ไลฟ์สไตล์

คดีฆาตกรรมยกครัวสุดสะพรึง กับ 'ฆาตกร' ที่ไม่ใช่คนอื่นคนไกล.. - พุธนี้คดีสยอง

LINE TODAY ORIGINAL
เผยแพร่ 03 ก.พ. 2564 เวลา 02.32 น. • หลานสาวน้าป๋อง

วันที่ 13 สิงหาคม 2018 เวลา 13.40 น. ตำรวจเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ได้รับรายงานทางโทรศัพท์จากหญิงสาวคนหนึ่งว่าเพื่อนของเธอหายตัวไป…

"แชนนัน วัตส์" คือชื่อของเธอ ซึ่งความผิดปกติที่เกิดขึ้นก็คือแชนนันพลาดนัดกับคุณหมอเพื่อตรวจครรภ์ และไม่มีใครที่สามารถติดต่อเธอได้ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนั้น จากการสอบสวนขั้นต้น ตำรวจพบกระเป๋าสตางค์ มือถือกับกุญแจที่บ้านของแชนนัน และจากการให้ปากคำโดย "คริส วัตส์" สามีของเธอ เขาบอกว่าตัวเขาเองออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่และได้ยินว่าแชนนันจะพาลูกสาว ทั้งเบลล่าที่อายุ 4 ขวบ และเซเลสต์ในวัย 3 ขวบไปบ้านเพื่อน นั่นคือความเคลื่อนไหวสุดท้ายที่เขารู้เกี่ยวกับภรรยาของตน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สื่อทุกสำนักในเดนเวอร์ให้ความสนใจกับคดีนี้ คริสให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่าเขารู้สึกเหมือนใจจะขาดและขอให้ใครก็ตามที่ลักพาตัวลูกกับภรรยาเขาไป ช่วยพาพวกเธอกลับมาคืน"บ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านอีกต่อไปเมื่อไม่มีพวกเขา ผมขอร้องล่ะนะ ช่วยพาลูกผมกับแชนนันกลับมาเถอะ" คริสกล่าว

เบลล่าและเซเลสต์ / ภาพจากเฟซบุค Shanann Watts

วันที่ 15 สิงหาคม 2018 หลังจากที่ตำรวจ FBI เข้ามาดูแลเคสนี้ คริส ในฐานะผู้ต้องสงสัย ถูกส่งไปสอบสวนด้วยเครื่องจับเท็จ ผลฟ้องว่าเขากำลังพูดโกหกและท้ายที่สุดในวันเดียวกัน คริสก็ยอมรับสารภาพว่าเขาคือคนที่ลงมือฆ่าเมียตัวเองด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเห็นว่าแชนนันพยายามที่จะบีบคอลูกสาวทั้งสอง และเขาเองแค่ต้องการปกป้องลูก ๆ เท่านั้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

วันถัดมา เจ้าหน้าที่พบศพทั้ง 3 ร่างของทั้งแชนนันและเด็ก ๆ ไม่ไกลจากที่ทำงานของคริส ร่างของเธอถูกฝังกลบดินไว้อย่างตื้น ๆ ส่วนศพของเด็กน้อยทั้งสองถูกซ่อนไว้ในแทงก์น้ำมัน คริสตกอยู่ในฐานะฆาตกรอย่างดิ้นไม่หลุด และในวันที่ 21 สิงหาคม เขาก็ถูกแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาถึง 3 ครั้ง และวางแผนฆ่าลูกน้อยในครรภ์ของแชนนันอีก 1 กระทง

คดีนี้สร้างความฉงนใจให้กับคนใกล้ชิดของครอบครัววัตส์เป็นอย่างมากว่าเหตุจูงใจที่ทำให้สามีฆ่าภรรยาและลูกในไส้ของตัวเองได้ลงคอคืออะไร เท่าที่ทุกคนรู้ นอกจากปัญหาเรื่องการเงินแล้ว พวกเขาก็ดูเป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะจากวีดีโอที่แชนนันโพสต์ลงในเฟซบุคของเธอ ตอนที่เธอเซอร์ไพรส์คริสด้วยข่าวดีที่ว่าเธอกำลังอุ้มท้องลูกชายคนสุดท้องอยู่ เขาก็มีท่าทีดีใจกับข่าวดังกล่าวเป็นอย่างมาก

