เกษตรกรเฮ! “ธ.ก.ส.” เตรียมอัดงบ 15,000 ล้านบาท เดินเครื่อง “สินเชื่อ” Contract Farming ระยะที่ 2 สนับสนุนเกษตรกร และ ผู้ประกอบการธุรกิจการเกษตร นำไปเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียน และ ลงทุน ในการยกระดับการผลิตให้มีคุณภาพ และ ได้มาตรฐาน
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ “ธ.ก.ส.” กล่าวว่า“ธ.ก.ส.” จัด “สินเชื่อ” เพื่อส่งเสริม และ พัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) ระยะที่ 2 วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินทุนให้แก่เกษตรกร และ ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร ภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญา ทั้งประเภทพืชและสัตว์ ให้สามารถนำไปพัฒนากระบวนการผลิต เพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพสูงและมีมาตรฐาน รวมถึงมีตลาดรองรับที่แน่นอน ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นและสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน
สำหรับคุณสมบัติผู้กู้ ได้แก่ บุคคลทั่วไป เกษตรกร นิติบุคคล กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตร ที่ประกอบธุรกิจทางการเกษตรหรือเป็นคู่สัญญากับผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตร โดยกู้เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียน ค่าลงทุนในการดำเนินโครงการ หรือชำระหนี้สินเดิมที่เกิดจากการประกอบธุรกิจภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญาที่มีสถานะหนี้ปกติ
อัตราดอกเบี้ยตามประเภทลูกค้า ได้แก่ MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 6.975%) MLR (ปัจจุบัน MLR เท่ากับ 6.125%) หรือ MOR (ปัจจุบัน MOR เท่ากับ 7.125%) ระยะเวลาชำระคืน กรณีเป็นค่าใช้จ่ายไม่เกิน 12 เดือน พิเศษไม่เกิน 18 เดือน กรณีเป็นค่าลงทุน ชำระคืนภายใน 15 ปี และสำหรับชำระหนี้สินเดิม ชำระภายใน 10 ปี พิเศษไม่เกิน 12 ปี แต่ไม่เกินกำหนดชำระตามสัญญาเดิม
“ธ.ก.ส. มุ่งสู่แกนกลางการเกษตร เพื่อยกระดับภาคเกษตรไทย ด้วยการสนับสนุนเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ ควบคู่กับการเสริมสร้างอาชีพและจัดหาตลาดรองรับผลผลิต เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน โดย ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนสินเชื่อภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญาไปแล้ว จำนวน 2,365 ราย เป็นเงินกว่า 12,656 ล้านบาท ผู้สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 มี.ค. 2572” นายฉัตรชัย กล่าว