริการ ทันทีที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เปิดรับสมัครเจ้าหน้าที่ ตนจึงตัดสินใจสมัครสอบ ปัจจุบันตนปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งลูกจ้างแทนพนักงานรถนอน
โดยในวันที่ 13 ม.ค. 2563 ตนรับหน้าที่ดูแลผู้โดยสารประจำตู้ที่ 11 เมื่อขบวนรถไฟมาถึงชานชลาสถานีบ้านโป่ง ผู้โดยสารคนอื่นๆ รวมทั้งคุณยายและลูกก็ได้เตรียมตัวลง แต่เนื่องจากบันไดทางขึ้นลงค่อนข้างสูง ทำให้คุณยายก้าวเท้าลำบาก ตนเห็นจึงตัดสินใจอุ้มคุณยายด้วยเกรงว่าจะหกล้ม โดยมี นายสุกรีย์ ช่วยถือกระเป๋าสัมภาระให้กับคุณยาย
สำหรับภาพที่ปรากฏออกไป จนได้รับคำชื่นชมนั้น ตนในฐานะผู้ปฏิบัติงานก็รู้สึกภูมิใจ ทั้งนี้ที่ตนทำไปไม่ใช่ด้วยหน้าที่ หากแต่ทำด้วยความเต็มใจและมีความสุข ทุกครั้งที่ได้อุ้มผู้พิการผู้สูงอายุ และผู้ป่วย ทำให้เติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหาย เสมือนว่าตนกำลังได้ดูแลพ่อแม่ และญาติพี่น้อง
ในส่วนของครอบครัว หลังจากที่โลกโซเชียลได้แชร์ข่าวออกไป ลูกสาวและลูกชายได้โทรศัพท์มาสอบถามด้วยความตื่นเต้น พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า "หลังเลิกงานพ่อกลับบ้านมาต้องอุ้มหนูด้วยนะ"
นอกจากนั้น นายมามุยังกล่าวฝากถึงนางเล่งเฮียงว่า “ตนรู้สึกดีใจ มีความสุขที่ได้ช่วยคุณยาย ขอให้คุณยายมีสุขภาพแข็งแรง และในช่วงวันแม่หากมีโอกาสจะติดต่อขอเข้าไปเยี่ยมและกราบขอพรครับ”
เยี่ยมยอดชื่นชม
16 ม.ค. 2563 เวลา 06.04 น.
งานบริการเหมาะกับคนที่มีใจรักบริการ ขอชื่นชมคุณทั้ง 2 คนจากใจจริง เยี่ยมมากกก
16 ม.ค. 2563 เวลา 05.46 น.
Phonsiri ได้อ่านข่าวแบบนึ้ค่อยเจริญใจหน่อย
ดีกว่าอ่านดาราใส่ชุดเล่นนำ้เยอะเลย
16 ม.ค. 2563 เวลา 07.28 น.
❤️JN❤️ รีบบรรจุให้สิ คนดีดีที่ทำงานด้วยใจแบบนี้อ่ะ
16 ม.ค. 2563 เวลา 07.26 น.
สุถยอด
16 ม.ค. 2563 เวลา 07.25 น.
ดูทั้งหมด