ไลฟ์สไตล์

ดาวชนกัน - วินทร์ เลียววาริณ

THINK TODAY
เผยแพร่ 29 ธ.ค. 2562 เวลา 17.06 น. • วินทร์ เลียววาริณ

คุณเดินที่สยามสแควร์ในชั่วโมงเร่งด่วน คุณสวนทางกับผู้คนหลายพันคน การเฉี่ยวชนกันเป็นเรื่องธรรมดา

สมมุติว่าเราขยายพื้นที่สยามสแควร์ใหญ่ขึ้นเท่าจังหวัดกรุงเทพฯ จำนวนคนเท่าเดิม โอกาสที่คนจะเดินชนกันก็ลดน้อยลง 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ถ้าขยายสยามสแควร์เท่ากับขนาดประเทศไทย โอกาสคนเดินชนกันก็น้อยลงไปอีก สมมุติว่าถ้าสยามสแควร์มีขนาดเท่าทวีป โอกาสเดินชนกันจะน้อยลงจนแทบเป็นศูนย์

โลกของเราอยู่ในระบบสุริยะซึ่งอยู่ในดาราจักรที่เรียกว่าทางช้างเผือก ทางช้างเผือกกว้างหนึ่งแสนปีแสง มีดวงดาวราว 2-3 แสนล้านดวง ส่วนดาราจักรเพื่อนบ้านของเราที่ใกล้ที่สุดชื่อ แอนโดรมีดา มีดวงดาวจำนวนพอๆ กัน 

จากการคำนวณทิศทาง เรารู้ว่าในอนาคตอันไกลโพ้น ดาราจักรทั้งสองจะพุ่งชนกัน แล้วกลืนรวมกันเป็นดาราจักรใหม่ เปรียบเหมือนเด็กสองคนกำทรายขว้างใส่กัน ทรายสองกลุ่มจะพุ่งหากัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ลองเดาดูว่า มีโอกาสเท่าไรที่ดวงดาว 4-5 แสนล้านดวงที่พุ่งหากันจะชนกัน ?

คำตอบคือศูนย์ หรือใกล้ศูนย์

เป็นไปได้อย่างไร ?

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เหตุผลเพราะดาราจักรทั้งสองมีขนาดใหญ่มาก พื้นที่ส่วนใหญ่ของดาราจักรคือความว่าง ดวงดาวแต่ละดวงก็เปรียบเหมือนเม็ดทรายที่อยู่ห่างกันล้านล้านกิโลเมตร โอกาสชนกันจัง ๆ ก็แทบเท่ากับศูนย์

วัตถุยิ่งอยู่ห่าง โอกาสชนกันก็ยิ่งลดลง

หลักการนี้ใช้ได้กับชีวิตเราเช่นกัน เมื่อเม็ดทรายแห่งกิเลสพุ่งมาหา

///////////////////////////////////

ทุกวันเราทุกคนเจอกิเลสและสิ่งปรุงแต่งที่ซัดเข้าหาเราเหมือนกำทราย เช่นเดียวกับดวงดาวในดาราจักร เราจะถูกเม็ดทรายแห่งกิเลสชนหรือไม่ ขึ้นกับระยะห่างของเรากับเม็ดทราย

เราหลบมันไม่พ้นแน่หากพื้นที่ระหว่างเรากับเม็ดทรายแห่งกิเลสใกล้กันเหมือนฝูงคนเดินขวักไขว่ในสยามสแควร์ แต่หากเราอยู่ห่างจากมันมาก โอกาสที่เราจะถูกกิเลสชน ก็มีน้อยลง ได้แค่เฉียด แต่ไม่ชน

ถ้าห่างถึงจุดหนึ่ง โอกาสถูกชนก็เท่าศูนย์ 

กิเลสและสิ่งเร้าในโลกมีมากมายเหลือเกิน คนมีปัญญาจึงแยกตัวเองออกห่างจากกิเลสทั้งหลาย ให้เหมือนระยะห่างของดาวต่างๆ ในดาราจักร 

เราไม่สามารถแยกห่างจากกิเลสและสิ่งปรุงแต่งโดยการวิ่งหนี แต่โดยการเข้าใจ

เข้าใจโครงสร้างของโลกวัตถุนิยม ที่ใช้กิเลสเป็นเครื่องมือ

เข้าใจกิเลส และพิจารณาเห็นผลกระทบของมันต่อชีวิตเราและคนรอบตัวเรา

รู้จักพอ ใช้ชีวิตแบบน้อยไว้ก่อน

ลดละความโลภ

ยิ่งเข้าใจและปล่อยวาง ก็ยิ่งแยกห่าง ยิ่งแยกห่าง โอกาสที่จะชนถูกกิเลสจนก่อรูปเป็นทุกข์ก็ลดลง

สมัยผมเป็นเด็ก พ่อย้ำสอนให้แยกตัวจากการพนัน อยู๋ห่างให้ไกลที่สุด อย่าไปเกลือกกลั้ว ผู้ใหญ่สอนแบบออกคำสั่งห้ามเพราะเห็นว่าเราที่เป็นเด็กอาจมองไม่เห็นพิษภัยของมัน

จนเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ จึงเข้าใจ รู้พิษภัยของมันจากความเข้าใจ และเมื่อไม่คิดจะรวยด้วยวิถีพนัน ก็ปลอดภัยจากทรายกิเลสเม็ดนี้

เมื่อเข้าใจมันถ่องแท้และปล่อยวาง อบายมุขทั้งหลายก็จะถอยห่างเราไปเองโดยอัตโนมัติ

ทว่ามนุษย์ก็คือมนุษย์ เราอยู่คู่กับกิเลส ตัณหา ความอยากได้ เราถูกโปรแกรมให้วิ่งเข้าหามัน

ต้องอาศัยกำลังความคิดและกำลังใจมากทีเดียวที่จะไม่ถูกพลังกิเลสดูดเข้าไปหา

การ์ตูนตลกรูปหนึ่งเป็นรูปรถยนต์คันหนึ่งชนต้นตะบองเพชรกลางทะเลทรายกว้างใหญ่ ทั้งทะเลทรายมีต้นตะบองเพชรเพียงต้นเดียว ก็ยังอุตส่าห์ชนต้นตะบองเพชร มันบอกว่าต่อให้ระยะห่างจากกิเลสไกลแค่ไหน คนบางคนก็ยังวิ่งเข้าชนเอง 

เพราะกิเลสแต่ละอันมีพลังดูดมหาศาล และแรงดูดนั้นอยู่ในใจเรานี่เอง 

ผลที่ตามมาคือความหายนะที่เกิดจากดาวสองดวงชนกัน 

//////////////////////////////////////

วินทร์ เลียววาริณ

winbookclub.com

เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/

ความเห็น 8
  • Yongyuth
    เมื่อเราเดินทางสู่พระนิพพาน เป็นความว่าง เรียกว่าทางสายกลาง เป็นความพอดีแห่งจิต ที่บริสุทธิ์ สว่างสะอาดสงบ แต่มีปัญญา และ กรุณา อยู่ในความว่างนั้น ดังเช่นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มี ปัญญาธิคุณ บริสุทธิคุณ และมหากรุณาธิคุณ ความว่าง จากกิเลส โลภโกรธหลง มานะทิฐิ จะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยการอาศัยศีล ขัดเกลากิเลส อย่างหยาบ ทางกายวาจาออก และสมาธิ ขจัด นิวรณ์ 5 ประการ อันเป็นกิเลสอย่างกลางออก และอาศัยวิปัสสนาปัญญา นำมิจฉาทิฏฐิออก เกิดสัมมาทิฏฐิ รู้ในอริยสัจจะทำทั้ง 4 สู่การปล่อยวาง ตัวมานะ ความ ยึดดี
    30 ธ.ค. 2562 เวลา 12.25 น.
  • Tui of Earth
    เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้อย่างลึกซึ้ง ได้อ่านแล้วก็ได้เห็นกลไกของกิเลส และเข้าใจว่าทำไมต้องควรห่างมัน ได้ความรู้ทางดาราศาสตร์เพิ่มขึ้นด้วย 😉😉😉
    30 ธ.ค. 2562 เวลา 01.52 น.
  • Rainny L.(อิมกึมบี)🌦
    ส่วนตัวถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ตระหนักรู้ในตนเอง โดยใช้กิเลศเป็นสิ่งที่เรียนรู้มัน ก่อนจะวางมันก็ต้องเข้าใจมันเสียก่อน เปรียบได้กับปุ๋ยที่เป็นอาหารให้แก่ค้นไม้ได้เจริญเติบโต กิเลศก็เช่นกันเราสามารถที่จะเรียนรู้มันโดยใช้มันเป็นอาหารให้กับปัญญา และเติบโตขึ้นโดยการตระหนักรู้จากผลของมัน
    30 ธ.ค. 2562 เวลา 12.57 น.
  • ถ้าปฏิบัติตามแนวทางพระพุทธองค์​แม้ที่ทางจะคับแคบ เดินชนกันก็มิเกิดปัญหา ตัวเรากันเองล้วนๆ นอกนั้นปล่อยเป็นไปตามเรื่องธรรมชาติ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แค่นั้น
    30 ธ.ค. 2562 เวลา 06.07 น.
  • ผมคิดว่าถ้าจะให้เปรียบเป็นดั่งในการดำเนินของชีวิตแล้ว ผมคิดว่าในการพิจารณาถึงในหลักของความเป็นจริงกับในการดำเนินชีวิตให้อย่างถี่ถ้วนและดีแล้ว ผมเชื่อว่ายังไงก็สามารถที่จะทำให้รู้ถึงในหลักของในการดำเนินชีวิตได้อย่างดีและถูกต้องเสมอครับ.
    30 ธ.ค. 2562 เวลา 02.12 น.
ดูทั้งหมด