แชนนันและลูกสาว / ภาพจากเฟซบุค Shanann Watts
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เรื่องราวถูกเฉลยเมื่อตำรวจเจอเบาะแสของตัวละครสำคัญอีกตัวที่มีบทบาทกับคดีนี้ เธอคือ นิโคล เคสซิงเกอร์ คนรักลับ ๆ ของคริส ทั้งคู่พบกันที่ทำงานและเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ในเดือนมิถุนายน 2018 คริสใช้จังหวะที่ภรรยาเดินทางไปเพื่อคุยธุรกิจ หรือพาลูก ๆ กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ในอีกเมือง แอบขลุกอยู่กับนิโคลโดยที่เขาให้ความหวังกับเธอเสมอว่าตนกำลังจะหย่าแล้วและอยากเริ่มต้นชีวิตคู่ครั้งใหม่กับเธอ

หลักฐานชี้ชัดว่านิโคลเองก็คาดหวังที่จะได้แต่งงานกับคริสเช่นกัน เธอเสิร์ชหาแบบชุดเจ้าสาวและใช้เวลาหาไอเดียเกี่ยวกับงานแต่งงานมากถึง 2 ชั่วโมง แต่ถึงกระนั้นจากการสอบปากคำ นิโคลแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเธอไม่มีส่วนรู้เห็นกับการฆาตกรรมในครั้งนี้ และยืนยันว่าถ้าหากเรื่องระหว่างเธอกับคริสไม่ได้เกิดขึ้น เขาก็ยังคงมีแผนการในใจที่ไม่เปลี่ยนแปลง

คำสารภาพทั้งหมดถูกเปิดเผยผ่านจดหมายเปิดผนึกที่คริสเขียนระหว่างรับใช้โทษในเรือนจำในหลาย ๆ ปีต่อมา เขาสารภาพว่าตัวเองได้วางแผนทั้งหมดเอาไว้ล่วงหน้า 

"ผมเข้าไปในห้องนอนลูก ๆ แล้วใช้หมอนอุดปากและจมูกของพวกเธอทีละคน แล้วกลับมาที่ห้องนอนตัวเอง ค่อย ๆ ย่องกลับเข้ามานอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้นผมกับแชนนันก็ทะเลาะกัน" 

ครอบครัววัตส์

คริสบอกกับภรรยาว่าเขากำลังมีคนอื่นและเขาไม่ได้รักเธออีกต่อไปแล้ว แชนนันขู่เขาว่าคริสจะไม่มีวันได้เจอหน้าลูก ๆ อีก เขาเลยตัดสินใจ ณ โมเมนต์นั้นที่จะลงมือบีบคอ ปลิดชีวิตของเธอ

"ผมรู้จุดสำคัญที่จะทำให้เลือดหยุดไหลขึ้นสมอง และกดตรงนั้นจนแชนนันหมดสติไปชั่วคราว แต่ผมก็รู้ว่าถ้าไม่ทำอะไรต่อ เธอจะฟื้นกลับคืนมาและแพลนชีวิตที่ผมเคยพูดกับนิโคลเอาไว้จะไม่เกิดขึ้น คนถามว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมสู้ผมกลับ ก็เป็นเพราะเธอไม่มีเรี่ยวแรงเหลือเลย ผมบีบคอเธอจนเส้นเลือดในตาของเธอแตก ตาของแชนนันแดงก่ำและจ้องกลับมาที่ผมตอนวินาทีสุดท้าย.."

