เปิดอก หมดเปลือก! คุยกับสาว “Playboy Bunnies” อาชีพนี้ไม่ได้มีแค่ความเซ็กซี่! – INTERVIEW TODAY

หูกระต่าย คอสตูมสุดสยิว สาวสวยละลานตา!

เหล่านี้คือภาพจำของเพลย์บอยบันนี่ (Playboy Bunnies) ที่พวกเราต้องปิ๊ง! ขึ้นมาในหัวทุกครั้งเมื่อมีใครกล่าวถึง “สาวบันนี่” แต่สงสัยบ้างไหมว่าเหล่าน้องกระต่ายพวกนี้เขาทำอะไรกันบ้างนอกจากเดินน่ารักไปมาให้พวกเราใจเต้นไปวัน ๆ!

วันนี้LINE TODAY พาทุกคนบุกออฟฟิศ Playboy Thailand ที่หนุ่ม ๆ หลายคนต้องเคยแอบฝันจะไปเยือน และพบกับ “บันนี่ฟรานซี่” “บันนี่นุชชี่” “บันนี่มาเฟีย” และ“บันนี่มัดไหม” สาว ๆ เพลย์บอยบันนี่ปี 2019 ในบทสนทนาที่พวกเธอยอมถอดหูกระต่าย แล้วเล่าให้เราฟังอย่างหมดเปลือก ถึง “บทเรียน” และเรื่องราวที่ไม่ง่ายในการทำงานในบทบาท “เพลย์บอยบันนี่ส์” รวมถึงผลงานล่าสุดที่พวกเธอได้ไปปรากฏตัวในซีรีส์เรื่องดัง “เป็นต่อ UNCENSORED สำมะเล เพลย์บอย”

กำเนิดบันนี่

กว่าจะเซ็กซี่อย่างที่เห็น “บันนี่ฟรานซี่” “บันนี่นุชชี่” “บันนี่มาเฟีย” และ “บันนี่มัดไหม” เคยทำอะไรมาบ้าง และเหตุผลที่จุดประกายให้พวกเธออยากเดินทางสายบันนี่

บันนี่ฟรานซี่ : ก่อนที่จะมาประกวดเป็นเพลย์บอยบันนี่ส์ (Playboy Bunnies) เราเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ นิตยสารแนวเซ็กซี่อีกเล่ม ได้มาประกวดบันนี่เพราะว่าได้บังเอิญไปเจอบันนี่รุ่นพี่ชื่อ “บันนี่คีย์” ก็ชวนฟรานให้ได้มาลองประกวด และได้ตำแหน่ง

บันนี่มัดไหม : ของมัดก็คือแต่ก่อนทำงานเป็นพริตตี้ และก็คลินิกความงาม แล้วเลิกกับแฟน เพื่อนก็เลยแนะนำให้มาประกวดและเข้ารอบ

บันนี่มาเฟีย : มาเฟียเคยได้ตำแหน่ง “Miss Maxim 2016” แล้วก็เป็นดีเจค่ะ

บันนี่นุชชี่ : ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นพริตตี้ที่มอเตอร์โชว์ เป็นงานอีเวนต์ทั่วไป แล้วก็คล้ายๆ น้องมัด ตอนนั้นโสด แล้วเราทำงานตรงนั้นมาเต็มที่แล้ว มันอิ่มแล้ว อยากลองทำอะไรใหม่ๆ บ้างก็เลยมาสมัครเป็นบันนี่

บันนี่ฟรานซี่ : จะมีการแคสติ้งก่อนค่ะ เพื่อหา 40 คนที่เป็นแคนดิเดต พอผ่านเข้าไปก็จะเก็บตัว และกำหนดวันประกวด คัดเหลือ 20 ก่อนรอบแรก รอบสองเหลือ 10 ก็คือแบรนด์แอมฯ ของปีนั้น ๆ ปีละ 10 คน ซึ่งอาจจะไม่ถึงก็ได้ ถ้าได้แค่ 7 ก็จะเอารุ่นเก่ามาสมทบเพิ่มในปีนั้น ๆ

เบื่อจากการเป็นพริตตี้ อิ่มตัว เลยมาประกวด แล้วคนอื่น ๆ ทำไมถึงมาประกวด?

