มุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า มาตรการรับมือ Omicron เริ่มผ่อนลง ช่วยตลาดมีกรอบปรับลงจำกัด โดยความกังวลการระบาด COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ที่มีแนวโน้มระบาดได้ง่าย และจำกัดประสิทธิภาพของวัคซีน ส่งผลให้ทั่วโลกเดินหน้ามาตรการควบคุมการระบาดอย่างค่อนข้างรวดเร็ว และเข้มงวดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น สหรัฐ, อังกฤษ, ยุโรป, ญี่ปุ่น ห้ามผู้มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเดินทางเข้า เป็นต้น ซึ่งท่าทีดังดังกล่าวของหลายประเทศส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับฐานลงค่อนข้างแรง ในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ASPS สังเกตเห็นว่ากระแสการดำเนินมาตรการควบคุมค่อนข้างผ่อนคลายลง ดังเห็นได้จาก
องค์การอนามัยโลก (WHO): WHO เตือนว่าการห้ามเดินทางเป็นวงกว้างของหลายๆประเทศ ไม่ใช่วิธีการที่ดีสำหรับรับมือกับ Omicron และอาจส่งผลให้ประเทศต่างๆไม่ยอมแลกเปลี่ยนข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสายพันธุ์ Omicron
สหประชาชาติ (UN): UN เรียกร้องให้แต่ละประเทศลดข้อจำกัดการเดินทางลง เพราะมองว่าเป็นการกีดกันทางเชื้อชาติ และมาตรการป้องกันการระบาดในรูปแบบอื่นๆเหมาะกว่า เช่น การกักตัว
สหรัฐ: นาย Jeo Boden ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวเน้นย้ำว่า “การ Lockdown และการเพิ่มข้อจำกัดการเดินทางเข้าประเทศ อาจไม่จำเป็น หากประชาชนฉีดวัคซีน และสวมใส่หน้ากากอย่างเพียงพอ”
ญี่ปุ่น: ญี่ปุ่นยกเลิกคำสั่งที่กำหนดให้สายการบินระงับบริการจองตั๋วเที่ยวบินขาเข้าจากต่างประเทศ ตลอดเดือน ธ.ค. 2564 เนื่องจากประชาชน และสายการบินมองว่ามีความเข้มงวดมากเกินไป และสร้างความสับสนต่อประชาชน
ไทย: นายกรัฐมนตรีกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ไทยไม่มีแผนปิดประเทศห้ามต่างชาติเดินทางเข้า เพราะตอนนี้ยังมีวิธีตรวจคัดกรองวิธี RT-PCR ส่วนการคัดกรองวิธี ATK จะยกเลิกไปก่อน
จากกระแสของการเรียกร้องให้หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการควบคุมของ WHO และ UN รวมถึงท่าทีที่ผ่อนคลายลงของหลายๆประเทศข้างต้น ASPS มองว่าจะช่วยลดแรงกดดันต่อตลาดหุ้นโลกลงมาได้ เพราะ ASPS มองว่าประเด็นที่ตลาดหุ้นโลกกังวลมากที่สุด ไม่ใช่การระบาดของสายพันธุ์ Omicron หากแต่เป็นปลายทางในเรื่องการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ หรือ Lockdown เป็นหลัก
ภาพรวมจากการผ่อนคลายข้างต้นส่งผลให้ตลาดหุ้นโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ฟื้นตัว เช่นตลาดหุ้นสหรัฐ-เอเชีย, ราคาน้ำมันดิบ (บวกกับหุ้น PTTEP, PTT), ถ่านหิน (บวกกับหุ้น BANPU, LANNA), ค่าระวางเรือ (บวกกับหุ้น TTA, PSL, RCL)
RCL ดีดแรง!
บริษัท หลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2564ที่ผ่านมา โดยระบุว่า บริษัทจะได้รับประโยชน์จาก port congestion จากนโยบาย zero covid policy ของจีน ซึ่งส่งผลต่อค่าระวางเรือที่สูงขึ้น จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 58 บาท
