โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

TRUE TALK : 5 สิ่งที่เรารู้หลังผ่าน พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 22 ... by "Mr.BOSTON"

TrueID Sport

เผยแพร่ 16 ม.ค. 2562 เวลา 21.47 น. • TrueID
TRUE TALK : 5 สิ่งที่เรารู้หลังผ่าน พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 22 ... by
TRUE TALK : 5 สิ่งที่เรารู้หลังผ่าน พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 22 … by “Mr.BOSTON”

ห่างหายไประยะหนึ่งสำหรับ 5 สิ่งที่เราเรียนรู้ในศึกพรีเมียร์ลีก หลังจบแต่ละสัปดาห์ เนื่องจากผู้เยียนไปเคาน์ดาวน์ และยังเมากองงานอยู่บ้าง แต่ วันนี้ กลับมาแล้วครับ

พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เราเห็นภาพของช่วงปลายฤดูกาลได้ชัดเจนขึ้น และนี่น่าจะเป็นเรื่องสนุกในการตามลุ้นตามเชียร์ฟุตบอลอังกฤษของเราหลังจากนี้มาก ๆ แน่นอน

 

1. ใครจะหยุดผี

(AP Photo/Tim Ireland)

ฟอร์มชนะรวด 6 นัดติด ตั้งแต่เข้ามาคุมงานของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ทำให้เขากลายเป็นผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เข้ามารับงานแล้วมีฟอร์มต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มงานดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

ผลงาน ชนะท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อาจจะพูดได้ไม่เต็มปาก ว่าฝีมือ หรือ แท็กติกส์ ของเขา ดีกว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือทีมคู่แข่ง เพราะทั้งรูปเกม และ โอกาส ดูเป็นรองอยู่บ้าง โดยเฉพาะในครึ่งหลัง แต่ยังดี ที่พวกเขามีทั้ง “ดวง” และ “เดเกอา”

แต่จะมาถึงจุดนี้ จะว่า โซลชาร์ ไม่เก่งก็ออกจะดิสเครดิตกันไปหน่อย ส่วนเขาดีพอจะคุมทีม “ปีศาจแดง” ในระยะยาวมั้ยนั้น ค่อยไปว่ากัน…เพราะที่น่าสนใจกว่า คือเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ว่าชัยชนะของพวกเขา จะไปหยุดลงที่ตรงไหน

หากนับเฉพาะในพรีเมียร์ลีก หลังจากนี้พวกเขาจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ไบรท์ตัน, รับเบิร์นลี่ย์, เยือน เลสเตอร์, เยือน ฟูแล่ม และ รับ ลิเวอร์พูล

ถ้าเอาแบบ เกรงใจหน่อย อาจจะสะดุดเกมกับเลสเตอร์ ถ้าเอาแบบไม่เกรงใจ พวกเขาอาจจะเสีย 1 หรือ 3 คะแนนให้ ลิเวอร์พูล

แต่ถ้าเอาแบบ กร่าง ๆ เลย ก็อาจจะชนะรัว ๆ ไป ยาว ๆ กว่าที่ทุกคนคิดก็ได้นะ…

 

2. จับตาเด็กน้อยที่มีขื่อว่า “ดีแคลน ไรซ์”

(AP Photo/Tim Ireland)
(AP Photo/Tim Ireland)

คีแคลน ไรซ์ เพิ่งต่อสัญญากับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2018 หรือ ปลายปีที่แล้ว ทำให้เขาจะอยู่กับขุนค้อนต่อไปอีกถึงปี 2024 หลังจากเสร็จสิ้นเรื่องอนาคตแล้ว ฟอร์มของไอ้หนูวัย 19 ปี ก็ทะยานขึ้นราวกับก้าวกระโดดเลยทีเดียว

ถึงจะบอกว่า เขาเล่นดีมาสักระยะ แต่ก็ไม่มีนัดไหนจะเห็นภาพฟอร์มของ ไรซ์ ดีเท่าเกมเชือด อาร์เซน่อล 1-0 ที่เขาเป็นผู้ยิงประตูชัยเมื่องสัปดาห์ทีผ่านมา

ประตูดังกล่าว เป็นการยิงอย่างมั่นใจ และ เมื่อบอลออกจากเท้าไป แบรนด์ เลโน่ ก็แทบจะหมดสิทธิ์เชฟ เพราะมันมุมดิก

ไม่ใช่แค่การทำประตู เขายังเล่นเกมรับได้อย่างโดดเด่น ชนิดที่วาร์ปไปทั่วสนามที่ผู้เล่นอาร์เซน่อลขึ้นเกมมา และมีบทบาทในการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกด้วย

ฟอร์มแบบนี้ พูดเลยว่า ทีมใหญ่ “ตาเป็นมัน”