บันนี่มาเฟีย : เพลย์บอยบันนี่ส์ คือที่สุดของนิตยสารเซ็กซี่ที่ดีที่สุดของประเทศไทยสำหรับเรา

บันนี่ฟรานซี่ : ตอนฟรานทำที่เก่า มันจะแตกต่างตรงที่ว่าตรงนั้นเขาแค่ให้ตำแหน่งเรา เหมือนเราได้แค่นามสกุล ที่เหลือเราต้องไปขวนขวายเองหมดเลย แต่เพลย์บอยบันนี่ มันต่างกัน เราเห็นรุ่นก่อน ๆ ที่เรามีรู้จักบ้าง รุ่นพี่อะไรอย่างนี้ เราเห็นพัฒนาการของเขา และเราเห็นว่า ที่นี่ให้อะไรที่มันมากกว่าจริง ๆ

ใจฟรานอยากมาตรงนี้คือฟรานอยากเปลี่ยนตัวเอง อยากพัฒนาตัวเอง เพราะฟรานเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจและฟรานรู้สึกว่าฟรานด้อยที่สุด ฟรานรู้สึกว่าฟรานโดนติโดนอยู่ในมุมที่เราไม่เคยผ่านงานเซ็กซี่มาก่อน เลยอยากมาบันนี่เพราะอยากพัฒนาความเซ็กซี่ของตัวเองให้ไปถึงเลเวลที่ที่สุดได้

เซ็กซี่ขนาดนี้ ที่บ้านไม่ว่าเหรอ?

ลองถามถึงผลตอบรับจากทางบ้าน ว่าสำหรับสาว ๆ บันนี่ ครอบครัวหรือคนใกล้ตัวของพวกเธอมีความคิดเห็นอย่างไรต่องานของพวกเธอบ้าง

บันนี่มัดไหม : ครอบครัวสนับสนุน ตอนแรกเขาเห็นว่าเป็นสาวเซ็กซี่มันก็ขัดกับตัวที่มัดเป็นแต่ก่อน แต่แม่บอกว่าอะไรที่ไม่เคยลองก็ให้ลอง มันเป็นกำไรของชีวิต และทุกคนก็ซัพพอร์ตหมด

แต่ก่อนเป็นไม่ค่อยแต่งตัว จะใส่แค่เสื้อยืด กางเกงยีน เป็นคนไม่กล้าแสดงออก ขี้อาย ไม่กล้าแต่งตัวโป๊ ทีนี้อกหัก! และแฟนชอบผู้หญิงเซ็กซี่ แล้วเราเป็นคนไม่ค่อยแต่งตัว ก่อนหน้านี้เป็นพริตตี้มาก่อนค่ะ เพื่อนเลยแนะนำให้มาให้ลองมาดู

การงานพื้นฐาน “บันนี่"

กว่าจะมาเป็นบันนี่ไม่ใช่เรื่องง่าย สาว ๆ ที่ได้ตำแหน่งเพลย์บอยบันนี่ส์แต่ละปีจะต้องทำภารกิจและเรียนรู้เรื่องอะไรบ้าง กว่าจะได้มาซึ่งความเซ็กซี่แบบฉบับเพลย์บอยบันนี่ส์!

