ทั่วไป

ย้อนประวัติศาสตร์ "ยุบพรรค-ตัดสิทธิ์" ปาร์ตี้ลิสต์หาย

NATIONTV
อัพเดต 14 ธ.ค. 2562 เวลา 13.25 น. • เผยแพร่ 14 ธ.ค. 2562 เวลา 22.55 น. • Nation TV
ย้อนประวัติศาสตร์ ยุบพรรค-ตัดสิทธิ์ ปาร์ตี้ลิสต์หาย

มีข้อมูลเพิ่มเติมจากนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ที่ทำวิจัยเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมืองไทย ชี้ว่า เมื่อครั้งการยุบพรรคพลังประชาชน และพรรคชาติไทย เมื่อปี 2551 พบว่ากรรมการบริหารพรรคที่เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แล้วโดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง จะไม่มีการเลื่อนผู้สมัครลำดับถัดไปในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคนั้นขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน

จนถึงยังคงไม่มีความชัดเจนว่า หากมีการยุบพรรคอนาคตใหม่จริงตามที่ กกต.ชงเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ แล้วตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคทั้งหมด ซึ่งมีอยู่ 15 คน / ในส่วนของกรรมการบริหารพรรคที่เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์จำนวน 10 คน ที่ต้องพ้นจากตำแหน่งและสิ้นสภาพ ส.ส.ไปด้วย จะสามารถเลื่อนผู้สมัคร ส.ส.ลำดับถัดไปในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมาเป็น ส.ส.แทนได้หรือไม่ / เพราะแม้แต่ "กูรูกฎหมาย" อย่าง รองนายกฯวิษณุ เครืองาม ก็ยังไม่ยอมตอบเรื่องนี้ ได้แต่โยนให้ กกต.ฟันธง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จากการตรวจสอบย้อนหลังของ ดอกเตอร์ สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า ซึ่งเคยทำวิจัยเกี่ยวกับพรรคการเมืองและการเลือกตั้งในประเทศไทย / ดอกเตอร์ สติธร ให้ข้อมูลว่า ในคดียุบพรรคการเมือง เมื่อปี 2551 ซึ่งมีพรรคที่ถูกยุบ คือพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย พบว่า ในส่วนของพรรคชาติไทย กรรมการบริหารพรรคที่เป็น ส.ส.ไม่ได้ลาออกก่อน / เมื่อถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค และตัดสิทธิ์ทางการเมือง / กรรมการบริหารรายนั้นก็สิ้นสภาพ ส.ส.ไปเลย และไม่มีการเลื่อนผู้สมัครลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อ หรือ ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน / แสดงว่าผลของคำวินิจฉัยของศาล คือทำให้ตำแหน่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคสิ้นสภาพไปพร้อมกับตัวกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์

ส่วนพรรคพลังประชาชนนั้น กรรมการบริหารพรรคที่เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ชิงลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.ไปก่อน ทำให้มีการเลื่อนผู้สมัครลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชาชนขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน / เมื่อพรรคถูกยุบ และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค จึงไม่กระทบกับจำนวน ส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่สามารถย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ได้หลังพรรคถูกยุบ / เพราะกรรมการบริหารที่เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลาออกเพื่อให้มีการเลื่อนลำดับไปก่อนแล้ว

อาจารย์สติธร บอกว่า วิธีนี้อาจเป็นทางออกของพรรคการเมืองในคดียุบพรรคที่กำลังเผชิญอยู่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองเองว่าจะเลือกแนวทางใด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 7
  • รังสรรค์
    กฎหมายยุบพรรคมุ่งสร้างความอ่อนแอให้พรรคการเมืองมากเกินไปด้วยบทลงโทษที่รุนแรงเกินจริง ผิดแบบพลาดกับผิดแบบชั่วร้ายโกงกินควรลงโทษต่างกันอย่างกรณีพรรคไทยรักษาชาติก็มีส่วนผิดแต่การยุบพรรคและตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีหรือ 10 ปีนั้นเหมาะสมแล้วหรือ บทลงโทษแบบนี้ดูแล้วเป็นการมุ่งทำลายพรรคการเมืองมากกว่าสร้างสรรค์ในขณะที่การโกงกินในกองทัพหรือการโกงกินของสสในพรรครัฐบาลกลับไม่ต้องมีการรับผิดชอบอะไรเลยหรือความผิดในบางกรณีโทษทั้งหลายให้ติดทัณฑ์บนเพื่อให้ผู้กระทำผิดได้มีโอกาสกลับตัว
    15 ธ.ค. 2562 เวลา 01.13 น.
  • jim
    ไอ้พวกลิงอยุ่นิ่งๆปากและสมอความคิดดูเขาไปก่อนชอบ,,,,,
    15 ธ.ค. 2562 เวลา 00.43 น.
  • กำธร
    เขียนรัฐธรรมนูญไม่ให้เสียงตกน้ำสำหรับพวกกู แต่นี้หมายความว่าเสียงไม่ตกน้ำใช่ไหม
    15 ธ.ค. 2562 เวลา 00.38 น.
  • krich
    โถไครมันโง้ไปถามไอ้วิษณุ​มันควายด้านกฎหมายที่เป็นธรรมแต่มันจะฉลาดเรื่องกฎหมายโกงเข้าข้างตัวมันและพวกพ้องไอ้ควายคนนี้นักกฎหมายด้วยกันเขาดูถูกมันว่าเป็นนักกฎหมายสุนัขรับใช้​ทั้งนั้นมันไม่ได้เก่งเป็นเทวดาอย่างที่คิดนะคิดใหม่เถอะ
    15 ธ.ค. 2562 เวลา 00.38 น.
  • Vachara.m
    พูดไม่ตรงกับความเป็นจริงก็คือหลอกลวง พรรคใดเป็นอย่างนี้ยุบเสียได้ก็ดี
    15 ธ.ค. 2562 เวลา 00.31 น.
ดูทั้งหมด