นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ดีป้า ได้ครบรอบ 8 ปี สำหรับแผนงานในปีนี้ จะเร่งดำเนินการส่งเสริมเรื่องสตาร์ทอัพ หลังจากที่ผ่านมา ดีป้าถือเป็นแองเจิลอินเวสเตอร์ ที่เป็นหน่วยงานรัฐที่มีพอร์ตใหญ่สุดในเอเชีย จำนวน 160 สตาร์ทอัพ มีมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะเปลี่ยนรูปบบ ด้วยการให้ทุนตั้งต้น สำหรับสตาร์ทอัพที่มีไอเดีย จำนวน 2 แสนบาท จำนวน 200 ทุน ซึ่งเป็นทุนให้เปล่า เน้นผู้ที่มีไอเดียที่สามารถต่อยอดได้ โดยจะมีการดึงบริษัทชั้นนำ เช่น กูเกิล หัวเว่ย ไมโครซอฟท์ และเอดับบิวเอส เข้ามาร่วมโครงการด้วย
นอกจากนี้จะเร่งเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เรียนรู้ทักษะด้านดิจิทัลผ่านแนวทางการพัฒนาทักษะดิจิทัลคนไทยทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย หรือ ดิจิจทัล สคิล โรดแม็พ ผ่านเครือข่ายเทคโนโลยี 5จี ควบคู่ไปกับการกระตุ้นให้เกิด ดิจิทัล ทาเลนต์ ในทุกอำเภอทั่วประเทศ กับโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ใน 9 อาชีพด้านดิจิทัล เช่น กลุ่มเกม นักจัดการข้อมูล และเกษตรดิจิทัล เป็นต้น โดยความร่วมมือกับสถานทูต 13 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี สวีเดน ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอินเดีย เพื่อส่งเด็กในโครงการนี้ไปเรียน ซึ่งไทยจะให้สิทธิพิเศษทางภาษีในเรื่องการเทรน และจ้างแรงงานในส่วนนี้ด้วย
“สำหรับองค์กรธุรกิจที่ส่งพนักงานฝึกอบรมในหลักสูตรดิจิทัล ที่ดีป้าและเครือข่ายพันธมิตรให้การรับรองสามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 250% นอกจากนี้ ยังสามารถหักค่าใช้จ่ายลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 150% ของเงินเดือน 12 เดือนแรกของผู้จบการศึกษาด้านดิจิทัล ขณะที่ประชาชนทั่วไป ดีป้า ช่วยแบ่งเบาภาระภาษี โดยประชาชนสามารถนำใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับดิจิทัล วงเงินรวมไม่เกิน 50,000 บาท มาหักค่าใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 68 ได้ 100% พร้อมกันนี้จะอุดหนุนค่าใช้จ่าย 70% สำหรับการพัฒนาทักษะดิจิทัลของนักเรียน นักศึกษา ผู้จบการศึกษา หรือผู้ว่างงานอีกด้วย โดยในส่วนการลดหย่อนภาษี 250% และ 150% ได้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. แล้ว ส่วนการลดหย่อนของประชาชนทั่วไป เตรียมเสนอเข้า ครม. เร็วๆ นี้” นายณัฐพล กล่าว