บันนี่ฟรานซี่ : จะมีคนหนึ่งที่ชื่อ“แม่เอ้” เป็นแม่พันธุ์บันนี่ เป็นหัวหน้าคนดูแลเรา คือเขาอยู่มาตั้งแต่เพลย์บอยบันนี่ส์รุ่นแรกตั้งแต่เปิดตัวคือตั้งแต่ปี 2014 เขาอยู่ทุกขั้นตอนกระบวนการทำงานหมดเลย เลยเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่า วัฒนธรรมของที่นี่คือการที่เราเคารพเขา เพราะเขาคือคนที่สอนเราทุกอย่าง สอนมาทุกรุ่น เขาเป็นคนพัฒนาเรา เพลย์บอยบันนี่รุ่นแรก จนถึงปัจจุบันจะได้รับเหมือนกันหมดเลย

บันนี่นุชชี่ : การสอนของแม่เอ้มันเป็นเหมือนกุศโลบาย ว่าคนที่เข้ามาฝึกมองออกไหมว่าเขาจะให้อะไร ถ้ามองไม่ออกแล้วทนไม่ไหว ออกไปก็มี

บันนี่ฟรานซี่ : อย่างเรื่องเวลา ถ้ามาสายนาทีเดียวโดนเรียกประชุมเลยนะ คือคุณรู้ไหมว่าทำแบบนี้เพื่อนที่มารอรู้สึกยังไง มันจะกดดันมากนะคะ หรือโดนดุว่าแต่งหน้าอะไรถามจริง อย่างเงี้ย (หัวเราะ) คือเขาจะสอนเพื่อให้เรารู้สึกว่า “ไม่ได้ละ พรุ่งนี้ฉันจะต้องทำดีขึ้น”

บันนี่นุชชี่ : อย่างการถ่ายรูปกับโทรศัพท์ เซลฟี่ คือนุชงงนะว่าให้ทำทำไม แต่สุดท้ายมันคือสิ่งที่เขาสอนว่าไปถ่ายรูปกับโทรศัพท์มาสิ ถ้าถ่ายกับโทรศัพท์แล้วสวย เจอกล้องใหญ่ก็ไม่ต้องกลัวแล้ว

บันนี่มาเฟีย : มันเหมือนการฝึกโพสให้สวยในแบบของเรา

บันนี่ฟรานซี่ : ตอนเข้ามาแรก ๆ ยังบ่นกับพี่นุชชี่เลยว่าทำทำไม ให้โพสต์ 40 รูปก่อนบ่าย 2 พร้อมแต่งด้วย ส่งไม่ทันก็โดนด่า

บันนี่มาเฟีย : เราจะมีบทลงโทษด้วยนะ คือการวิ่ง ถอดรองเท้าวิ่ง แล้วก็ตะโกน "จะไม่ส่งงานสายแล้วค่า" ถ้าติดตามเราใน IG จะเห็นว่าชีวิตเราเป็นยังไง โดนอะไรบ้าง แล้วสามเดือนแรกเขาจะเน้นให้เราพัฒนาตัวเอง ออกกำลังกาย เต้น คิวแน่นมาก คอร์สเยอะมาก แต่งหน้า ทำผล เรียนแน่นตั้งแต่ 8 โมงยัน 6 โมงทุกวัน

บันนี่นุชชี่ : พอหลังจากสามเดือนน้องมีศักยภาพแล้ว ก็เริ่มรับงาน ซึ่งเป็นงานที่ผ่านการคัดกรองจากทางบริษัท ส่วนใหญ่ก็จะมีงานในออฟฟิศ ส่วนงานนอกบริษัทก็จะเป็นงานมอเตอร์โชว์ โชว์ตัว อีเวนต์ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ออกรายการ

มีพิเศษตอนปี 2019 ที่เพลย์บอยจัดเป็นงานอีเวนต์ เอ็กคลูซีฟปาร์ตี้ ที่เปิดโอกาสให้แฟนคลับมาหา และขายบัตร ได้เจอตัวจริง มาปาร์ตี้กับเรา บางคนเห็นเราแต่รูปใส่บิกินี่ แต่มาที่นี่เขาก็จะได้เห็นเอ็กคลูซีฟมากขึ้น เราจะมีโชว์ มีโชว์เต้น เดินแบบ ร้องเพลง มีการแสดงให้แฟนคลับ

