ในการสื่อสารการตลาด มีกลยุทธ์และเครื่องมือในการสื่อสารมากมาย ที่ทำให้สินค้าหรือบริการของเราเป็นที่รู้จักและน่าสนใจสำหรับผู้บริโภค แต่มีกลยุทธ์หนึ่งที่เรามักจะพบเจอได้บ่อยๆ ในผลงานของแบรนด์ไทย ก็คือ“Music Marketing” หรือการทำการตลาดด้วย“เพลง” ไม่ว่าจะเป็นการนำเพลงดังมาใส่ในโฆษณา, ดัดแปลงเพลงให้กลายเป็นสื่อของแบรนด์ หรือแม้แต่สร้างสรรค์บทเพลงร่วมกับศิลปินก็ตาม
แต่สิ่งที่เราจะมาโฟกัสกันในวันนี้คือการที่ ‘แบรนด์ร่วมมือสร้างสรรค์ผลงานเพลงกับศิลปิน’ โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นหลายๆ ศิลปินที่กำลังมาแรงหรือกำลังอยู่ในกระแส ปล่อยผลงานเพลงออกมา ซึ่งบางเพลงเราก็พอจะเดาได้ว่านี่เป็นผลงานที่แบรนด์มาร่วมสร้างสรรค์แน่นอน แต่บางเพลงก็เนียนซะจนเราไม่รู้เหมือนกันว่านี่คือหนึ่งในการตลาดของแบรนด์นั้นๆ
ซึ่งถ้าหากพูดถึงแนวเพลงที่นักการตลาดหันมาใช้กลยุทธ์ Music Marketing มากที่สุดในปี 2019 นี้ ก็คงหนีไม่พ้นแนวเพลง “ฮิปฮอป” ที่กลับมาสู่ตลาดอีกครั้งพร้อมแร็ปเปอร์หน้าใหม่มากมายจากรายการการประกวดแร็ปเปอร์ต่างๆ เช่น The Rapper เป็นต้น
ตัวอย่างผลงาน Music Marketing ในปี 2019
TMRW (ทูมอร์โรว์) : LAZYLOXY x OG-ANIC x URBOYTJ
จากกระแสการทำการตลาดมาแรงอย่าง Music Marketing ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์งานเพลงระหว่างศิลปินกับแบรนด์นี้ ผมจึงอยากสรุป 3 เหตุความน่าสนใจของ Music Marketing ว่าทำไมถึงได้รับความนิยมอย่างมาก มาแบ่งให้เพื่อนได้เห็นภาพกัน ว่าจริงๆ แล้วกลยุทธ์นี้ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจเหมือนกันดังนี้
========
1. ‘เพลง’ เป็นสื่อที่เสพง่ายและเข้าถึงอารมณ์ได้ดี
‘เพลง’ เป็นสิ่งหนึ่งที่มนุษย์เราเสพกันได้ตลอดเวลา เพราะเพลงเป็นสารที่มีความหลากหลายและเหมาะสมในช่วงเวลาต่างๆ ที่แตกต่างกันไป แต่ก็ล้วนเป็นสิ่งหนึ่งที่หากเราได้ฟังมันทีไร เราก็จะเกิดความรู้สึก เกิดอารมณ์ร่วม ทำให้บางช่วงเวลาที่เราเครียด…กลับผ่อนคลายมากขึ้น หรือในบางทีที่เราเศร้า…กลับเศร้าหนักกว่าเดิม!
ความมหัศจรรย์ที่ ‘เพลงเป็นสื่อที่เสพง่ายและสร้างอารมณ์ได้’ นี้ ทำให้แบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการสร้างการจดจำถึงตัวแบรนด์นั้น จึงเห็นโอกาสในการถ่ายทอดความเป็นแบรนด์ผ่านทางเนื้อร้อง ทำนอง และศิลปิน เพื่อให้ผู้ฟังสามารถเสพสื่อนี้ได้อย่างเต็มใจ และสามารถสร้างอารมณ์บางอย่างให้กับเขา เพื่อสุดท้ายเขาจะได้จดจำแบรนด์ของเราได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
-----------------
2. เพิ่มโอกาสเข้าถึงกลุ่มแฟนๆ ของศิลปิน
เมื่อแบรนด์สร้างสรรค์ผลงาน Music Marketing โดยร่วมมือกับศิลปินซึ่งถือว่าเป็น Branded Content รูปแบบหนึ่งนั้น เมื่อผลงานที่ออกมาเป็นผลงานจากศิลปิน แน่นอนว่าเวลาปล่อยผลงานออกไปแล้ว กลุ่มคนที่เป็นเป้าหมายหลักก็คือแฟนคลับของศิลปินเหล่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างมีกำลังและ Loyalty เหนียวแน่น พร้อมสนับสนุนศิลปินเต็มที่
โดยถ้าหากแบรนด์มีการวางแผนกลยุทธ์มาดีๆ ถ้าหากกลุ่มแฟนคลับของศิลปินนั้นเป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์โดยตรงอยู่แล้วด้วย การสื่อสารนี้ก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น หากแบรนด์เราเป็นขนมขบเคี้ยว กลุ่มเป้าหมายหลักเราคือวัยรุ่น ศิลปินที่เราร่วมงานด้วยก็ควรจะเป็นคนที่มีผู้ติดตามหรือแฟนๆ เป็นกลุ่มวัยรุ่นเช่นกัน
-----------------
3. ผลงาน ‘เพลง’ อยู่ในสื่อได้หลากหลาย
เมื่อผลงานที่ออกมาคือสารในรูปแบบของ‘เสียงเพลง’ แน่นอนว่าเพลงสามารถนำไปใช้ต่อยอดในการสื่อสารในสื่อต่างๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลงในแอปพลิเคชันเพลงต่างๆ หรือการจัดทำมิวสิกวิดีโอ หรือแม้แต่การทำโฆษณาทางวิทยุ และอื่นๆ อีกมาก
ซึ่งหากนักการตลาดมีการวางแผนมาอย่างดี การทำเพลงจะถือว่าเป็นการสร้างการสื่อสารที่คุ้มมากๆ เพราะนำไปต่อยอดได้หลากหลายช่องทาง และสร้างความน่าสนใจได้อยู่เรื่อยๆ
=========
พอได้เห็น 3 ความน่าสนใจเบื้องต้นของการทำการตลาดแบบ Music Marketing ที่ผมหยิบยกตัวอย่างมาให้เห็นกันในวันนี้ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนก็คงเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมกลยุทธ์นี้ถึงเป็นสิ่งที่แบรนด์ไทยฮิตกันนัก
แต่อย่างไรก็ตามการที่จะสื่อสารผ่านวิธีการรูปแบบไหน สำคัญที่สุดต้องดูว่าวัตถุประสงค์ของเราคืออะไร โจทย์ทางธุรกิจของเราคืออะไร เพราะในบางทีหากเราทำ Music Marketing ไปอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เหล่านั้นก็ได้ ดังนั้นต้องตั้งต้นให้ดีๆ ก่อนคิดวิธีการนะครับ
เพื่อนๆ ชอบแคมเปญ Music Marketing ไหนมาแชร์กันได้จ้า
ติดตามบทความของเพิท เพจ AD ADDICT บน LINE TODAY ทุกวันพุธ
