บทบรรณาธิการ
โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 400,000 ล้านบาท ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (พ.ศ. 2563) วงเงินไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท เริ่มออกสตาร์ตหลัง ครม.อนุมัติงบประมาณดำเนินการลอตแรก 5 โครงการ วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท
แม้วงเงินและจำนวนโครงการที่ได้รับไฟเขียวค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับกรอบวงเงินรวม 400,000 ล้านบาท หรือเทียบกับโครงการที่ยื่นข้อเสนอทั้งหมดกว่า 4.6 หมื่นโครงการ วงเงินกว่า 1.44 ล้านล้านบาท แต่มองในแง่ดีเท่ากับที่ประชุม ครม.จะพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนเคาะให้ผ่าน ตรวจเช็กสอบทานรอบสองซ้ำ หลังจากที่คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการที่มี ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธานตรวจสอบรอบแรก
หากโครงการลอตต่อ ๆ ไปยังเน้นดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว มีการตรวจเข้มทุกครั้งที่โครงการภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้ ถูกหยิบยกขึ้นพิจารณาก่อนตัดสินใจอนุมัติวงเงิน สาธารณชนก็น่าจะพอเบาใจได้บ้างว่าเงินกู้ทุกบาททุกสตางค์ที่คนไทยผู้เสียภาษีต้องแบกรับภาระหนี้จะถูกนำไปใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า ตอบโจทย์การแก้ปัญหาประเทศหลังวิกฤตโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญกว่าแผนงานโครงการในแผ่นกระดาษคือ การปฏิบัติจริง หน่วยงานในระดับนโยบายทั้งกระทรวง กรม จังหวัด โดยเฉพาะฝ่ายปฏิบัติในท้องถิ่นชุมชนทั่วประเทศถือได้ว่าเป็นแกนหลัก และเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จหรือล้มเหลว รัฐบาลจึงต้องกำชับสั่งการให้ทุกหน่วยงานควบคุมดูแลเป็นพิเศษ
ให้แต่ละโครงการสัมฤทธิผลตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นโครงการลงทุนและกิจกรรมการพัฒนาพลิกฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพิ่มศักยภาพ ยกระดับการผลิต การค้า ภาคเกษตร อุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและบริการ โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน การสร้างงาน สร้างรายได้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานชุมชน งบฯ ส่งเสริมกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนและเอกชน การสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการผลิต ฯลฯ
กฎเหล็กที่ต้องยึดให้มั่นคือไม่ดำเนินการนอกกรอบ ไม่ว่าจะถูกกดดันแทรกแซงจากกลุ่มการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ มิฉะนั้นจะทำให้โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมเบี่ยงเบนไปจากเจตนารมณ์ที่วางไว้ ซึ่งจะส่งผลให้โครงการภายใต้งบฯเงินกู้ 400,000 ล้านบาทตัวช่วยที่เหลืออยู่ตัวสุดท้ายไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ จะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์เศรษฐกิจและวิกฤตโควิด ฉุดเศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจประเทศดิ่งลึกจนอาจยากจะแก้ไขเยียวยา
Peace ตำน้ำพริกระรายแม่น้ำ อย่าอ้างโรคร้าย ตอนอยู่ามา 5ปีทำอะไรบ้าง เป็นชิ้นเป็นอันคือรถไฟรางคู่ ทุ่มเข้าไปมีแต่ ศูนย์กับศูนย์ ไม่ไหวก็ออกเถอะ ประชาชนอยากแค้นจนต้องขะโมยตะแกง เผาศพไปขาย ที่อุดรได้ข่าวบ้างไหมนายก ท่านเล่นพวกมากไปไม่คำนึงงานระดับชาติ
11 ก.ค. 2563 เวลา 20.09 น.
Anonymous ภาษีที่ผมเสียได้เอาไปพัฒนาประเทศก็ ok ครับ
แต่กว่าจะหารายได้มาก็ลำบากเหมือนกัน ถ้าเอาไปทุจริต ยักยอก คอรัปชัน ก็ขอให้ฉิบหาย
11 ก.ค. 2563 เวลา 19.31 น.
MUA Inc. ข้อมูลโดยละเอียด สามารถตรวจสอบได้ที่ไหนครับ
นี่ปี 2020 ส่งลิ้งQR CODEให้ ประชาชนที่เสียภาษี เข้าเช็คไฟล์ตัวเต็มของขั้นตอนและวิธีการใช้เงิน ทั้งหมด
ทำได้ง่ายและสมควรที่จะทำ เพราะประชาชนต้องช่วยชำระหนี้ก่อนนี้
ถ้าไม่คิดทำให้เคลียๆก็ไม่ต่างกับ ชอน บูรณะฯลวงโลก
11 ก.ค. 2563 เวลา 19.01 น.
peter มันจะช่วยไรได้ มันก็กองอยู่กับนายทุนแบะนักการเมืองแทนที่จะเป็น ชาวบ้านทั้งหมด555
11 ก.ค. 2563 เวลา 14.45 น.
ดูทั้งหมด