จริง ๆ เราก็เรียนกันยันถ่ายคลิป ตั้งกล้องถ่ายรูปตัวเอง บางทีก็หัดตัดต่อ เรียนทุกอย่าง เรียนเซลฟี่ยังไงให้สวย เรียนนานมาก และก็ต้องห้ามหลอกลวงประชาชน ส่วนใหญ่เป็นตั้งกล้องถ่าย รูปในไอจีแรก ๆ จะเป็นเซลฟี่ตัวเองหมดเลย เพิ่งจะมีช่วงปลายปีที่บอสเล็งเห็นว่าเราควรจะมีรูปที่เป็นแบบออฟฟิเชียล ก็เลยมี Photo day ในบริษัทก็จะใช้ทีมงานในบริษัท ก็ใช้สไตลิสต์ เมกอัพ ออกแบบให้ว่าธีมวันนี้จะถ่ายอะไร

ฝึกก็หนัก เรื่องหนักใจก็เยอะ! 

แบบนี้สาว ๆ รู้สึกยังไง เวลาที่คนภายนอกมองว่างานที่ทำ ใช้แค่ความ “สวย” อย่างเดียว?

บันนี่ฟรานซี่ : เราก็ได้เกียรตินิยมนะ (เชิด) หมดตำแหน่งแล้วด้วย ถ้าใครมาว่าเรา เราโพสต์ด่านะ (หัวเราะ)

คนข้างนอกมักจะมองว่าเราก็แค่เซ็กซี่ แค่ผู้หญิงโป๊ แต่ที่จริงเราเรียนแต่งหน้า เราเรียนทำผม เข้าคอร์ส ออกกำลังกาย รู้ไหมว่าเหนื่อยมาก ไม่ใช่แค่ออกเท่านั้น แต่กลับบ้านไปต้องตั้งกล้องออกกำลังกายส่งการบ้านเป็นเรื่องเป็นราว

บันนี่มาเฟีย : มันใช้เวลานะพี่ อย่างหนูไม่ถนัดเรื่องเต้น มันก็ต้องไปซ้อมที่บ้าน เพื่อที่เวลามีงานเอ็กคลูซีฟปาร์ตี้เนี่ย ต้องเต้นกับเพื่อนให้ได้ ต้องเขากับเพื่อนให้ได้ จะไปเก้ ๆ กัง ๆ ก็ไม่ได้

บันนี่ฟรานซี่ : แต่ละคนทักษะก็ไม่เหมือนกัน แต่ก็ต้องอยู่ในบรรทัดฐานที่ดี อาจจะมีคนที่ดีกว่า แต่เราก็ต้องดีให้ได้ เพื่อให้เป็นทีม ดูออกมาสวย

กฎของ “บันนี่”

บันนี่ฟรานซี่ : คือจริง ๆ มันก็มีกฎของเรา เช่น ห้ามเห็นจุก หรือห้ามโพสต์ที่มันสื่อไปในทางเพศ เราอยากจะท็อปเลสได้ แต่ต้องมีศิลปะ ไม่ใช่โจ่งแจ้ง

บันนี่ฟรานซี่ : ห้ามรับงานเอนฯ ห้ามรับเด็ดขาด! แต่อันดับแรกคือห้ามรับงานเองก่อน ถ้ามีงานต้องผ่านเพลย์บอย สองห้ามรับงานเอนฯ หรืองานที่เสื่อมเสีย เพราะว่าเราอยู่ในสัญญา และห้ามบันนี่ไปพร้อมกันสามคน

บันนี่มาเฟีย : ถ้าไปเกินสามคนปุ๊บมันคือการโปรโมต

บันนี่ฟรานซี่ : กินข้าวทั่วไปได้ แต่ห้ามไปผับบาร์ เพราะมันเหมือนจะโปรโมต

บันนี่นุชชี่ : รับของตอบแทนอย่างอื่นที่ไม่ใช่เงินก็ไม่ได้ ห้ามกินฟรี เดี๋ยวอ้วน!

