สังคม

ชาวบ้านสงสัย เห็นคนขับรถส่ายไปส่ายมา เรียกเจ้าหน้าที่มาดู เห็นหน้าคนขับ ชาวบ้านถึงกับส่ายหน้า รับไม่ได้

สยามนิวส์
เผยแพร่ 17 พ.ย. 2566 เวลา 06.23 น. • ทีมข่าวสยามนิวส์
ชาวบ้านสงสัย เห็นคนขับรถส่ายไปส่ายมา เรียกเจ้าหน้าที่มาดู เห็นหน้าคนขับ ชาวบ้านถึงกับส่ายหน้า รับไม่ได้

วันที่ 16 พ.ย. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบคนแต่งกายคล้ายพระสงฆ์มีอาการมึนเมาขับรถยนต์ที่บ้านหนองบุ ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี กำลังมุ่งหน้าออกจากตัวเมืองอุดรธานี โดยขัยรถ Honda City สีเขียวทะเบียน กน 7202 มหาสารคาม หลังรับแจ้งตำรวจจึงวิทยุแจ้งให้กำลังในพื้นที่ช่วยตามหา กระทั่งสามารถติดตามมาพบเจอทั้ง 2 ใกล้เขตงานหนองบัว บ้านหนองใส ขณะที่จอดรถพักอยู่ใกล้กับริมถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจสอบทันที

จากการตรวจสอบพบพระสงฆ์ 2 รูป คือ พระคมสันต์ สิริรภัทโท อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 394 หมู่ 3 บ้านเหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด มีอาการเมามากพูดจาไม่รู้เรื่อง แถมชี้หน้าด่านักข่าว อาตมาผิดตรงไหน และอีกรูปคือพระอุทัย นาราวงศ์ อายุ 39 ปี อยู่วัดศรีเชียงใหม่ หมู่ 8 ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้ต่อว่าพระคมสันต์บอกว่า เจ้าอย่าปาก ให้เงียบๆ คุยกับเจ้าหน้าที่ก่อน เจ้าหน้าที่ฯ ตรวจสอบภายในรถพระขวดเครื่องดื่มชูกำลังและขวดสุราขาวภายในขวดมีรากไม้สำหรับดองยา ตกอยู่ที่พื้นที่ฝั่งผู้โดยสาร และท้ายรถพบขวดเหล้าขาวอีกหลายขวดและมีลังเบียร์ มีบาตรพระและสบงหลายชิ้น ส่วนภายในห้องโดยสามีผ้าห่ม และจีวร

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พระอุทัยและพระคมสัจต์ ดูท่าเมาจนปลิ้นลิ้นรัวบอกว่า อาตมาพากันเพิ่งกลับมาจากงานบุญกฐินวัดหนองบ่อ บ้านดงยาง ต.จอมศรี อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และจะพาไปกันเยี่ยมโยมพ่อโยมแม่ของพระคมสันต์ที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัยและจะกลับวัดที่จ.ร้อยเอ็ด แต่หลังเสร็จงานกฐินพากันขับมาไกล เห็นรถมันเหนื่อยเลยพากันจอดพัก จนมีเจ้าหน้าที่ตร.มาตรวจสอบนี่แหละโยม ขณะที่พระอุทัย บอกกับเจ้าหน้าที่อีกว่า ช่วยลุกหลานหน่อยเถอะ ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ยอมรับเมาไปหน่อยหลังไปฉลองงานบุญกฐิน แถมยังย้ำขอให้ปล่อยตัวไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ไปจากนั้นจึงประสานผู้บังคับบัญชาและนำรถมาพาตัวทำการสึกยังวัดมัชฌิมาวาส ทั้งนี้ช่วงการพูดคุยพระคมสันฯ ซึ่งอยู่ในอาการเมาได้ยื่นเงินเพื่อติดสินบนเจ้าหน้าที่แลกกับการปล่อยตัวแต่เจ้าหน้าที่ไม่รับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวพระ 2 รูปนี้ไปสงบสติที่วัดมัชฌิมาวาส อ.เมืองอุดรธานี และทำการสึกทันที่โดยไม่ต้องรอพระผู้ใหญ่เนื่องจากทำผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง

เมื่อไปถึงวัดพระคมสัน สิริรภัทโท ได้ยินยอมสึกต่อหน้าคณะสงฆ์โดยดี แต่ตอนไหว้รับผิดก็ยังพนมมือเซไปเซมา ส่วนพระอุทัย นาราวงศ์ ไม่ยอมสึกโดยอ้างว่าไม่เมา ตำรวจจึงเชิญตัวไปยัง สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ แต่เมื่อไปถึงพระอุทัยฯ กลับไม่ยอมตรวจอีก สักพักพระอุทัยฯ จึงยินยอมที่จะสึกจากการเป็นพระโดยปริยาย

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 16
  • Kampol
    มันแอบแฝงมาทำเสื่อม ต้องแยกแยะ
    18 พ.ย. 2566 เวลา 00.16 น.
  • อนุชา พวงคุ้มชู
    ไม่แผ่วเหมือนกันนะวงการนี้
    17 พ.ย. 2566 เวลา 21.12 น.
  • สรายุทธคงสร
    เอานิทานชาฎกเข้าท่ากว่าเหรอครับ ต้องเท้าความไปถึงพระเจ้าโกสุมพิสัยนู่นละครับ บก.เล่าเถอะครับ ผมจะเก็บแรงไว้ล่อ40ดีกรีขวดน้อย
    17 พ.ย. 2566 เวลา 17.29 น.
  • ALEX
    ตบกบาลแม่นคนละร้อยที เอาขวดเหล้าขาวนั่นแหละตบ ชัวร์ฌา ซาร์เรว ชัดชัวร์
    17 พ.ย. 2566 เวลา 17.05 น.
  • NONAME
    อย่าโกรธนะผมเลิกทำบุญกับหระภิษุมานานแล้วแต่ยังนับถือศาสนาพุทธอยู่นะ
    17 พ.ย. 2566 เวลา 15.17 น.
ดูทั้งหมด