"ศรัณย์วุฒิ" แฉเดือด "บิ๊กตู่-วิษณุ-ดอน" ช่วย "ฟิลลิปมอร์ริส" เตะถ่วงคดี สำแดงภาษีบุหรี่เท็จ

"ศรัณย์วุฒิ" แฉ "บิ๊กตู่-วิษณุ-ดอน" ช่วย "ฟิลลิปมอร์ริส" เตะถ่วงคดี สำแดงภาษีบุหรี่เท็จ ทั้งที่ "อสส." สั่งฟ้องปี 56 ชี้ ลดค่าปรับ 8.4 หมื่นล้าน เหลือ 1.2 พันล้าน

เมื่อวันที่ 27 ก.พ.63 เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา เริ่มประชุมสภาผู้เเทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่ 4 มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย เริ่มอภิปรายอย่างดุเดือด เปิดโปงขบวนการช่วยเหลือบริษัท ฟิลลิปมอร์ริส กรณีสำแดงการนำเข้าบุหรี่เป็นเท็จ ซึ่งเกี่ยวข้องกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหมนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และนายดอน ปรมัตวินัย รมว.ต่างประเทศ ซึ่งมูลค่าของค่าปรับสูงถึง 84,000 ล้านบาท แต่มีความพยายามเตะถ่วงคดีและลดค่าปรับเหลือเพียง 1,225 ล้านบาทอย่สงไรก็ตาม วันนี้จะได้รู้ว่าเนติบริกรก็ติดคุกเป็นเหมือนกัน เพราะทำไมไทยไม่เฉลียวใจว่า ฟิลลิปมอร์ริส เเพ้คดีมาทั้งโลกแต่ชนะที่ไทยที่เดียว เขาเเพ้คดีเราทุกประตูไม่มีทางสู้ สำเเดงราคาเท็จ ไม่ตรงกับราคาจริง หลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร เเต่ผู้บริหารประเทศดันทุรังทำลายอธิปไตยไทย 

นายศรัณย์วุฒิ ยังอภิปรายโดนไล่ลำดับเวลาทางคดี ว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.56 ในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทางอัยการสูงสุด (อสส.) เห็นชอบให้สั่งฟ้องฟิลลิปมอร์ริส ต่อมาวันที่ 22 ส.ค. 57 พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุม กรอ. เพื่อหาทางช่วยเหลือบริษัทดังกล่าว โดยเอกชนได้ขอให้ลดโทษกรณีไม่มีเจตนา แต่กรมศุลกากรคัดค้าน จากนั้นมีการมอบหมายกระทรวงการคลัง โดยให้กรมศุลกากรไปพิจารณาปรับปรุงพ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 27 โดยมีกระบวนการยื้อให้คดีหมดอายุความ ทั้งที่ดีเอสไอ เร่งให้สั่งฟ้อง จนกระทั่ง วันที่ 9 มิ.ย.58 นายวิษณุ มีความพยายามเเทรกเเซง เรียก 7-8 หน่วยงานมาหารือ โดยตัวเเทนอสส. ย้ำว่า อสส.มีคำสั่งฟ้องเเล้ว จะแก้ไขไม่ได้ จึงมีคำเเนะนำให้ใช้มาตรา 44 ซึ่งแก้ไขได้ทุกอย่าง เเต่ปรากฎว่าไม่ได้ใช้ เพราะนายวิษณุ มั่นใจว่าจะดำเนินการได้ นายวิษณุ กล้าสาบานไหมว่าเรื่องนี้ไม่จริง ซึ่งความพยายามกดดันของนายวิษณุที่จะเเทรงเเซงช่วยบริษัทต่างชาติเลี่ยงภาษีนั้นไม่สำเร็จเนื่องจากอสส. ยืนยันว่าต้องฟ้อง 

นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า ในการประชุมครม. เมื่อ 21 ก.ค. 58 มีพล.อ.ประยุทธ์เป็นประธาน มีการอนุมัติหลักการแก้ไขพ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 27 เพื่อลดค่าปรับให้ฟิลลิปมอร์ริส เพื่อให้เลือกปรับในกองที่น้อยที่สุด กรณีมีหลายฐานความผิด เมื่อมีการดำเนินการเริ่มแก้ไขกฎหมายดังกล่าวเเล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงค่อยดำเนินการสั่งฟ้อง 

จนเมื่อวันที่ 18 ม.ค.59 เวลาล่วงเลยล่าช้าไปสองปี จนกระทั่งคดีหมดอายุความ แล้ววันที่ 21 ก.ค.59 องค์การการค้าโลก (WTO) ตัดสินให้ไทยเเพ้คดี ไม่ใช่เเพ้เพราะข้อกฎหมาย เเต่แพ้เพราะตั้งใจล้มคดี มีอย่างที่ไหนคดีมูลค่าเป็นเเสนล้านบาท ไทยใช้ทนายขอเเรงค่าจ้างเเค่ 5 ล้านบาท ต่อมา 4 ต.ค.59 ครม.เสนอสนช.แก้กฎหมายศุลกากร โดยให้เหตุผลว่า เเพ้คดี WTO ซึ่งประเทศอื่นหากเเพ้คดีเเบบนี้ก็ไม่ทำอะไร เพราะเอาประโยชน์ของชาติเป็นที่ตัวตั้ง แต่กับเราผู้มีอำนาจได้อะไรจากงานนี้หรือไม่แก้มาตรา 27 เพื่อลดภาษีบุหรี่ต่างชาติ

นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 มี.ค.60 สนช.เห็นชอบร่างแก้ไข พ.ร.บ.ศุลกากร วาระ 3 ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 13 พ.ย.60 แก้กฎหมายลดเบี้ยปรับเเล้วยังไม่พอ ยังพยายามช่วยฝรั่งให้พ้นคุก อ้างว่ากระทบรูปคดี กับ WTO โดยนายดอน ออกหนังสือฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 23 ก.ค.61 ถึงนายวิษณุ ในเนื้อหาของหนังสือ มีความพยายามกดดันเจ้าหน้าที่ไทยว่าควรยื่นอุทธรณ์ต่อWTO หรือไม่ 

ทั้งที่เรายังไม่เเพ้คดี แต่โอกาสเเพ้มันก็มี และอ้างว่าไทยจำเป็นต้องปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับWTO ทั้งที่ WTO ไม่ได้บอก จากนั้น เมื่อวันที่ 7 ม.ค.62 นายดอน มีหนังสือถึงนายวิษณุ เป็นฉบับที่ 2 เรื่องการระงับข้อพิพาท โดยระบุทางฟิลลิปมอร์ริส ขอให้อสส. นำคำสั่งไม่ฟ้องกลับมามีผลใหม่ โดยฟิลิปมอร์ริส จะให้เงินสนับสนุนซื้อใบยาสูบจากเกษตรกรและยังระบุว่า ฟิลลิปมอริสต์ จะขอให้รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ ช่วยเจรจา 

จนกระทั่ง 29 มี.ค.62 นายกฯ มีหนังสือมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาข้อเสนอฟิลิปมอร์ริส เพื่อยุติข้อพิพาทเเบบฉันท์มิตร จากกรณีหลบเลี่ยงภาษี ถือเป็นการให้คู่ความเเทรกเเซงกระบวนการยุติธรรม ถือว่านายกฯ มีพฤติกรรมฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 186 วรรค 2 โดยวันที่ 29 พ.ย.62 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาดคีฟิลลิปมอร์ริส นำเข้าบุหรี่จากฟิลิปปินส์ โดยมีการสั่งปรับเเค่ 1,225 ล้านบาท เท่านั้น