โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

The Witcher ซีรีส์มหากาพย์ที่ว่ากันว่าจะยิ่งใหญ่ไม่แพ้ Game of Thrones

THE STANDARD

อัพเดต 17 พ.ย. 2562 เวลา 12.25 น. • เผยแพร่ 17 พ.ย. 2562 เวลา 12.25 น. • thestandard.co
The Witcher ซีรีส์มหากาพย์ที่ว่ากันว่าจะยิ่งใหญ่ไม่แพ้ Game of Thrones
The Witcher ซีรีส์มหากาพย์ที่ว่ากันว่าจะยิ่งใหญ่ไม่แพ้ Game of Thrones

สร้างความฮือฮาตั้งแต่มีข่าวสร้างซีรีส์ The Witcherในปี 2017 และเมื่อกำหนดวันเข้าฉาย 20 ธันวาคม 2019 Netflix ก็ประกาศสร้างซีซัน 2 ต่อทันทีโดยไม่ต้องรอซีซัน 1 ออกฉายด้วยซ้ำ นี่แสดงความมั่นใจอย่างยิ่งว่า The Witcherน่าจะเป็นตัวเต็งปลายปี เหมือนอย่างที่เคยประกาศสร้างซีซัน 2 ของ Kingdomก่อนที่ซีซันแรกจะออกฉายเช่นกัน

 

และเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังปล่อยตัวอย่างแรก Andrzej Sapkowski ผู้เขียนหนังสือ The Witcherได้ให้สัมภาษณ์กับ Wiredว่า “ผมได้ดูเทรลเลอร์ครั้งแรกพร้อมกับทุกคน โดยที่ไม่ได้ดูเอพิโสดไพล็อตมาก่อน เพราะผมชอบเรื่องเซอร์ไพรส์ ผมบอกได้อย่างหนึ่งเลยว่า ถ้าซีรีส์ออกมางดงามเหมือนในเทรลเลอร์ เราจะได้เห็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซ” โดยเขาเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาในช่วงเขียนบท แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในขั้นตอนโปรดักชัน แคสติ้ง และถ่ายทำแต่อย่างใด

 

ตัวอย่างซีรีส์ The Witcher

 

The Witcherเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับดินแดนหนึ่งเมื่อหลายพันปีก่อน เมื่อพวกเอลฟ์ ทำสงครามกับคนแคระและแยกกันตั้งถิ่นฐาน จนเมื่อเหล่ามนุษย์มาถึงก็สร้างสงคราม นำมาซึ่งชัยชนะ และทำให้พวกที่ไม่ใช่มนุษย์กลายเป็นพลเมืองชั้นสอง กระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า The Conjunction of the Spheres ที่เปิดมิติ และทำให้เหล่าสัตว์ประหลาด ทั้งมนุษย์หมาป่า แวมไพร์ นางไม้ปรากฏตัวขึ้นมากมาย สร้างความเดือดร้อนให้กับมนุษย์จนต้องคิดค้นวิธีปราบเหล่าปีศาจและสัตว์ประหลาด ด้วยการสร้างนักรบเผ่าพันธุ์ใหม่ที่ชื่อ The Witcherซึ่งต้องผ่านทั้งการฝึกและการแปลงสภาพเพื่อให้มีพลังเหนือธรรมชาติ 

 

เริ่มแรก The Witcherเป็นนิยายแฟนตาซีของนักเขียนชาวโปแลนด์ Andrzej Sapkowski เขียนลงในนิตยสารวิทยาศาสตร์และแฟนตาซีชื่อ Fantastykaช่วงกลางยุค 80 แล้วจึงรวมเล่ม ปัจจุบันแบ่งออกเป็นหนังสือ Sword of Destiny (1992) ฉบับภาษาอังกฤษในปี 2015, The Last Wish (1993) ฉบับภาษาอังกฤษในปี 2007 และ Season of Storms (2013) ฉบับภาษาอังกฤษในปี 2018 และยังมีหนังสือซีรีส์ที่ออกตามมา Blood of Elves (1994), Time of Contempt (1995), Baptism of Fire (1996), The Tower of the Swallow (1997), และ The Lady of the Lake (1999)

 

