โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

The Fall of a Great CEO

Rabbit Today

อัพเดต 13 ธ.ค. 2561 เวลา 15.07 น. • เผยแพร่ 13 ธ.ค. 2561 เวลา 15.07 น. • ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย
The-Fall-of-Great-CEO-biz-buzz-Rabbit-Today-banner

การถูกจับกุมของ คาร์ลอส กอส์น แบบสายฟ้าแลบที่ญี่ปุ่นทำให้โลกรถยนต์ถึงกับสั่นสะเทือน เพราะเขาคือประธานของบริษัทรถยนต์ 3 บริษัท คือเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ

นอกจากนี้เขายังดำรงตำแหน่งซีอีโอของเรโนลต์ และย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นปีเศษๆ เขายังรั้งตำแหน่งซีอีโอของนิสสัน มอเตอร์ด้วย

คาร์ลอส กอส์น คือซีอีโอเพียงคนเดียวที่ถ่างขานั่งเป็นซีอีโอบริษัทระดับ Fortune 500 ถึง 2 บริษัท

เขาคือฮีโร่ของญี่ปุ่น หนังสือประวัติชีวิตของเขาที่พิมพ์เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนขายดี

ถึงกับมีเรื่องราวของเขาเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นด้วย แสดงให้เห็นถึงการยอมรับของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อเขาอย่างมากมาย

คาร์ลอส กอส์น ยังเป็นผู้ชุบชีวิตนิสสัน มอเตอร์ ให้พ้นจากภาวะใกล้ล้มละลายเต็มที เมื่อ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา

เขาถูกส่งตัวมาจากเรโนลต์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดที่ฝรั่งเศส บริษัทรถยนต์ที่มีรัฐบาลฝรั่งเศสเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

ด้วยความสามารถทางการบริการ โดยใช้วิธีการลดต้นทุน ปิดโรงงาน เลย์ออฟพนักงาน ทำให้นิสสันมอเตอร์ที่ขาดทุน 6.46 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กลับมาทำกำไรได้ถึง 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2000

ปี 2002 เขาได้รับเลือกให้เป็นนักธุรกิจแห่งปีของนิตยสาร Fortune

ปี 2008 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Chairman และ CEO ของนิสสัน มอเตอร์ และปีถัดไปเขาได้รับการแต่งให้ดำรงตำแหน่ง Chairman และ CEO เรโนลต์

เดือนกุมภาพันธ์ 2017 เขาก้าวลงจากตำแหน่ง CEO นิสสัน มอเตอร์ คงไว้เพียงตำแหน่ง Chairman (ส่วนที่เรโนลต์ ควบ 2 ตำแหน่งเช่นเดิม) โดยส่งมอบตำแหน่ง CEO ให้กับฮิโรโต ไซกาวะ ผู้ซึ่งเขาไว้วางใจ

แต่แล้วเมื่อเขาถูกจับเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ด้วยข้อหาแจ้งผลตอบแทนจากนิสสัน มอเตอร์ได้รับต่ำกว่าความเป็นจริง นอกจากนี้ยังพบการประพฤติผิดต่อหน้าที่อย่างมีนัยสำคัญอีกหลายอย่าง เช่น การนำทรัพย์สินของบริษัทไปใช้ส่วนตัว

บอร์ดนิสสันมอเตอร์ปลดเขาจากตำแหน่งอย่างรวดเร็ว ขณะที่กอส์นยังคงถูกควบคุมตัวและยังไม่มีคำชี้แจงใดๆ ออกมา

มิตซูบิชิก็คงจะปลดเขาออกจากตำแหน่งเร็วๆ นี้เช่นกัน แต่ทว่าเรโนลต์ เพียงแต่ตั้ง COO ขึ้นบริหารชั่วคราว รอการสอบสวนว่าจะเป็นอย่างไร

การถูกจับอย่างกะทันหันและเขี่ยออกจากตำแหน่งอย่างรวดเร็ว ย่อมส่งผลสะเทือนต่อพันธมิตร 3 ฝ่าย ระหว่างเรโนลต์ นิสสัน มิตซูบิชิ ซึ่งสามารถทาบรัศมีโตโยต้าและโฟล์กสวาเกน กรุ๊ป ได้ในเชิงปริมาณรถยนต์ที่ผลิตในแต่ละปี

การจากไปของกอส์นครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อพันธมิตรทั้ง 3 นี้ได้ เพราะกอส์นเป็นผู้สร้างพันธมิตรนี้ขึ้นมาด้วยตัวเขาเอง การที่จะหาคนมาสานต่อนั้นก็ต้องเป็นผู้ที่มีบารมี  ทว่าตอนนี้มองไปก็ไม่เห็นตัว

ด้วยโครงสร้างการถือหุ้นที่เรโนลต์ถือ 43% ในนิสสัน ขณะที่นิสสันถือเพียง 15% ของเรโนลต์ และเป็นหุ้นที่ไม่มีสิทธิ์โหวตด้วย ทำให้นิสสันเสียเปรียบ แต่เพราะเรโนลต์เข้ามาในช่วงที่นิสสันลำบาก และกอส์นยังบริหารนิสสันมาอย่างยาวนานไม่แปลกที่เรโนลต์จะอยู่ในฐานะที่เหนือกว่า

3 บริษัทนี้เป็นพันธมิตรกันอาจจะดูใหญ่

ทว่าเมื่อแยกกัน ไม่มีบริษัทใดจะแข็งแกร่งเลย

ช่างน่าเป็นห่วงนัก

ส่วนคาร์ลอส กอส์น ผู้ยิ่งใหญ่ แต่พบจุดจบแบบ ‘ปลาตายน้ำตื้น’

ก็ต้องบอกว่า ‘น่าเสียดาย’

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0