Toys “R” Us ร้านของเล่นที่ประกาศล้มละลายเมื่อปีที่แล้ว และปิดสาขาหลายรอยแห่งทั่วสหรัฐ จะกลับมาเปิดร้าน 2 แห่งในเดือนพ.ย. หรือก่อนเทศกาลจับจ่ายสำคัญช่วงปลายปี
ร้าน 2 แห่งที่จะเปิดนั้น อยู่ในห้างสรรพสินค้า Galleria Mall ในเมืองฮิวสตัน และศูนย์การค้า Garden State Plaza ในเมืองพารามัส รัฐนิวเจอร์ซีย์
ทางแบรนด์ใช้อาวุธใหม่ คือความไฮเทค มาช่วยเสริมสร้างสถานภาพในตลาดของเล่นที่มีการแข่งขันสูงช่วงที่กำลังฟื้นจากภาวะล้มละลาย โดยการกลับมาครั้งนี้ Tru Kids ซึ่งเป็นบริษัทที่เข้ามาช่วยบริหารแบรนด์หลังล้มละลายเมื่อปีที่แล้ว ได้จับมือกับ b8ta อันเป็นสตาร์ทอัพซอฟต์แวร์ที่เชี่ยวชาญด้าน Immersive Experience หรือการดึงคนให้เข้ามามีส่วนร่วมกับสิ่งที่แบรนด์นำเสนอ
ทางบริษัทหวังจะเปิดร้านให้ได้ 10 แห่งทั่วสหรัฐในปี 2563 เน้นพื้นที่ๆ มีคนพลุกพล่าน
การกลับมาในครั้งนี้ของ Toys “R” Us พร้อมการสร้างแบรนด์บนแนวคิด “ร้านของเล่นรายใหญ่ที่สุด” จะยึดติดกับความเป็นจริงมากขึ้น นั่นคือแทนที่จะวางของเล่นไว้บนชั้นที่ยาวเป็นไมล์ บริษัทได้ปรับขนาดร้านค้าให้เล็กลง ประมาณ 6,500-10,000 ตารางฟุต เทียบกับก่อนหน้านี้ที่ร้านมีขนาดกว้างขวางถึง 40,000 ตารางฟุต
การประกาศล้มละลายถือเป็นเรื่องไม่ดีนักสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างร้านค้ากับบรรดาแบรนด์ที่นำสินค้ามาวางขายในร้าน ซึ่งจุดนี้เองที่ b8ta ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาแนวคิด “retail as a service” โดยจะเปิดโอกาสให้แบรนด์ต่างๆ ครีเอทร้านขนาดมินิขึ้นมาภายในพื้นที่ของ Toys “R” Us
พูดง่ายๆ คือ Toys “R” Us โฉมใหม่จะเปิดโอกาสให้เด็กๆ และผู้ใหญ่ได้ลองของเล่นใหม่ๆ ซึ่งก็แน่นอนว่าหมายถึงการเปิดโอกาสให้แบรนด์ต่างๆ ได้นำของเล่นใหม่ๆ มาวางโชว์ในลักษณะที่เป็นอินเตอร์แอคทีฟกับลูกค้า อันจะนำไปสู่ยอดขายหลังจากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้มีโอกาสลองเล่นดู ทั้งยังจะมีการจัดอีเวนต์พิเศษอย่างปาร์ตีวันเกิด กิจกรรมใหม่ๆ ทุกวัน รวมถึงเปิดพื้นที่ให้เด็กๆ ได้เล่นด้วย
Vibhu Norby ซีอีโอของ b8ta บอกว่า Toys ‘R’ Us โฉมใหม่จะเป็นร้านของเล่นที่ทันสมัยอันดับต้นๆ ของโลก และรอที่จะสร้างเซอร์ไพรส์รวมถึงความสุขให้แก่เด็กๆ แม้พฤติกรรมการชอปปิงของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือเด็กๆ ยังต้องการจับและเล่นกับทุกสิ่ง
นอกจากเข้ามาแปลงโฉม Toys ‘R’ Us แล้ว ห้าง Macy ยังเข้ามาถือหุ้นข้างน้อยใน b8ta เพื่อนำไอเดียใหม่ๆ ของบริษัทไปเพิ่มชีวิตชีวาให้แก่ทางห้างในช่วงที่ภาคค้าปลีกสหรัฐเผชิญปัญหา
ในส่วนของ Toys “R” Us นั้น เมื่อได้ความไฮเทคมาช่วยชุบชีวิตแล้ว ก็น่าจะสามารถต่อกรได้มากขึ้นกับอเมซอน วอลมาร์ท และทาร์เกต ในตลาดของเล่น โดยบริษัทได้เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ พร้อมชูธีมของการค้นพบและมีส่วนร่วมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
Toys “R” Us จ้างงานพนักงานมากกว่า 30,000 คนในสหรัฐ ก่อนล้มละลายไป และทาง Tru Kids ระบุว่าต้องการเน้นที่การจ้างพนักงานที่เคยทำงานกับบริษัทมาก่อน
ทั้งนี้ Toys R Us ประกาศล้มละลายหลังจากมีภาระหนี้สินก้อนโต จากนั้นก็เผชิญการแข่งขันจากอเมซอน ทาร์เกต และวอลมาร์ท โดยบริษัทมีหนี้สินมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์
สำหรับ Tru Kids นั้น บริหารร้านค้ามากกว่า 700 แห่งนอกสหรัฐ