ความรักของ “บันนี่”

ขอถามแทนใจใครหลายคนว่าตัวแทนของความเซ็กซี่อย่างเพลย์บอยบันนี่ มีความรักอย่างใครเขาได้ไหม?

ทุกคน : ไม่ได้!

บันนี่ฟรานซี่ : คือมีได้แต่ห้ามเปิดเผยลงโซเชียล อารมณ์แบบถ่ายติดมือ ติดไหล่ ไม่ได้เลย แล้วก็ห้ามโพสต์เพ้อเจ้อ ห้ามด่าคน

บันนี่นุชชี่ : นี่คือที่มาว่าทำไมฟรานซี่โดนปรับเงินเยอะมาก (หัวเราะ)

บันนี่ฟรานซี่ : เมาแล้วโพสต์ประจำ (หัวเราะ)

แล้วแบบนี้ชีวิตรักเรายากไหม?

บันนี่ฟรานซี่ : ไม่ยาก เพราะโสดพอดี

บันนี่นุชชี่ : ก็นิดหน่อยนะ หลายคนอาจจะมองว่าเราเป็นคนไม่จริงใจ จริง ๆ ไม่ใข่มันเป็นการทำงานค่ะ

บันนี่ฟรานซี่ : แต่พูดถึงถ้ามีแฟนตอนเข้าตำแหน่งมาแล้วก็ดีนะ ถ้าเค้าเข้าใจเรา แต่ถ้าเราเข้ามาแบบโสด แบบนั้นคนเข้ามาก็จะอีกแบบนึงละ

บันนี่นุชชี่ : เขาบอกว่ามันเป็นกฎของแรงดึงดูด แต่ฉันไม่เชื่อเรื่องนั้น

บันนี่ฟรานซี่ : ใช่สิ พี่นุชมีแฟนนี่ (หัวเราะ)

เลเวลความ “เซ็กซี่” ของ Playboy Bunnies Thailand

จะมีอาชีพไหนที่ขายความเซ็กซี่ได้ถึงใจเท่าเพลย์บอยบันนี่ส์ แต่ว่าในชีวิตจริงล่ะ? สาว ๆ บันนี่คิดว่าตัวเองเซ็กซี่แค่ไหน ให้คะแนนตัวเองกันหน่อย!

ทุกคน : ไม่เลย!

บันนี่ฟรานซี่ : เราเป็นคนเรียบร้อย

บันนี่นุชชี่ : นุชเป็นคนรักษ์โลก (หัวเราะ) เราไม่ชอบอะไรหวือหวา อย่างตอนเด็กอาจจะชอบอะไรเยอะ ๆ นิดนึง แบบแฟชั่นแม่ชมอะไรแบบนั้น ตอนนี้เบาลงละ แล้วก็ในชีวิตทั่วไปแบบไม่ต้องออกงานคือไม่เซ็กซี่เลย ชอบใส่แนวชิลล์ ๆ เหมือนเวลาไปทะเล ผมยุ่ง ๆ อะไรแบบนี้ ก็คือป้านั่นเอง (หัวเราะ)

บันนี่มาเฟีย : เฟียเป็นคนไม่ชอบแต่งตัวเซ็กซี่ ถ้าจะเซ็กซี่คือทำงานหรือออกเที่ยวกลางคืน อย่างถ้าข้างบนโป๊ ข้างล่างต้องมิดชิด

บันนี่มัดไหม : เราชอบใส่ผ้าใบกับกางเกงยีน เซ็กซี่ก็แค่ไปเที่ยวผับ แต่มากสุดก็เปิดหน้า ปิดหลัง ไม่ได้เซ็กซี่ทั้งตัว

บันนี่ฟรานซี่ : ฟรานชอบแนวสตรีทมาก ชอบใส่กางเกงวอร์ม เสื้อครอปอะไรแบบนี้ ก่อนเป็นบันนี่คือต้องเคลียร์เสื้อผ้าทิ้งหมดเลย เพราะทำงานตรงนี้มันต้องใส่เดรส ต้องมีความโป๊นิดนึง 

