สามเณร 9 ขวบเหยื่อหลวงตาทำร้ายยังโคม่า ล่าสุดถูกคุมตัวสอบสวนที่เมืองกาญจน์แล้ว

ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่มูลนิธิวัดดอนขมิ้น ไปรับตัวสามเณร วัฒนพล สีสวัสดิ์ อายุ 9 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 47/12 หมู่ 4 ต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ที่บวชจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ไปส่งโรงพยาบาลมะการักษ์ เนื่องจากเกิดอาการเกร็งจนหมดสติจากการตรวจสอบตามร่างกายพบว่าสามเณรวัฒนพล มีรอยฟกช้ำดำเขียว คางมีแผลแตก หัวปูดบวม ลักษณะคล้ายกับถูกทำร้ายร่างกาย และเมื่อไปถึงโรงพยาบาลมะการักษ์ หมอได้ทำการเอกซเรย์ ผลประกฎว่าบริเวณแขนและข้อมือขวาหักอีก 2 ท่อน เนื่องจากอาการสาหัสจึงถูกส่งตัวมารักษาที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อ.เมืองกาญจนบุรี
โดยมี น.ส.สุกัญญา ตุ้นฮิ้น แม่รวมทั้งญาติของสามเณร คอยเฝ้าดูอาการอยู่อยู่ด้านนอกห้องด้วยความห่วงใย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ 19 ส.ค.61 ขณะที่ น.ส.สุกัญญา ตุ้นฮิ้น แม่ รวมทั้งญาติเดินทางมาเฝ้าดูอาการของสามเณร รพ.พหลฯ แต่ไม่สามารถเข้าได้เนื่องจากอยู่ในห้อง ไอซียู ต่อมาก็ได้รับการประสานจาก ร.ต.อ.อำนาจ จันทร์บุตร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ให้เดินทางไปที่วัดดอนขมิ้น จุดเกิดเหตุ ส่วนนายวัฒนา สีสวัสดิ์ พ่อของสามเณร กำลังเดินทางมาจากจังหวัดระยอง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง ร.ต.อ.อำนาจ ร้อยเวรเจ้าของคดี ทราบว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้อย่างละเอียด ส่วนอาการของสามเณรวัฒนพล จะต้องรอการยืนยันเป็นเอกสารจากแพทย์ผู้รักษา ว่าเกิดจากอะไร แต่แนวโน้มคาดว่าน่าจะเกิดจากการถูกทำร้าย ส่วนพระต้องสงสัยทำร้ายคือหลวงตาศุภชัย สุทธิญาโน อายุ 64 ปี  พระลูกวัดดอนขมิ้น หลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน
หลังจากรับนิมนต์ไปฉันเพลที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าเสา อ.ท่ามะกาแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นิมนต์ไปสอบปากคำที่ สภ.ลูกแก ส่วนบริเวณวัดที่เกิดเหตุ มีญาติและประชาชนเดินทางไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีผู้ใดร่วมลงมือด้วยหรือไม่เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุด สามเณรวัฒนพล สีสวัสดิ์ อายุ 9 ขวบ มีอาการสาหัสและทรุดลงเป็นอย่างมาก คณะแพทย์ได้พยายามยื้อชีวิตอย่างเต็มความสามารถแล้วแต่ก็ไม่ดีขึ้น เหลือเพียงแค่รอให้พ่อของสามเณร เดินทางมาถึงรพ. เพื่อตัดสินใจเรื่องการรักษาอีกครั้ง