ในปี 2007 บริษัทพัฒนาเกมจากโปแลนด์ CD Projekt Red ได้นำเรื่องราวจากหนังสือนิยายมาดัดแปลงเป็นวิดีโอเกมคอมพิวเตอร์ The Witcher และปล่อยเวอร์ชันเกมคอนโซล The Witcher: Rise of the White Wolf ในปี 2009, The Witcher 2: Assassins of Kings ในปี 2011 และ The Witcher 3: Wild Hunt ในปี 2015 ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักในหมู่นักเล่นเกม ได้รับรางวัลมากมาย ทั้งยังสร้างยอดขายกว่า 33 ล้านแผ่นทั่วโลก

 

 

โดยซีรีส์ทางโทรทัศน์จะใช้เนื้อเรื่องจากหนังสือ The Last Wishและ The Sword of Destinyเป็นหลัก ซึ่งเรื่องย่อจาก Netflix ระบุว่า เป็นเรื่องราวของ เกรัลด์แห่งริเวีย (Geralt of Rivia) นักล่าปีศาจผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ เขาต่อสู้เพื่อหาที่ยืนของตัวเองบนโลกใบนี้ โลกที่ผู้คนทำชั่วมากกว่าสัตว์ร้าย แต่เมื่อโชคชะตาทำให้เขาพบกับ เยนนิเฟอร์ (Yennefer) แม่มดผู้แก่กล้า และ ซิริ (Ciri) เจ้าหญิงที่เก็บความลับสุดอันตรายเอาไว้ ทั้งสามต้องออกเดินทางผ่าฟันเหตุการณ์ต่างๆ ในขณะที่ทั้งสามทวีปกำลังผันผวนขึ้นทุกที

 

Lauren Schmidt Hissrich โปรดิวเซอร์ซีรีส์ The Witcherได้ให้สัมภาษณ์กับ Digital Spyว่า ซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ได้สร้างเพื่อแฟนหนังสือหรือแฟนเกมเท่านั้น “มันจะมีส่วนผสมของทุกอย่าง ทั้งเรื่องเวทมนตร์ สัตว์ประหลาด ฉากความรุนแรง เซ็กซ์ และความรักเยอะมากๆ ซึ่งทั้งหมดนั้นก็คือความคาดหวังจากเรื่องราวแฟนตาซี แต่ฉันก็ต้องบอกว่ามันมีแกนเรื่องของมัน คือเรื่องครอบครัวและการพยายามมีชีวิตในโลกที่คุณเป็นคนนอก ซึ่งสิ่งนี้ฉันคิดว่าคนดูจะรู้สึกเชื่อมโยงได้ อย่างฉันเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องแม่มดหรือไปฆ่าสัตว์ประหลาดตัวไหน แต่ฉันรู้เกี่ยวกับมนุษย์และการพยายามเอาตัวเองผ่านโลกที่ไม่ได้เหมาะกับเรา”

 

WW_104_08.03.2019_197.NEF

 

คนที่จะมารับบทเจรัลด์แห่งริเวียคือ Henry Cavill นักแสดงชาวอังกฤษที่โด่งดังจากบทบาทซูเปอร์แมนในภาพยนตร์ Man of Steel(2013), Batman v Superman: Dawn of Justice(2016) และ Justice League(2017) ส่วนบทเจ้าหญิงซิริ ได้ Freya Allan ที่เคยมีผลงานซีรีส์ The War of the Worldsและ Into the Badlandsมารับบทสำคัญนี้ พร้อมด้วย Anya Chalotra นักแสดงสาวลูกครึ่งอังกฤษอินเดียมารับบทเยนนิเฟอร์ แม่มดและหญิงสาวคนรักของเจรัลด์

 

The Witcherถ่ายทำในเดือนเมษายน 2018 จนถึงพฤษภาคม 2019 ใช้โลเคชันหลายประเทศในยุโรปตะวันออก ทั้งฮังการีและโปแลนด์ โดยซีรีส์จะมีทั้งหมด 8 เอพิโสดในซีซันแรก และมีกำหนดเข้าฉายวันที่ 20 ธันวาคมนี้ สำหรับซีซัน 2 จะเริ่มถ่ายทำต้นปีหน้า วางแผนว่าจะมีทั้งหมด 8 เอพิโสด เข้าฉายภายในปี 2021 โดยทีมนักแสดงนำยังคงเดิมทั้งหมด 

 

 

ภาพ: CD Project, Netflix

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0