จากที่เป็นข่าวในวันก่อน สำหรับการเข้าถือหุ้น 90.1% ในสปริงนิวส์ เทเลวิชั่น โดย บมจ. ทีวีไดเร็ค (อ่านข่าวได้ที่นี่ ) ล่าสุดในช่วงเช้าของวันที่ 24 กันยายน 2561 นี้ ทางทีวีไดเร็คได้จัดแถลงข่าวถึงประเด็นดังกล่าว เพื่อบอกถึงที่มาทีไป และรายละเอียดที่น่าสนใจ ของการเข้ารุกขยายธุรกิจดังนี้
ธุรกิจ TV ที่ไม่เหมือนเดิมและการเติบโตของธุรกิจ TV Shopping และ Online Shopping
“คนดู TV ไม่ได้น้อยลง แต่ปัจจุบันคนมีช่องให้ดูเยอะขึ้น”
คุณ ทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวีไดเร็คได้เล่าถึงที่มาที่ไปในการเลือกเข้ามาลงทุนครั้งใหญ่นี้ ซึ่งมีเหตุผลจากความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ TV ที่ผู้คนมักพูดกันว่า “เดี๋ยวนี้คนไม่ดู TV กันแล้ว” ซึ่งคำพูดนั้นไม่เป็นความจริง เพราะความจริงแล้วคนดู TV ยังมีอยู่ และไม่ได้มีปริมาณน้อยลงกว่าเมื่อก่อนเลย เพียงแต่ในปัจจุบันนั้น มีจำนวนช่องให้คนเลือกดูมากขึ้นกว่าสมัยก่อน ทำให้เกิดการหารแบ่งปริมาณคนดูซึ่งส่งผลให้ Rating ของแต่ละช่องนั้นลดลง
แต่ในขณะเดียวกันการเติบโตของธุรกิจ TV Shopping และ Online Shopping นั้นกลับเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากในยุคนี้ ด้วยความนิยมและพฤติกรรมการซื้อของที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งในจุดนี้คุณทรงพลได้กล่าวว่า “คนมักคิดว่า Online ทำให้การขายของผ่าน TV ได้รับความนิยมน้อยลง แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ทำให้นิยมน้อยลงเลย มันส่งเสริมกันเป็นอย่างมาก และไปด้วยกันได้ดี”
เหตุผลที่ TVDirect เข้าลงทุนกับ Spring News
หลังจากเกริ่นที่มาที่ไป คณะผู้บริหารก็ได้แถลงถึงเหตุผลในการเข้าลงทุนครั้งนี้ โดยเริ่มจากการเล่าถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปว่า ในปัจจุบันผู้คนนั้นนิยมการซื้อของแบบ Virtual Shopping กันมากขึ้น หรือก็คือการซื้อของออนไลน์ที่แม้จะไม่ไม่ได้เห็น หรือได้สัมผัสสินค้าจริง ๆ แต่ผู้บริโภคก็มีความมั่นใจในการสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ กันมากขึ้น ด้วยมาตรฐานและการควบคุมที่เข้มงวดและน่าเชื่อถือขึ้นในปัจจุบันนั่นเอง
และอีกเหตุผลสำคัญคือความต้องการในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของบริษัททีวีไดเร็คให้มากขึ้น เพื่อยกระดับตัวเองในการแข่งขันในอุตสาหกรรม TV Shopping และ Home Shopping ซึ่งทางคุณทรงพลได้กล่าวแย้มไว้ว่า “ในอนาคตจะเป็นมหากาพย์การแข่งขันและการพัฒนาของอุตสาหกรรมนี้”
ยืนยันว่าเนื้อหาของช่อง 19 ยังคงเป็นสถานีข่าวเหมือนเดิม ด้วยสัดส่วนเนื้อหา 50 % ตามกติกาของ กสทช.
ถึงแม้การเข้าซื้อหุ้น 90.1% ในครั้งนี้ของ TVDirect จะมาจากความตั้งใจในการทำช่องทีวีดิจิทัลให้เป็น TV Shopping ของตัวเอง แต่ทางผู้บริหารก็ยังยืนยันในงานแถลงว่า “ช่องสปริงนิวส์จะยังคงเป็นสถานีข่าวเช่นเดิม” ซึ่งทางผู้บริหารได้แถลงถึงโครงสร้างการปรับผังรายการโดยแบ่งเป็นรายการข่าว 6 ชั่วโมง, รายการสาระวาไรตี้ 6 ชั่วโมง, Home Shopping 6 ชั่วโมง และ TV Shopping 6 ชั่วโมง ซึ่งจะตรงตามกติกาในการเป็นสถานีข่าวของกสทช. ด้วยสัดส่วน 50 – 50 จากเดิมที่สัดส่วนเนื้อหารายการจะเป็น รายการข่าว 70% และอีก 30% เป็นการให้เช่าสถานี
และนั่นหมายความว่านี่คือการเปลี่ยนบทบาทของ ‘สปริงนิวส์’ จากการเป็นผู้บริหารสถานีโทรทัศน์มาเป็น “ผู้ผลิตรายการ” หรือ Content Provider อย่างเต็มตัว และสำหรับผังรายการใหม่นั้น ทาง TV Direct ได้จ้างสปริงนิวส์ในการผลิตรายการข่าวทั้งหมด 6 ชั่วโมง และร่วมผลิตรายการสาระวาไรตี้ด้วยกัน
Nua Marketing กลยุทธ์สำคัญของ TV Directหลังจากเข้าบริหาร Spring News
ทางผู้บริหาร TV Direct ได้แถลงถึงกลยุทธ์ที่ได้วางไว้หลังจากได้เข้ามาบริหารสปริงนิวส์ว่า จะต้องสร้าง Massive Awareness เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจนมากขึ้น เพิ่มสินค้าให้หลากหลาย ขายให้ตรงจุดลูกค้า ไม่ขายเจาะกลุ่มแมสหนักเหมือนก่อน แต่จะลงรายละเอียดเป็น Tailor Made มากขึ้น เพราะถึงแม้จำนวนขายจะน้อยลง แต่กำไรที่ได้นั้นมากกว่าเดิม และกลยุทธ์สำคัญที่ทางบริษัทได้เลือกใช้คือ “Nua Marketing” ซึ่งหมายถึงไม่มีการเอกใช้กลยุทธ์ใดชัดเจน 100% แต่เป็นการทำตลาดแบบหลากหลายอย่างรวมกัน ด้วยการตัดสินใจที่รวดเร็วเพื่อกระบวนการทำงานที่คล่องตัวนั่นเอง
สำหรับเป้าหมายในการทำรายได้ของ TV Direct นั้น คาดการณ์ว่าปีนี้จะทำรายได้จากการขายสินค้าทางช่อง 19 คิดเป็นสัดส่วน 5% ของยอดขายรวมในปีนี้ 3,990 ล้านบาท และจะเติบโตขึ้นเป็น 10% ในปีหน้า อีกทั้งยังคาดการณ์ไว้ว่า จะถึงจุด Break-Even มีกำไรได้ในอีก 6-7 ปีข้างหน้า
อ่านบทความทั้งหมด ที่ MarketingOops.com
