วันที่ 14 ก.พ. 63 บรรยากาศที่ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช ประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางมาใช้จ่ายซื้อสินค้า หลังห้างเปิดให้บริการเป็นวันที่ 2 โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมดอกกุหลาบสีแดงมอบให้ประชาชนที่เดินทางเข้ามาใช้บริการ เพื่อเรียกขวัญกำลังใจ พร้อมจัดห้องเขียนข้อความไว้อาลัย จากการสำรวจพบว่าร้านค้าเกือบทุกร้านภายในห้าง กลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้ว เหลือเพียงโซนซูเปอร์มาร์เก็ต ชั้น LG เท่านั้น ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง
เช่นเดียวกับบริเวณลานด้านหน้าห้างติดกับประชาสัมพันธ์ ชั้น G ได้มีการจัดเวทีสำหรับขับกล่อมเพลงเพื่อเป็นการผ่อนคลายให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ ขณะเดียวกันกรมสุขภาพจิตได้ปรับแผนการทำงาน 2 ส่วน มีการตั้งศูนย์หมอใจภาคสนาม ที่ชั้น G ของห้าง เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ และส่วนที่ 2 จะขยายผลไปครอบคลุมทุกชุมชนในจังหวัดนครราชสีมา ในการให้คำปรึกษาและเยียวยาสภาพจิตใจ
ส่วนบริเวณชั้น LG แม้ว่าร้านค้าส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการเกือบ 95% แต่ยังมีบางร้านที่ยังปิดให้บริการ แต่ร้านโดนัทซึ่งเป็นร้านที่ตำรวจได้หยิบเอาขนมภายในตู้ไปรับประทาน และทราบข่าวภายหลังว่า พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้วางเงินเพื่อจ่ายชำระค่าสินค้ามูลค่า 1,000 บาท
โดยทางร้านโดนัท ให้ข้อมูลว่า หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้วได้เข้าไปตรวจนับสินค้า พบว่าสินค้าในตู้หายไปบางส่วน แต่มีจำนวนไม่มาก ส่วนตัวทราบจากหัวหน้าเช่นเดียวกันว่ามีเงินจำนวน 1,000 บาท วางไว้เพื่อชำระค่าสินค้าที่หายไป ซึ่งในมุมหนึ่งตนเองอยากชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปฏิบัติงาน จนกระทั่งภารกิจสำเร็จ และยังขอชื่นชมในความมีคุณธรรมของเจ้าหน้าที่ หลังทราบว่าเจ้าของเงินดังกล่าวคือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะถ้าหากเป็นสถานการณ์ปกติ แล้วมีของในร้านหายไปพนักงานจะต้องรับผิดชอบ
ด้าน น.ส.กนกนาถ เนตรชาลีรัตน์ พนักงานธนาคารออมสิน ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิง เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนหลบอยู่ด้านในธนาคารพร้อมกับพนักงานและลูกค้ารวม 17 คน โดยหลบอยู่ประมาณ 7 ชั่วโมง จนเวลา 23.30 น. ได้ยินเสียงคนเคาะประตูธนาคาร จึงเข้าไปดูภาพกล้องวงจรปิด และคาดว่าน่าจะมีคนมาช่วย จึงตัดสินใจคลานออกมาดูที่หน้าธนาคาร ก็เห็นเจ้าหน้าที่แต่งกายคล้ายทหารมีหมวกโม่งคลุม จึงไม่มั่นใจว่าเป็นคนร้ายหรือไม่ จนเห็นนายไชยวัฒน์ ทำกิน พนักงานรักษาความปลอดภัย ที่ใส่ชุดสีแดง ซึ่งตนจำได้ว่าเป็นรปภ.ประจำชั้น 2 ที่ธนาคารตนตั้งอยู่ จึงตัดสินใจโบกมือขอความช่วยเหลือ
โดยนายไชยวัฒน์ ได้วิ่งมาหา และบอกว่าจะตามเจ้าหน้าที่มาช่วย ก่อนที่พวกตนจะค่อย ๆ เดินออกมาหลบในช่องทางออกบันไดหนีไฟ จากนั้นประมาณ 3 นาที เจ้าหน้าที่ทหารพร้อมอาวุธครบมือก็เข้ามาช่วยพาออกทางบันไดหนีไฟด้านข้าง จนพวกตนสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
โดยหลังเกิดเหตุตนยังไม่ได้เจอ นายไชยวัฒน์ รปภ.ชุดแดงที่ให้ความช่วยเหลือ แต่ตั้งใจว่าจะนำกระเช้าไปกล่าวขอบคุณ เพราะหากไม่มีนายไชยวัฒน์ คงไม่ได้ออกจากธนาคาร และอยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่มีส่วนช่วยให้ตนรวมถึงพนักงานทุกคนปลอดภัย
https://youtu.be/9mGrKdI9TCs
🕉️PK63956🕉️ คนดีมีน้ำใจ แม้ในสถานการณ์ที่แย่ๆๆ ยังมีสติ
ขอชื่นชมค่ะ...🎉🎉🎉
15 ก.พ. 2563 เวลา 05.14 น.
Kie ช่วนกันแชร์ด้านฮีโร่ทุกภาคส่วนทุกตัวบุคคลที่ช่วยเหลือพี่น้องให้ปลอดภัย ยกย่องสนับสนุนคนเหล่านี้ ส่วนเรื่องราวสยดสยองที่คนร้ายมันก่อเหตุหยุดพูดถึงหยุดเผยแพร่มันและวิธีการของมัน อย่าไปให้ค่ามัน เพื่อหยุดการสร้างโมเดลความโหดร้ายรุนแรง แต่เรื่องคดี ความคดโกงความไม่เป็นธรรม กดขี่ของทหารชั่วๆที่ทำต่อลูกน้องเป็นต้องลากไส้ออกมาทั้งระบบ ทบทวนและสะสาง อย่าให้ต้องเกิดซ้ำอีก
15 ก.พ. 2563 เวลา 01.41 น.
รุ่ง/นภัสนันท์ อยากให้สื่อเสนอข่าว ชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่อื่นที่เข้าไปช่วยเหลือบ้าง ไม่ใช่มองเห็นแค่รปภ. จนท. ที่เข้าไปช่วยเสียชีวิตไปแล้วก้มี ไม่รุ้เหรอ...
15 ก.พ. 2563 เวลา 00.47 น.
Chat ถ้าตำราจโคราชทำงานกันอย่างมีประสิทธิภาพไม่มีคนตายในห้างหรอก คนร้ายมันเดินทางไปฆ่าคนโดยไม่มีตำรวจขัดขวางเลยตั้งแต่กรมทหารไปวัดแล้วก็มายิงคนในห้างซึ้งมันต้องใช้เวลานานพอสมควรถามว่าแล้วตำรวจเมืองโคราชทำอะไรกันอยู่
14 ก.พ. 2563 เวลา 23.41 น.
ท่าเปนตำรวจนะ
คงถอดชุดเอากระโปงมาใส่
ปลอมตัวเพื่อไม่ให้โดนกระสุน
14 ก.พ. 2563 เวลา 23.41 น.
ดูทั้งหมด