บันนี่นุชชี่ : อย่างนุชก่อนมาเป็นบันนี่คือไม่รับงานเซ็กซี่เลย พอมาเป็นบันนี่ ทีนี้เราแต่งไม่โป๊ไม่เป็นเลย (หัวเราะ) เหมือนแต่งตัวมาแข่งกันทุกวัน เราเลยเพิ่งมารู้ว่าจริง ๆ เราเป็นคนชอบความเซ็กซี่ แต่เราไม่เคยโดนปลุกอะ

เป็นคนธรรมที่ต้องรับบทเซ็กซี่ แบบนี้จัดการกับความเขินยังไง?

บันนี่มาเฟีย : แรก ๆ เขินนะ

บันนี่ฟรานซี่ : มันเป็นไปเองแหละ เลเวลมันค่อย ๆ ขึ้น

บันนี่นุชชี่ : พวกเราอยู่กัน 10 คนด้วย เพื่อนก็ช่วยกัน แม้กระทั่งทีมงานเวลาถ่ายก็ช่วยเชียร์ด้วย ทำให้เรามั่นใจขึ้น

บันนี่ฟรานซี่ : เขาจะมีพี่สไตลิสต์คอยกำกับด้วย ทำไปทำมาก็ไม่ค่อยเคอะเขินแล้ว เพราะเรามีคนช่วยซัพพอร์ตเสมอ

<< ดูคลิปถาม-ตอบสุดเซ็กซี่จากสาว ๆ Playboy Bunnies ได้ที่นี่เลย! (18+) >>

เพลย์บอยบันนี่ส์ ปะทะ "เป็นต่อ UNCENSORED สัมมะเลเพลย์บอย"

ครั้งแรกของสาว ๆ บันนี่ได้ไปแจมในซีรีส์ดัง “เป็นต่อ UNCENSORED สำมะเลเพลย์บอย” ที่ถึงจะไม่มีบทบาท แต่ก็สร้างสีสันให้แฟน ๆ ได้ใจเต้นไปตาม ๆ กัน!

บันนี่นุชชี่ : เราเล่นเป็นบันนี่ มันไม่ได้มีบทว่าเป็นน้องมัดไหม หรือน้องฟราน ขนาดนั้น เหมือนเป็นสีสันมากกว่า

บันนี่มัดไหม : เพราะเป็นต่อมันเป็นซีรีส์แนวผู้ชายนิดนึง คือมีผู้หญิงเซ็กซี่ แล้วบันนี่มันต้องมีความยาก ความแพง มันก็ไม่สามารถไปเล่นกับเขาได้

บันนี่ฟรานซี่ : มันมีกฎของบอสข้อนึงคือผู้ชายห้ามโดนตัวเราในชุดออฟฟิเชียล ในเรื่องมันเลยเล่นกับเราไม่ได้เยอะ เหมือนไปยืนยิ้มยืนชนแก้ว เป็นสีสัน ให้รอยยิ้มมากกว่า

บันนี่นุชชี่ : ที่จริงมี "แป้งโกกิ" ที่มีบทบาทเลย ไม่ได้ใส่ชุดบันนี่เล่นอย่างเดียว

บันนี่มัดไหม : แต่ว่าถ้าเป็นผู้หญิงแตะตัวเราได้นะ เพียงแต่เราต้องเป็นฝ่ายแตะก่อนถึงจะโอเค ห้ามมากอดมาอะไร

เคยเจอสถานการณ์ลำบากใจไหม?