เขาแบกร่างไร้วิญญาณของภรรยาใส่กระเป๋าใบใหญ่แล้วเอาขึ้นรถเพื่อเตรียมนำไปฝังอำพราง และเมื่อคริสเดินกลับเข้าไปยังห้องนอนลูก ๆ เพื่อทำสิ่งเดียวกัน ปรากฏว่าเด็ก ๆ ทั้งสองยังไม่ตาย

"ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมทั้งเบลล่าและซีซี่ (เซเลสต์) ถึงฟื้นกลับคืนมาได้ พวกเขามองผมด้วยแววตาหม่น ๆ เหมือนถูกทำร้ายอย่างหนักมา รอบ ๆ ตาของเบลล่าเป็นรอยช้ำรอยใหญ่" 

คริสจัดการอุ้มลูกสาวของเขาขึ้นรถแล้วขับไปยังบริเวณใกล้ ๆ ออฟฟิศของตัวเอง เขาฝังร่างของแชนนันก่อนที่จะเดินกลับมาแล้วใช้ผ้าอุดปากอุดจมูกเด็ก ๆ อีกครั้ง เขาเขียนในจดหมายด้วยว่าลูกสาวคนเล็กเห็นสิ่งที่เขาทำกับพี่สาวของตัวเอง แล้วเอ่ยปากถามเขาว่า "พ่อจะทำแบบนั้นกับหนูด้วยใช่ไหม…

อีกคำสารภาพของเขาก็คือคริสพยายามฆ่าลูกคนสุดท้องเช่นกัน เขาแอบผสมยาที่มีชื่อว่า Oxycodone เพื่อให้แชนนันแท้งลูก ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ศาลตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต ส่วนพ่อแม่ของแชนนันก็ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทั้งหมด 6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 180 ล้านบาท) โดยจะคิดดอกเบี้ย 8% ของจำนวนนี้ทุก ๆ ปี

พวกเขารู้ดีว่าคริสคงไม่มีปัญญาจ่ายเงินทั้งหมดนี้ แต่ผู้ชายที่ลงมือฆ่าลูกสาวที่เป็นรักของพวกเขาและทำให้พวกเขาสูญเสียหลานสาวทั้งสองจะต้องไม่เหลืออะไรติดตัวกลับไปเช่นกัน

อ้างอิง

เว็บไซต์ Biography

เว็บไซต์ Denver Post

เว็บไซต์ Yahoo! News

ความเห็น 137
  • Aoynaka
    หมดรักกัน ก็แค่คุณหายไปจากชีวิตพวกเขาก็ได้ ช่วงแรกภรรยาอาจตามมาเซ้าซี้ แต่พอเวลาผ่านไปเขาจะยอมรับว่าคุณไม่รัก ไม่ต้องการเขาแล้ว ก็ต่างคนต่างอยู่ ทำไมต้องฆ่ากันขนาดนี้ ฆ่าภรรยาไม่เท่าไหร่ แต่ฆ่าลูกในไส้นี่มันเลวจริงๆ
    03 ก.พ. 2564 เวลา 05.59 น.
  • โอ้ยยย สู้อุตส่าห์อ่านจนจบ...สงสารเด็กๆ มากเลย เลือดเย็นผิดวิสัยมนุษย์ ความเป็นพ่อไม่มีในจิตใจเลย เลว
    03 ก.พ. 2564 เวลา 03.05 น.
  • ✿.。.:* 🅟🅞🅞🅚🅘🅔 *.:。✿゚
    ถ้าใครไปดูคดีนี้ในnetflix จะรู้เลยว่าคนเป็นพ่อเลวยิ่งกว่าที่เขียนมานี่ไม่รู้กี่เท่า เพราะมีคลิปภาพจริงตั้งแต่แชนนอนกับเด็กๆหายตัว จนผัวสารภาพว่าเอาไปฝังที่ไหน
    03 ก.พ. 2564 เวลา 03.23 น.
  • 🇦🇳🇳
    ติดตามคดีนี้มาตลอด .... เลือดเย็นสุดๆ
    03 ก.พ. 2564 เวลา 02.49 น.
  • Sidda
    เหมือนซาตานกลับมาเกิด สงสารเด็กๆมาก
    03 ก.พ. 2564 เวลา 05.53 น.
ดูทั้งหมด