คนจีนที่สิงคโปร์กินปลาในวันตรุษจีน เพราะคำว่า หยี ที่แปลว่ามั่งมีศรีสุขพ้องเสียงกับคำว่าปลา
วลีจีน ‘เหนียนเหนียนหยิ่วหยี’ แปลว่าทุกปีศรีสุข พ้องเสียงว่า ทุกปีมีปลากิน
ปลาจึงซวยไป!
นี่ถือว่าเป็นการมั่วที่กลายเป็นประเพณีกินปลาในวันตรุษจีนของชาวจีนบางกลุ่ม เช่นเดียวกับการกินหมั่นโถวของชาวจีนเพื่อระลึกถึงชาวม่านในสมัยสามก๊ก ไม่ซีเรียส ไม่มีผลต่อชีวิตใคร เหมือนกับแต่งบ้านด้วยสีแดงในเทศกาลตรุษจีน เป็นแค่สัญลักษณ์ของประเพณี
แต่ถ้ายึดติดมันเป็นไสยศาสตร์เพื่อหวังจะทำให้รวยหรือเจริญ ก็อาจเข้าข่ายงมงายเช่นการใช้‘ภาษามงคล’ ของเรา
ยกตัวอย่าง เช่น
ปลูกลั่นทมแล้วชีวิตจะระทม
ปลูกเต่าร้างแล้วชีวิตจะร้างลา
ปลูกมะยมแล้วชีวิตจะมีคนนิยมชมชอบ
ฯลฯ
คำคู่เหล่านี้เป็นคนละคำกัน ไม่เกี่ยวกันเลย ใช้แทนกันไม่ได้
เต่าร้าง กับ ร้างลา เป็นคนละคำ คนละความหมายกัน ความเชื่อว่าปลูกต้นเต่าร้างแล้วจะร้างลา หรือปลูกลั่นทมหนึ่งต้น ชีวิตจะระทมล้มเหลว จึงเป็นการมั่วหน้าตาเฉย
ในทางตรงข้าม ระกำกับลั่นทมเป็นยารักษาสารพัดโรค จะเป็นผลไม้ไม่มงคลได้อย่างไร?
มะยมกับนิยมเป็นคนละคำ คนละความหมาย ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย การปลูกมะยมเพื่อให้คนนิยมจึงเป็นการจับยัดแบบทื่อๆ
ถ้าใช้หลักแบบนี้ ก็สามารถมั่วได้ทุกอย่างในโลกตามใจตัว เช่น
ห้ามกินหัวไช้เท้า เพราะเท้าเป็นของต่ำ
ห้ามกินขนมจันอับ เพราะชีวิตจะตกอับ
ห้ามกินผักกาดดอง เพราะหน้าที่การงานจะถูกดอง
ห้ามกินไข่ต้ม เพราะเดี๋ยวจะถูกคนต้ม
ฯลฯ
ถ้าต้องการ ก็สามารถจัดหาชื่อมงคลและอัปมงคลได้อีกมากมาย ไม่สิ้นสุด
…………..
ความหมายของชื่อแตกต่างออกไปในแต่ละประเทศแต่ละวัฒนธรรม เช่น ขณะที่บางคนเชื่อว่าผลท้อไม่มงคลเพราะท้อคือ ‘ท้อแท้’ แต่คนจีนกลับเห็นว่าท้อเป็นสุดยอดของความมงคล
คำมงคลเหล่านี้ไม่ใช่ภาษาสากล มีแต่คนไทยจึงอ่านรู้เรื่อง
ที่แปลกคือเราเลือกที่รักมักที่ชัง ไม่มีใครบอกว่า กิน ‘ต้มยำ’ แล้วชีวิตจะ ‘ระยำ’ เหตุผลง่ายนิดเดียว เพราะต้มยำอร่อยเกินกว่าจะจัดมันอยู่ในคำอัปมงคล ถ้าเลือกเชื่อว่าต้มยำคือระยำ ก็ต้องอดกินต้มยำไปตลอดชีวิต
เช่นกัน เราไม่ค่อยเห็นชื่อขนมอร่อยๆ อยู่ในรายการคำต้องห้าม เช่น
ลอดช่อง = ชีวิตโหว่เป็นช่อง
ขนมถังแตก = ยากจนถังแตก
ทับทิมกรอบ = จะถูกความยากจนทับจนแห้งกรอบ เป็นต้น
แต่หากชื่อขนมที่พ้องเสียงความหมายบวก ก็อยู่ในรายการชื่อดี มีมงคล เช่น ขนมถ้วยฟูทำให้ชีวิตเฟื่องฟู กินขนมถ้วยฟูแล้วชีวิตจะเฟื่องฟู
