เทสโทสเตอโรน (Testosterone) คือฮอร์โมนตัวหนึ่งที่สำคัญกับผู้ชายอย่างเราๆ เพราะนอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นฮอร์โมนเพศชายแล้ว ยังเป็นฮอร์โมนที่กำหนดความเป็นไปต่างๆ ในร่างกาย จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพยายามคงระดับเทสโทสเตอโรนให้อยู่ในเกณฑ์ปกติไว้
ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนของเราจะลดลงตามธรรมชาติเมื่ออายุเข้าสู่เลขสาม และจะลดลงเรื่อยๆ ซึ่งการที่มีเจ้าฮอร์โมนตัวนี้ต่ำเกินไปเนี่ย ก็ส่งผลต่อร่างกายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนอนหลับยาก เล่นกล้ามไม่ค่อยขึ้น อ้วนง่าย และเพิ่มความเสี่ยงโรคต่างๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ด้านอารมณ์ ยังทำให้หงุดหงิดง่ายมากขึ้นด้วย
เพราะเทสโทสเตอโรนมันสำคัญกับผู้ชายจริงๆ วันนี้เราเลยมีวิธีง่ายๆ ที่จะช่วย Boost ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนในร่างกาย ที่สำคัญคือเป็นวิธีธรรมชาติ และมีงานวิจัยมา Proved แล้วว่าช่วยได้จริง!
Workout ให้เป็นนิสัย
การออกกำลังกายทุกรูปแบบสามารถเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรนได้หมด แต่งานวิจัยพบว่ารูปแบบการ Workout ที่ให้ผลดีที่สุด คือการใช้แรงต้าน (Resistance Exercise) ทั้งเล่นเวท และ HIIT ซึ่งข้อมูลจาก US National Institutes of Health ก็ยืนยันว่า คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะมีระดับเทสโทสเตอโรนที่สูงขึ้น
กินอาหารให้ครบ 5 หมู่
ถึงช่วงนี้เทรนด์งดแป้งงดไขมันกำลังมา แต่อย่ากินน้อยจนเกินไปนะ เพราะจะส่งผลเสียกับร่างกายได้เหมือนกัน เอาเป็นว่ากินให้พอดีดีที่สุด ทั้งคาร์โบไฮเดรตและไขมัน ถ้ากินอยู่ในปริมาณที่ร่างกายต้องการ มีผลดีมากกว่าผลเสียแน่นอน ส่วนวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ก็สำคัญ โดยเฉพาะวิตามิน D และสังกะสี (Zinc) ซึ่งมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรนได้
เครียดให้น้อยๆ
ใครๆ ก็รู้ว่าความเครียดมันไม่ดี แต่จะห้ามก็คงยาก เอาเป็นว่าเครียดให้น้อยที่สุดแล้วกัน เพราะความเครียดจะไปเพิ่มระดับคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งคอร์ติซอลก็จะไปลดระดับของเทสโทสเตอโรนอีกที ในทางตรงกันข้าม ถ้าคอร์ติซอลน้อย เทสโทสเตอโรนก็จะเพิ่มมากขึ้น
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ใครที่ชอบนอนดึกต้องระวัง เพราะการนอนไม่พอนั้น นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลต่อระดับฮอร์โมนเพศชายของเราด้วย งานวิจัยพบว่าคนที่นอนเพียง 5 ชั่วโมงต่อวัน จะมีเทสโทสเตอโรนต่ำกว่าปกติถึง 15% เค้าเลยแนะนำว่า นอนให้ได้วันละ 7-10 ชั่วโมง จะเป็นการดีต่อสุขภาพและระดับฮอร์โมนของเรามากที่สุด
นี่ก็เป็นวิธีการเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือฮอร์โมนเพศชายแบบง่ายๆ ที่เราเอามาฝากกัน ยังไงก็ลองเอาไปทำกันดูนะ โดยเฉพาะคนที่มีเทสโทสเตอโรนต่ำ บางทีใช้วิธีพวกนี้เป็นประจำ อาจจะไม่ต้องใช้ยาเลยก็ได้
