เมื่อวันที่ (5 ม.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอดมินเพจที่ใช้ชื่อว่า อัศวินแห่งเทือกเขาบูโด knights of southern border นำรายการเคลื่อนไหวทางการเงิน หรือ สเตตเมนต์ มาโพสต์แสดงในเพจ โดยสเตตเมนต์ที่นำมาแสดง เป็นของวันที่ 26 ธันวาคม ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2560 โดยมียอดเงินในบัญชี 1,823,825 บาท ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่แอดมินเพจโพสต์ขอรับบริจาคเพื่อซื้อรถเข็นให้กับ ร้อยตำรวจโท ยุทธนา เทพสถิตย์ เจ้าหน้าที่อีโอดี ที่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดได้รับบาดเจ็บที่จังหวัดยะลา โดยรถเข็นมีราคาเพียง 18,900 บาท หลังโพสต์ไปได้ไม่นาน วันที่ 2 มกราคม 2561 แอดมินเพจได้ลบโพสต์ออกและระบุว่าได้เงินซื้อรถเข็นเกินจำนวนแล้ว ขอปิดรับบริจาค โดยไม่ชี้แจงรายละเอียดยอดเงินที่ได้รับและการเบิก-ถอน กระทั่งมีตัวเลขในบัญชีหลุดออกมา
หลังถูกโจมตี เช้าวันนี้ แอดมินเพจได้ชี้แจ้งว่า เงินที่ได้มาจากการเปิดรับบริจาคซื้อรถเข็น ถูกแบ่งเป็นสามส่วน ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ 3 คน 150,000 บาท 2 ราย และให้ร้อยตำรวจโทยุทธนา 210,000บาท ส่วนยอดเงินที่เหลือ 1,350,000 บาท ได้โอนเข้าบัญชี ร้อยตำรวจโทยุทธนา ทั้งหมดแล้ว เมื่อ 09.00น
ด้านครอบครัวของร้อยตำรวจโทยุทธนา บอกว่า ก่อนหน้านี้ได้ขอความช่วยเหลือให้เพจอัศวินแห่งเทือกเขาบูโด หารถเข็นให้จริง แต่ไม่ได้รับรถเข็นจากเพจ ซึ่งรถเข็นทีได้รับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 เป็นผู้นำมามอบให้ หลังจากนั้นทางเพจได้โอนเงินให้ 210,000 บาทเท่านั้น กระทั่งเกิดเรื่องจึงโอนเข้าบัญชีมาอีก 1,350,000 บาทหน้าบัญชีที่หลุดออกมา แสดงให้เห็นว่า บัญชีนี้ปรับบัญชีครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 และปรับครั้งล่าสุด วันที่ 3 มกราคม 2561 โดยมียอดฝากรวม หรือ CRT 3,602,815 บาท ยอดถอนรวม หรือ DBT 1,785,850 บาท มีเงินคงเหลือ 1,845,715 บาท ตรงกับสเตตเมนต์ที่ทางเพจนำมาแสดงจริง
แต่ผู้บริจาคและคนที่ติดตามเพจ ตั้งข้อสังเกตว่า ยอดเงิน1,785,850 บาท ที่ถูกถอนออกไปก่อนหน้านี้ ถูกนำไปใช้อะไรบ้าง เพราะเพจนี้เปิดรับบริจาคให้กับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหารใน สามจังหวัดชายแดนใต้มานานหลายเคส ผู้ที่เคยบริจาคเงิน และลูกเพจที่ติดตาม จึงเตรียมเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจตรวจสอบเรื่องนี้
ด้านพันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าตรวจสอบไปยังเพจอัศวินแห่งเทือกเขาบูโดแล้ว พบว่าทีมแอดมินเป็นตำรวจและอดีตตำรวจที่ทำงานอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดใกล้เคียง เปิดบัญชีส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับทางราชการ เบื้องต้นทราบว่าเป็นการทำงานที่ไม่ละเอียดของทีมงานในการชี้แจงบัญชีบริจาคเอง ส่วนยอดเงินที่เหลือที่ประชาชนยังสงสัย หากต้องการให้ตรวจสอบ พันตำรวจเอก กฤษณะ บอกว่า ผู้บริจาคสามารถไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจตรวจสอบได้