โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

WHA มีข่าวร้ายอะไร กดราคาหุ้นร่วงต่ำสุดในรอบ 2 ปี

efinanceThai

เผยแพร่ 21 ม.ค. 2563 เวลา 02.24 น.

WHA ดิ่งทำนิวโลว์ในรอบกว่า 2 ปี ชำแหละข่าวร้ายกดดันราคาหุ้น พบศก.ชะลอตัว ทำแนวโน้มยอด presale ต่ำ แถม Alibaba ใช้สิทธิซื้อที่ดินไม่ทัน เพราะติดเรื่องกฏหมายและเอกสาร ต้องลุ้นจะเซ็นทันปลายปีนี้หรือไม่ ด้านราคาขายถูกกดจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ขณะที่ต้นทุนทางการเงินเสี่ยงสูงขึ้น หลัง"ทริสฯ"ให้มุมมองเชิงลบ รอติดตามผู้บริหารแถลงแผนพลิกเกมธุรกิจปลายเดือนนี้

ราคาหุ้น บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA วานนี้(20 ม.ค.) ปิดตลาดที่ระดับ 3.32 บาท ลดลง 8.29% และตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากเกือบ 15% จากระดับ 3.90 บาท นอกจากนี้ WHA ติด 1 ใน 5 หุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายผิดปกติ โดยปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 324.24% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า

มีปัจจัยลบใหม่อะไรที่ทำไมราคาหุ้น WHA ลดลงต่อเนื่อง

** ราคาหุ้นทำนิวโลว์รอบ 2 ปี พบปัจจัยลบ ทั้งยอด presale ต่ำ และความเสี่ยงด้านต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้น หลัง"ทริสฯ"ให้ negative outlook

วานนี้ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น WHA ปรับตัวลดลงไปต่ำสุดที่ระดับ 3.28 บาท ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีนับจากเดือนกันยายน 2560 ที่เคยลดลงไปแตะระดับ 3.12 บาท

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาหุ้นปรับตัวลง และ underperform ตลาด -11% และ -21% ในช่วง 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมา จากยอด presale ที่ต่ำ และความเสี่ยงด้านต้นทุนทางการเงินที่มีโอกาสเพิ่มขึ้น ภายหลัง TRIS Rating ให้ negative outlook

** กองทุนบัวหลวงตัดขายหุ้นออกไป 0.5958% เหลือ 4.4339%

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการจำหน่ายหุ้นของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (WHA) โดย บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด ซึ่งเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย คิดเป็น 0.5958% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย คิดเป็น 4.4339% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

** Alibaba ไม่ใช้สิทธิซื้อที่ดินตามกำหนด เพราะความล่าช้านด้านข้อกฎหมายและเอกสารฯ อาจกระทบรายได้และกำไรในปี 63

บทวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า รายได้จากการขายที่ดินให้ Alibaba จะยังล่าช้าออกไป Alibaba ไม่ได้ Exercise สิทธิ Option to buy เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายของการใช้สิทธิภายหลังที่ Alibaba ได้ส่งหนังสือลงนามการใช้สิทธิที่จะซื้อเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2019 จากความล่าช้าด้านข้อกฏหมาย และเอกสารการขายที่ดินให้แก่ Alibaba 

ส่งผลให้บริษัทจะมีการเข้าทำสัญญาเพื่อที่จะขายที่ดินให้ Alibaba ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถซื้อขายที่ดินแล้วเสร็จภายในปี 2020 อย่างไรก็ตามในกรณีที่แย่ที่สุด Alibaba ไม่สามารถซื้อที่ดินได้ แต่ก็คาดว่าบริษัทจะยังสามารถรับรู้รายได้ค่าเช่าได้ เนื่องจากบริษัทได้ส่งมอบที่ดิน และโรงงานให้เช่าแล้วเสร็จ พร้อมให้ Alibaba เข้าดำเนินงานตั้งแต่เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้จึงยังไม่ได้รวมผลจากการขายที่ดินให้ Alibaba เข้าในประมาณการกำไรสุทธิปี 2020E

** ยอด pre-sales และ pre-leased ในช่วงปี 2019 –20F มีแนวโน้มต่ำลง แถมราคาขายที่ดินลดลง และทรัพย์ที่ขายเข้ากอง JV มี GPM น้อยลง

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า คาดกำไรปกติ 4Q19F ของ WHA ที่ 1,315 ล้านบาท (-10% y-y, +131% q-q)  โดยกำไรหดตัว y-y เพราะ i) คาดราคาขายที่ดินเฉลี่ยลดลง เพราะการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น และ ii) คาดทรัพย์ที่ขายเข้ากองส่วน Joint Venture มี GPM ต่ำลง เพราะเป็นทรัพย์ที่เคยรับรู้กำไรไปแล้ว ส่วนกำไรเพิ่มขึ้น q-q จาก seasonal effect ที่มีรายได้จากการขายทรัพย์เข้ากองที่ถูกบันทึกในไตรมาสสุดท้ายของปี โดยรวมเราชอบ WHA น้อยลง เพราะ ยอด pre-sales และ pre-leased ปี 2019-20F มีแนวโน้มต่ำกว่าเราคาดเดิม

** เศรษฐกิจชะลอตัว สงครามการค้า และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากภาษีที่ดิน ฉุดยอด presale ไม่โดดเด่น

