จากกรณีที่มีเพจเฟซบุ๊กหนึ่ง โพสต์เรื่องราวของอาจารย์มหาลัยวิทยาลัยดังแห่งหนึ่ง เอาคืนชาวบ้านในซอย ประวิทย์และเพื่อน 13/2 แขวงบางจาก เขตพระโขนง ที่จอดรถขวางหน้าบ้าน โดยการซื้อรถเก่ามาจอดให้เต็มซอย ส่งผลให้ชาวบ้านในซอยเกิดความไม่พอใจติดป้ายขับไล่ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์นั้น
เมื่อเวลา14.20 น.วันที่ 22 กันยายน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังซอยประวิทย์และเพื่อน 13/2 ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุตามที่มีกระแสข่าว พบป้ายข้อความระบุว่า “คนหัวหมอรู้มาก อยู่แล้ววุ่นวาย XXXแท้” และป้ายอื่นๆสื่อในเชิงสาปส่งและขับไล่บุคคลใดคนหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบรถจอดเรียงกัน 5 คันอยู่ปากทางเข้าซอยฝั่งขวา ทางซ้ายมีแผงกั้นติดป้าย “ที่ดินส่วนบุคคลห้ามบุกรุก” เข้าไปในซอยพบกลุ่มชาวบ้านกำลังรวมตัวกันจึงได้เข้าไปติดต่อสอบถามทราบชื่อหนึ่งในนั้นคือนางณัฏฐนัน (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปีพร้อมตัวแทนชาวบ้านในซอยประวิทย์และเพื่อน 13/2
นางณัฏฐนัน กล่าวว่า ขณะนี้ทราบเรื่องแล้วว่า ในโลกโซเชียลกำลังวิพากษ์วิจารณ์ชาวบ้านในซอยเสียหาย เพราะมีเพจในเฟซบุ๊กและสื่อลงเรื่องราวของพวกตน ซึ่งยืนยันว่าอาจารย์คนดังกล่าวอยู่ในหมู่บ้านนี้จริง แต่อยากขอชี้แจงว่าข้อมูลที่ลงไปก่อนหน้าไม่ได้เป็นความจริง โดยเฉพาะประเด็นที่บอกว่าชาวบ้านจอดรถขวางหน้าบ้านของอาจารย์คนดังกล่าว ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะตั้งแต่อาจารย์คนดังกล่าวเข้ามาอยู่เมื่อ 3 ปีที่แล้วก็ได้มีการเทปูนยกพื้นสูงเข้าบ้านตัวเอง ซึ่งนอกจากจะไม่มีใครมาจอดขวางได้แล้วยังกีดขวางจราจรคนในหมู่บ้าน นอกจากนี้ที่บอกว่าคนในซอยยิงปืนขู่เขาถ้ามีจริงๆป่านนี้ตำรวจคงจะมาหมดแล้ว
นางณัฏฐนัน กล่าวต่อว่าตอนแรกชาวบ้านกับอาจารย์คนดังกล่าวไม่ได้ทะเลาะอะไรกันรุนแรงมากนัก และเขาก็ยังพูดคุยดีๆกับชาวบ้านอยู่ แต่เวลาผ่านไปพฤติกรรมก็เริ่มเปลี่ยน และเป็นคนชอบตีเส้นหวงพื้นที่บ้านของตัวเอง มีครั้งหนึ่งเสาสัญญาณทีวีบ้านข้างๆ ยื่นล้ำเข้าไปในบ้านของอาจารย์คนดังกล่าว ทำให้เขาออกมาด่าเพื่อนบ้านและบอกให้ถอนเสาสัญญาณออก ซึ่งจะมีการทะเลาะกันแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง ทำให้ชาวบ้านเอือมระอากับพฤติกรรมของอาจารย์คนดังกล่าวที่ทำตัวเหมือนเด็ก
