โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

บล.ทิสโก้แนะปรับพอร์ตตั้งรับ - ถือเงินสดเพิ่ม คาดหุ้นไทยยังผันผวนข่าว ‘โอไมครอน’ อีกเป็นเดือน

Wealthy Thai

อัพเดต 09 ส.ค. 2566 เวลา 06.56 น. • เผยแพร่ 02 ธ.ค. 2564 เวลา 14.04 น.

บล.ทิสโก้ชี้ COVID –19 สายพันธ์ุ ‘โอไมครอน’ จะสร้างความผันผวนให้หุ้นไทยอีกเป็นเดือน แนะปรับพอร์ตตั้งรับ และถือเงินสดเพิ่ม พร้อมเคาะมูลค่าเหมาะสมหุ้นไทยที่น่าทยอยเข้าซื้อ 2 ระดับ คือ บริเวณ 1,590-1,600 จุด และระดับถัดไปที่ 1,500-1,530 จุด ช้อปหุ้นใหญ่ปันผลดี และหุ้นกำไรปีหน้าโตเด่น นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด(Mr. Apichat Poobunjirdkul, Senior Strategist, TISCO Securities Co., Ltd) กล่าวว่า ในการประชุมธนาคารกลางสำคัญหลายแห่งในต่างประเทศรวมทั้งของไทยในเดือนนี้บล.ทิสโก้คาดว่าเกือบทุกแห่งจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิมอย่างไรก็ตามคาดว่าในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED) อาจปรับคาดการณ์เงินเฟ้อและอาจพิจารณาเร่งลดอัตราการเข้าซื้อสินทรัพย์ลง(QE Tapering) จากปัจจุบันลดลงเดือนละ1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯเป็นลดลงเดือนละ3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งจะทำให้มาตรการผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณ(QE) ยุติลงเร็วขึ้นเป็นในเดือนมีนาคม2565 จากเดิมคือในเดือนมิถุนายน2565 นอกจากนี้คาดว่าประมาณการแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของFED ในอนาคต(Dot Plot) จะบ่งชี้ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเร็วขึ้นจากปี2566 เป็น2565 แต่บล.ทิสโก้ประเมินว่าคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วขึ้นในครั้งนี้จะไม่ส่งผลเชิงลบต่อตลาดมากนักเพราะFed Funds Futures ปัจจุบันสะท้อนโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของFED ในปี2565 จำนวน2 ครั้งไปแล้วอย่างไรก็ตามในเดือนนี้มีประเด็นที่น่าจับตาคือสถานการณ์แพร่ระบาดของCOVID – 19 ที่กลับมาแพร่ระบาดหนักในยุโรปโดยหลายประเทศเริ่มกลับมาใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดขึ้นนอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่"โอไมครอน" (Omicron) ซึ่งนอกจากจะมีรายงานข่าวว่าแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้าแล้วยังสามารถหลบภูมิคุ้มกันได้ด้วยทำให้วัคซีนที่ใช้กันอยู่อาจไม่สามารถป้องกันได้ซึ่งปัจจุบันมีการแพร่กระจายส่วนหนึ่งในแอฟริกาใต้และเข้าสู่บางประเทศแล้วเช่นบอตสวานาฮ่องกงอิสราเอลและล่าสุดคือเบลเยี่ยมเนเธอร์แลนด์อิตาลีอังกฤษและออสเตรเลีย“ตลาดหุ้นทั่วโลกจะผันผวนจนกว่าจะมีข้อมูลสายพันธุ์โอไมครอนมากขึ้นซึ่งอาจใช้เวลาอีกเป็นเดือนและในระหว่างนี้ก็ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์ระบาดว่าจะลุกลามออกไปมากน้อยเพียงใดซึ่งการตอบสนองของราคาหุ้นก็จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ระบาดและการเลือกใช้มาตรการควบคุมของแต่ละประเทศเป็นสำคัญเป็นสิ่งที่ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป” นายอภิชาติกล่าวสำหรับผลกระทบของโอไมครอนต่อตลาดหุ้นไทยอิงจากการระบาด2 รอบล่าสุดในปีนี้คือเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม2564 และเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม2564 ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงจากพีคประมาณ60 จุดและ120 จุดตามลำดับและเมื่อพิจารณาควบคู่กับปัจจัยพื้นฐานในแง่ของค่าเฉลี่ยอัตราราคาต่อกำไรล่วงหน้า (12m Fwd. PER) ในช่วง12 เดือนข้างหน้าและปัจจัยเทคนิคบล.ทิสโก้ประเมินว่าดัชนีหุ้นไทย(SET Index) ที่มีนัยสำคัญเหมาะแก่การทยอยสะสมอยู่2 ระดับคือ1. บริเวณ1,590-1,600 จุดและ2. 1,500-1,530 จุดและในช่วงนี้แนะนำให้ปรับพอร์ตตั้งรับรวมถึงถือเงินสดในพอร์ตเพิ่มขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนของCOVID-19 สายพันธุ์ใหม่ และเม็ดเงินกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่จะไหลเข้ามากที่สุดในเดือนนี้บล.ทิสโก้จึงเน้นเลือกหุ้นเชิงรับขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูงและปันผลดีแนะนำADVANC และ EGCOผสานกับหุ้นที่แนวโน้มกำไรปีหน้าจะเติบโตดีอิงกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจภายในประเทศแนะนำHMPRO, JWD, RBF และ TTBเพราะฉะนั้นหุ้นเด่นที่แนะนำในเดือนธันวาคมคือADVANC, EGCO, HMPRO, JWD, RBF และTTB ด้านแนวรับสำคัญของเดือนนี้อยู่ที่1,550 – 1,560 จุดและแนวรับถัดไปที่1,520 – 1,530 จุดขณะที่แนวต้านสำคัญของเดือนนี้อยู่ที่1,620 จุดและ1,640 จุดตามลำดับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0