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) นั้นคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2020E ขยายตัว +6.5% โดยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2020E ที่ 3.6 พันล้านบาท (+6.5%) จากยอดโอนที่ดินปี 2020E ที่ 914 ไร่ โดยเป็นผลของ 1) ฐาน Backlog ณ สิ้นปี 2019E ประมาณ 510 ไร่ และ 2) ยอด presale ปี 2020E ที่ 1.1 พันไร่ ทั้งนี้คาดว่ายอด presale ปี 2020E จะยังไม่ขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงอย่างเด่นชัด เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลต่อความน่าสนใจในการลงทุนในนิคมฯในประเทศไทยที่ลดลง นอกจากนี้คาดว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะปรับตัวเพิ่มขึ้น คิดเป็น SG&A/Sale ที่ 21.0% จากค่าใช้จ่ายภาษีที่ดินที่บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า ประเด็นความกังวลว่าจีน-สหรัฐจะลดแรงกดดันสงครามการค้าได้ ทำให้ย้ายฐานการผลิตมาไทยน้อย คาดว่าจะยังมีความยืดเยื้อ เช่น เฟส 2 กว่าจะทราบผลเป็นปลายปีนี้ และปัจจุบันจีนกลับมีค่าแรงขั้นต่ำที่สูง จึงจำเป็นต้องย้ายฐานการผลิต

** จับตาแถลงแผนงานปลายเดือนมกราคาคมนี้ ผู้บริหารจะงัดกลยุทธ์อะไรมาช่วยกระตุ้นผลงานปี 63

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย"  ว่า แผนการดำเนินงานธุรกิจในปีนี้ มั่นใจว่าจะเติบโตดีจากปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ขณะที่ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ที่ผ่านมติจากสภาผู้แทนราษฎรแล้วนั้น เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อทั้งประเทศ โดยเฉพาะด้านการลงทุนหลังจากนี้ไป โดยแผนงานปีนี้ยังเปิดเผยไม่ได้  เพราะจะแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการ 29 มกราคมนี้

นอกจากนี้ รองนายกสมคิดฯสั่ง BOI หารือก.คลังออกมาตรการกระตุ้นการลงทุน ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และให้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการ BOI ในช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้ เพราะอยากจะให้มีการลงทุนในประเทศไทยจริง หลังจากรองนายกรัฐมนตรี เผยยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนบีโอไอปี 2562 มีมูลค่าเงินลงทุน 756,100 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ระดับ 750,000 ล้านบาท และเป็นการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ร้อยละ 59

** อย่างไรก็ดี แม้ปัจจัยรอบด้านจะกดดันให้ราคาหุ้น WHA นั้นปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จนทำให้โบรกเกอร์หั่นราคาเป้าหมายของ WHA ในปีนี้ลง แต่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ก็แนะนำซื้อ เพราะมองว่า ราคาหุ้นปรับตัวลงมากจนมี Upside ให้ได้ลุ้น

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ยอด pre-sales และ pre-leased ปี 2019-20F มีแนวโน้มต่ำกว่าที่คาดเดิม กดดันให้ประมาณการกำไรปกติ 2020F อาจมี downside ประมาณ 25-30% ส่งผลต่อ TP20F มีแนวโน้มลดลงเหลือ 4.3-4.7 บาท จากเดิม 5.7 บาท อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับลงค่อนข้างเยอะ  ทำให้เรามองว่าตอบรับปัจจัยเชิงลบด้านผลประกอบการไปบ้างแล้ว ประกอบกับคาดกำไรในช่วงปี 2020-22F เติบโตเฉลี่ยสูงกว่าปี 2017-19F ดังนั้นเรายังคงคำแนะนำ BUY

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานใหม่ปรับลงตามมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) เดิมทีเป็น 5.46 บาท ล่าสุดปรับลงเป็น 5.17บาท เพราะมูลค่าเงินลงทุน WHAUP ที่บริษัทถืออยู่ 69% ปรับลงมากใน SET เราจึงใช้ราคาเป้าหมายปรับลงเป็น 6.50บาท (P/BV อุตสาหกรรมที่ 1.8 เท่า) จากเดิมที่ 8.00 บาท และมูลค่าพื้นฐานใช้ส่วนลด 20% จาก NAV ใหม่สะท้อนความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น แต่ราคาหุ้นปรับลงมากไปจนมีส่วนเพิ่มได้ 26% คาดว่าภาครัฐจะมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนตามมาในไม่ช้านี้ เพื่อกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศ เช่น เร่งผลักดันให้มีการนำเข้าเครื่องจักรใหม่ในยามที่บาทแข็ง และผลักดันนโยบายระเบียงเศรษฐกิจ (EEC) ดันโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา

ดูเหมือนว่า ฟ้าหลังฝนของ WHA อาจยังไม่มาในเร็ววันนี้ เพราะมีอีกหลายเรื่องให้รอลุ้น ทั้งการขายที่ดินให้อาลีบาบาจะจบทันปีนี้หรือไม่ มาตรการกระตุ้นการลงทุนต่างประเทศที่รัฐเตรียมนำมาใช้จะแรงพอที่จะเบนความสนใจของนักลงทุนที่กำลังเล็งเวียดนามไว้หรือเปล่า และ WHA เอง จะงัดกลยุทธ์อะไรมารับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงจนราคาขายที่ดินถูกกดให้ต่ำลง หากโจทย์เหล่านี้ถูกแก้โดยเร็ว ก็ไม่แน่ว่า เราอาจได้เห็นราคาหุ้น WHA กลับมาโดดเด่นก็เป็นได้

ดูข่าวต้นฉบับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0