“กระทั่งเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา อาจารย์คนดังกล่าวได้ซื้อที่บริเวณหน้าปากซอย ซึ่งติดเยื้องกับบ่อบำบัดน้ำเสียของชาวบ้านแถวนี้และยังสร้างรั้วกั้นปิดล้อมรอบบ่อพร้อมติดป้ายบอกเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งตรงนี้มันคือระบบสาธารณูปโภคส่วนรวมของชาวบ้าน เขาไม่มีสิทธิมาปิดรั้วล้อมรอบ ชาวบ้านจะเข้าไปเก็บขยะทำความสะอาดก็ไม่ได้ ทำให้เดือดร้อนกันอย่างมาก เคยร้องเรียนไปที่สำนักงานเขต ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นพื้นที่จำยอมต้องตกลงกับเจ้าของที่เอง จึงได้พยายามขอพูดคุยกันดีๆ แต่ไม่เป็นผลแถมเขายังตอบกลับมาว่า “มันเรื่องของX ” และบอกกับชาวบ้านว่ารู้จักกับ ผอ.เขต และผู้ใหญ่หลายคนอย่ามีปัญหากับเขาดีกว่า”ชาวบ้านในซอยประวิทย์และเพื่อน 13/2 กล่าว
นางณัฏฐนันกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่อยากจะเรียกร้องจริงๆถึงพฤติกรรม อย่างเช่นมาทุบรื้อป้อมยามที่ชาวบ้านลงขันบริจาคสร้างขึ้นและอยู่มากว่า 10 ปี แต่อาจารย์คนนี้พอซื้อที่หน้าปากซอยก็ทำลายป้อมยามของชาวบ้านและให้รถมายกเอาไปไหนไม่มีใครทราบ เรื่องเพิ่งเกิดได้ไม่นาน และตอนนั้นมีแต่ผู้หญิงอยู่กันในซอย จึงไม่มีใครสามารถห้ามปรามได้ และเขาก็อ้างสิทธิที่ของเขาโดยไม่คำนึงถึงส่วนรวมว่าชาวบ้านจะลำบากกันอย่างไร จะเห็นว่ารถเก่าๆที่จอด 5 คันเป็นของเขาทั้งหมดที่ตั้งใจมาจอดเพื่อแกล้งชาวบ้านหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้มีมากกว่านี้ แต่มีทหารมาช่วยไกล่เกลี่ยให้ ป้ายเหล่านี้ที่ติดแขวนไว้ก็เพื่อบอกให้เขารู้ตัวว่าเขาทำตัวอย่างไร
“หลังจากนี้จะรวบรวมหลักฐานพร้อมโฉนดที่ดิน ไปแจ้งความกับตำรวจ เพราะชาวบ้านทนไม่ไหวแล้วกับพฤติกรรมของเขา ซึ่งประเด็นหลักที่ชาวบ้านทนไม่ได้คือการมาทำลายป้อมยามของส่วนรวม ซึ่งถือเป็นการลักทรัพย์ โดยจะนำหลักฐานทั้งหมดเดินทางไปแจ้งความที่สน.บางนา ภายในสัปดาห์หน้า” นางณัฏฐนันกล่าว
La T.Namoo งงงงงงง
22 ก.ย 2561 เวลา 23.27 น.
coffeekrap ไม่ควรก่อเวร
22 ก.ย 2561 เวลา 22.07 น.
Wa M`Prapassaro น่าจะเหมือนเคสป้าทุบรถ คนหมู่มากก็ไช่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกเสมอไป การที่อาจารย์แกทำขนาดนั้น นั่นเงินทั้งนั้นเลยนะ ถ้าไม่มีประเด็นจะซื้อรถเก่ามาจอดผลาญเงินทิ้งทำไม ไปซื้อชุดโฮมเทพๆหลักแสนใว้ดูหนังไม่ดีกว่า แต่ที่แกทำนี่มันน่าจะมีเหตุให้สุดจะทนแล้ว
22 ก.ย 2561 เวลา 20.21 น.
Kan(พีรญา) ???ึิคิอ ที่เค้า เค้าไม่ให้ ร้องใครล่ะ อยากไปทำเค้าก่อนรึป่าว
22 ก.ย 2561 เวลา 16.30 น.
Kanyapat (พัชร์) สำนึกค่ะว่าไม่ใช่หน้าบ้านตัวเอง
อย่าถือวิสาสะก็แล้วกันจะไม่มีเรื่อง
เทาว์เฮ้าส์แหละเจอปัญหาเยอะ
22 ก.ย 2561 เวลา 16.30 น.
ดูทั้งหมด