บันนี่ฟรานซี่ : เยอะค่ะ แต่เราก็ได้รับการเทรนมาว่าจะต้องหลบยังไงให้ไม่ดูน่าเกลียด แบบ "ห้ามทำแบบนี้นะคะ ถ้าทำแบบนี้หนูตีนะ" ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็ต้องเรียกการ์ด เคยเจอแบบดึงหางเราขาดก็มี

มรดกจาก Playboy ที่แสนภูมิใจ

เพลย์บอย (Playboy) ไม่ใช่แค่นามสกุล แต่คือครอบครัวและบ้านที่ทั้งเข้มงวดและอบอุ่นสำหรับสาว ๆ บันนี่ ประสบการณ์จาก “บ้าน” หลังนี้ให้บทเรียนชีวิตอะไรกับพวกเธอบ้าง นอกจากความเซ็กซี่ขั้นสุด!

บันนี่นุชชี่ : นุชภูมิใจกับทุกงานที่นุชได้ทำในฐานะบันนี่เลยนะ เพราะเราตั้งใจมาเป็นเอง ตั้งความหวังไว้ว่าจะเป็นแล้วก็ได้เป็นจริง ๆ สำหรับเพลย์บอย คือนุชผูกพันมากเพราะอยู่มาตั้งแต่ 2017 มันได้ทั้งครอบครัว แล้วเราก็อินกับงานมากด้วย

บันนี่มาเฟีย : คือเฟียมีเป้าหมายว่าจะเข้ามาที่เพลย์บอย เพราะเพื่อนที่เข้ามาก่อนเขาเปลี่ยนแปลงมาก ทั้งชีวิต การงาน แล้วเราเคยร่วมงานกับทีมเพลย์บอย รู้สึกว่าทำไมเขาโพสเก่งมาก แล้วเป็นคนตรงต่อเวลา มีระเบียบ คือเราดูเป็นคนเบ ๆ ไปเลย พอเราได้เข้ามาเราถึงได้รู้ว่าเขาทำยังไง เขามีมาตรฐานของเขา ว่าต้องฝึกนู่นนี่นั่น มันเปลี่ยนชีวิตเราไปเลย

บันนี่มัดไหม : มัดภูมิใจที่เราได้เปลี่ยนแปลงตัวเองหลายอย่าง ได้พัฒนาตัวเอง พัฒนาบุคลิก กล้าแสดงออก แล้วมันทำให้เราเป็นที่รู้จักและเป็นต้นแบบของคนหลาย ๆ คน อีกอย่างคือเขาอยู่กันเป็นครอบครัว มันทำให้เราได้เห็นอีกสังคมที่เราไม่เคยเจอ มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน

บันนี่ฟรานซี่ : ทุกสิ่งที่เราเห็นเวลาที่คนข้างนอกมองมาแล้วบอกว่าฟรานเปลี่ยนไป เพื่อนทุกคนจะบอกว่าฟรานเปลี่ยนไปมาก เมื่อก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้เลย มันทำให้เราภูมิใจว่าเราได้ขนาดนี้เลยเหรอ จากที่เป็นคนเดนหลังค่อม จากที่ใส่ส้นสูงไม่ได้ ตอนนี้เดินทองหล่อคือเฉิดฉายจ้า (หัวเราะ) คือเราเริ่มมีสังคมมากขึ้น แล้วก็ที่ภูมิใจสุด ๆ คือเวลาออกไปทำงานแล้วเขาทักว่าทำไมโพสต์เก่ง ทำไมอินเนอร์ดี ทำไมตรงต่อเวลาขนาดนี้ เราจะบอกว่า "เพลย์บอยไทยแลนด์สอนมา" คำนี้เราจะพูดตลอด เราภูมิใจที่ตอบแบบนี้มาก แล้วคนที่เราทำงานด้วยก็บอกว่าเขาไม่เคยผิดหวังกับบันนี่เลย เพราะบันนี่ทุกคนที่เขาร่วมงานด้วยคือเหมือนกันหมด ทุกคนทำงานเก่ง ฝึกออกมาแล้วดีทุกคน ก็เลยรู้สึกภูมิใจ

-

ขอบคุณ Playboy Thailand สำหรับสถานที่ถ่ายทำ

ติดตามชม  “เป็นต่อ UNCENSORED สำมะเลเพลย์บอย” ได้ทาง LINE TV ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.