กติกาชื่อมงคลนี้สามารถเปลี่ยนได้หน้ามือเป็นหลังมือ ตัวอย่างคลาสสิกคือกรณีลั่นทมกับระทม คนจำนวนมากไม่ปลูกต้นลั่นทม เพราะเชื่อว่ามันจะทำให้ชีวิตระทม
แต่เมื่อวันหนึ่งลั่นทมถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ลีลาวดี’ ทันใดนั้นพวกเขาก็ปลูกต้นไม้ชนิดนี้ได้ทันที ประหนึ่งว่าคำสาปถูกถอนแล้ว
เหล่านี้เป็นการเลือกใช้ความหมายที่ไม่ดีแบบจับยัด พอใจจะโยงอย่างนี้ก็โยง แล้วก็เชื่อกันไป
ผมชอบไปเดินที่ตลาดต้นไม้ พบว่าไม้ประดับประเภทว่านที่เคยรู้จักในชื่อหนึ่ง ถูกเปลี่ยนชื่อที่มีคำว่า เศรษฐี มหาโชค ฯลฯ และทันใดนั้นราคาก็ขึ้นจากเดิมไปหลายสิบบาท
นับว่าคนขายเก่งที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้า
ลูกค้าซื้อต้นไม้ไม่ใช่เพราะรักต้นไม้หรือชอบไม้พันธุ์นั้น แต่ต้องการรวยรุ่งเรือง
ถ้าอักษรมงคลมีอำนาจดีจริง เราก็ควรเปลี่ยนชื่อประเทศให้เป็นนามมงคล เช่น ประเทศดี ประเทศเจริญ ประเทศรวย ฯลฯ จะได้ดีทั้งประเทศ ไม่ต้องเสียเวลาและทรัพยากรเปลี่ยนชื่อของปัจเจกแต่ละคนให้วุ่นวาย
ใช้อักษรมงคลเพื่อมองโลกแบบมงคล สบายใจย่อมไม่เป็นไร แต่เมื่อใช่เพื่อไสยศาสตร์ ก็กลายเป็นพันธนาการของชีวิตไป
แต่หากเราใช้วิธีมั่วแบบนี้ในการใช้ชีวิต ก็อาจต้องเดินในความมืดไปจนวันตาย
…………..
วินทร์ เลียววาริณ
ห้องว่าง ผมไ่เชื่อหรอกครับของพวกนี้ผมเชื่อกฎแห่งกรรมทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว..
08 เม.ย. 2562 เวลา 11.13 น.
💙🌸แม่ฟ้า🌸💙 เชื่อกรรมมากกว่า
08 เม.ย. 2562 เวลา 11.45 น.
ทุกอย่างย่อมขึ้นอยู่ที่การกระทำมากกว่า.
08 เม.ย. 2562 เวลา 13.42 น.
dam dam ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อหรือความจริงก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าชื่อนั้นเกี่ยวพันกับโชคชะตาหรือไม่ แต่การใช้ชื่อที่สื่อความหมายไปในทางดีย่อมทำให้คนฟังนั้นรู้สึกดีได้ในทันทีที่ได้ฟังทั้งยังสื่อไปในทางบวกซึ่งส่งผลต่อจิตใจ ของผู้ฟังด้วยเราจึงนิยมหาชื่อที่ดีๆมาเป็นชื่อตัวหรือสำหรับทำการค้า ใครบอกว่าชื่อไม่สำคัญผมไม่เชื่อครับ ลองเปรียบเทียบดูนะครับ เช่นชื่อ นายดีกับนายอัปรีย์ คุณอยากจะได้ยินชื่อใครก่อนครับ แม้จะยังไม่รู้ว่าใครดีหรือเลว แต่ผมเชื่อเราคงอยากสนทนากับนายดีมากกว่านายอัปรีย์แน่นอน
08 เม.ย. 2562 เวลา 11.40 น.
ti เดี๋ยวนี้มีชงเพิ่มมาอีก ช่วยให้ปัญญาพัฒนาน้อยลงไปอีก ชงๆๆๆๆๆๆ
08 เม.ย. 2562 เวลา 12.56 น.
ดูทั้งหมด