วันที่ 23 ส.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 3 เทศบาลตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมคณะ เข้าพบนายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับโครงการคอนโดมีเนียมหรู หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านผ่านทางเฟซบุ๊กของพรรค
ทางเทศบาลตำบลกะรนได้ชี้แจงการอนุญาตก่อสร้างว่าทุกอย่างทำตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะหากไม่ดำเนินการก็อาจจะถูกผู้ลงทุนฟ้องร้องได้ ส่วนของลำรางสาธารณะคลองบางรักนั้น เดิมเมื่อน้ำไหลลงมาจากเนินเขาก็จะไหลผ่านทางคลองดังกล่าว แต่ปัจจุบันมีการถมคลองดังกล่าวไปแล้ว จึงทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณพื้นผิวจราจรและอาคารบ้านเรือนในพื้นที่กะตะน้อยทุกครั้งที่มีฝนตกลงมา
จากนั้น นายมงคลกิตติ์ ดินทางต่อไปยังหาดกะตะน้อย เพื่อพบปะพูดคุยกับตัวแทนผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาด ถึงปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบชายหาด พร้อมทั้งเดินเท้าไปตามแนวชายหาดกะตะน้อยเพื่อตรวจสอบจุดที่มีการระบุว่า เคยเป็นคลองสาธารณะบางรัก ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงแรมแห่งหนึ่ง
คณะของพรรคไทยศรีวิไลย์ ยังเดินทางไป สภ.กะรน เพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจกับ พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.กะรน และ พ.ต.ท.ประเทือง ผลมานะ รอง ผกก.ป.สภ.กะรน ที่ตกเป็นข่าว กระทบกระทั่งกับนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ และเดินทางต่อไปยังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อพบกับนาย สุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาการก่อสร้าง
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อมาตรวจสอบข้อพิพาทที่ประชาชนร้องเรียน เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลในส่วนของการอนุญาตก่อสร้างคอนโดหรูนั้น พบว่าทางเทศบาลตำบลกะรน น่าจะทำถูกต้องตามขั้นตอนทุกอย่าง แต่น่าจะเกิดความผิดพลาดตรงขั้นตอนการอนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ซึ่งขณะนั้นมีคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นมาแล้ว แต่ทำไมที่ดินจังหวัดไม่รายงานหรืออาจจะมีการรายงานแล้ว ซึ่งต้องดูในบันทึกรายงานการประชุมประกอบ เพื่อจะดูว่าใครกันแน่ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จะเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด หรือที่ดินจังหวัด
อีกส่วนหนึ่ง คือ กรณีการก่อสร้างทับลำรางสาธารณะคลองบางรัก ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นช่วงประมาณปี 2520 กว่าๆ ทราบว่า ที่ดินจังหวัดภูเก็ตสั่งการให้ดำเนินการแก้ไข โฉนดที่ดินให้มีคลองสาธารณะเหมือนเดิม ซึ่งหลังการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแล้ว จะมีการบังคับใช้กฏหมายกับผู้ครอบครองที่ดินให้ปรับปรุงแก้ไขให้กลับเป็นเหมือนเดิมเพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ เพราะเดิมทีแหล่งน้ำธรรมชาติจะต้องมีทางออกไปสู่ทะเลแต่ปัจจุบันไม่มีทางออกก็จะเป็นปัญหาต่อไป
นอกจากนี้ยังได้รับเรื่องร้องเรียนเพิ่มเติม คือ ความเดือดร้อนของผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาด ที่บางรายถูกดำเนินคดีจากการมาทำมาหากินในที่สาธารณะที่ติดกับทะเล แต่ในส่วนโรงแรมใหญ่นั้นทำกินในพื้นที่ที่มีโฉนด และอีกส่วนที่พบจากการลงพื้นที่ คือ มีสิ่งปลูกสร้างอยู่บนภูเขา ซึ่งก็ต้องไปตรวจสอบว่าอยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก.หรือไม่ ถ้าอยู่ในพื้นที่ส.ป.ก. ก็ต้องเสนอให้ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ จัดการให้เป็นไปตามกฏหมาย
นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า พี่น้องประชาชนไม่ว่าอยู่จังหวัดไหน หากได้รับความเดือดร้อนและแจ้งมาตนก็จะลงพื้นที่ในฐานะที่ตนเป็น ส.ส.ระบบบัญชี รายชื่อ ไม่มีพื้นที่รับผิดชอบเป็นการเฉพาะต่างจาก ส.ส.เขต
เต๋อ...💰💎⚖️ ต้อวรู้จักเอาหน้าอย่างนี้
ไม่ลงไป. จัดการ 3 จว ใต้ให้สงบ
23 ส.ค. 2562 เวลา 16.50 น.
ปวดหัวแทน สส ปัดเศษ
23 ส.ค. 2562 เวลา 14.44 น.
บ่าวพันธ์พื้นเมือง ไปเพื่อ....งง
23 ส.ค. 2562 เวลา 14.32 น.
Peerapong 14 อาทิตย์ หน้า. สส อีก 498 คนที่เหลือ. กะ สว 250 คน ก็ คง ลงไป ดู ปัญหา ที่ กะรน ภูเก็ต. อีก. มะ ล่ะ ???
23 ส.ค. 2562 เวลา 14.32 น.
saree789 ลงไปเพื่อสร้างกระแสร์ให้เป็นข่าว แต่เป็นข่าวในทางบวก เพื่อหาคะแนนนิยม สร้างภาพ ปัญหาที่เกิดขึ้น สส.ที่ลงไปก็แก้ปัญหาไม่ได้หรอก เพราะมันเกิดมานานแล้ว เป็นเรื่องของคนในพื้นที่ จะจัดการกันเอง.ส่วน สส.ลงพื้นที่สร้างภาพ เอาดีใส่ตัว.เวลาไปหาเสียงก็จะเอาเรื่องนี้มาเป็นผลงาน.
23 ส.ค. 2562 เวลา 14.24 น.
ดูทั้งหมด