แต่ก็ไม่รู้ว่า โชคช่วย หรือ วางแผนมาดี ที่เขาเพิ่งขยายสัญญากับ “ขุนค้อน” ออกไป ทำให้ใครที่สนใจ อาจจะต้องจ่ายเงินมหาศาล ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านปอนด์ เพื่อแลกกับไอ้หนูคนนี้

 

3. รองเท้าทองคำจะเป็นของ โอบา หรือ ซาลาห์

(AP Photo/Tim Ireland)
(AP Photo/Tim Ireland)

การบาดเจ็บของ แฮร์รี่ เคน ทำให้การขับเคี่ยวในการแย่งชิงรางวัล รองเท้าทองคำ หรือ ดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีก เหลือแค่ 2 ตัวเลือก โดยปริยาย นั่นคือ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยัง จากค่ายปืนใหญ่แห่งลอนดอน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทีมหงส์แดงแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์

โอบา-ซาลาห์-เคน สามคนนี้ ยิงไปคนละ 14 ประตู แต่หลังจากนี้ เคน จะต้องพักราวหนึ่งเดือนเศษ เนื่องจากเอ็นอักเสบ ทำให้ โอบา กับ ซาลาห์ น่าจะได้ลุ้นกันสองคนเท่านั้น

ส่วนม้าตัวอื่น ๆ ที่ ตามมา ใกล้สุด ๆ ก็มี เอเด็ง อาซาร์ ของ เชลซี กับ เซร์คิโอ้ อเกวโร่ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำ 10 ประตูเท่ากัน

4 ประตู ก็ใช่ว่า จะห่างกันจนไล่ไม่ถึง แต่ถ้า 2 คนแรกยังยิ่งกันอย่างต่อเนื่อง พวกที่ตามมาก็คงไล่ทันยาก ที่นี่ คำถามคือ โอบาเมยัง หรือ ซาลาห์ ที่จะยิงได้ต่อเนื่องไปจนท้ายฤดูกาล แล้วคว้ารางวัลรองเท้าทองคำไปครองกันแน่

 

4. อาเซน่อล กับ ภารกิจมหาโหดในการไล่ล่าที่ 4

(AP Photo/Tim Ireland)
(AP Photo/Tim Ireland)

ความพ่ายแพ้ต่อ เวสต์แฮม ในเกมลอนดอน ดาร์บี้ สร้างความเสียหายให้อาร์เซน่อล มากกว่าแค่ 3 คะแนน เพราะตอนนี้ พวกเขาตามหลัง เชลซี ทีมอันดับ 4 ถึง  6 คะแนนเต็มไปแล้ว

แถมลูกได้เสียก็เป็นรองถึง 9 ประตูด้วย ในเคสนี้ มันเหมือนตามหลังอยู่ 3 คะแนนครึ่งดี ๆ นี่เอง

เท่านั้นไม่พอ เพราะ “ปีศาจแดง” ที่ฟอร์มแรกมาตั้งแต่เปลี่ยนโค้ช เป็นโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ก็ทำแต้มขึ้นมาเท่าพวกเขาที่ 41 คะแนนอีกต่างหาก งานนี้เรียกว่า “วิกฤต” เห็นจะได้

แน่นอน เกมมีให้แข่งขันกันอีกยาวไกลถึง 16 เกม แต่ปัญหาที่ “ปืนใหญ่” เจอ มันไม่ใช่แค่แพ้วัตฟอร์ด เพราะมันอาจจะเป็นอาการ “แผ่ว” ที่พวกเขาเผชิญมาตั้งแต่ยุค อาร์แซน เวนเกอร์ แล้วหรือเปล่า?

ด้วยฟอร์มการเล่นตอนนื พูดเลยว่า โอกาสที่ ยูไนเต็ด จะแซงพวกเขาขึ้นไป ดูจะมีมากกว่า โอกาสที่พวกเขาจะลดช่องว่างจากเชลซีอยู่พอสมควร

งานนี้ ถ้าพวกเขาอยากได้ที่ 4 จริง ๆ อาจจะต้องมีงบประมาณลงมาซื้อตัวนักเตะก่อนหมดเดือนมกราคม ให้ทีมมีจุดเปลี่ยนสักหน่อยแล้วหรือเปล่า?

 

5. เหลือแค่ 2 ทีมที่จะเบียดแย่งแชมป์

(AP Photo/Dave Thompson)
(AP Photo/Dave Thompson)

จากความพ่ายแพ้ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้การไล่ล่าแชมป์ ฤดูกาลนี้ อาจจะเหลือแค่ 2 ทีมแล้ว นั่นคือ จ่าฝูง อย่างลิเวอร์พูล และ แชมป์เก่า อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แน่นอนว่า 16 นัดที่เหลือนั้นยังถือว่ายาวไกล แต่กับบอลที่ทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา ที่ 1 แพ้นัดเดียว ที่ 2 แพ้ 3 นัด แล้วที่ 3 แพ้ไปถึง 6 นัด นั่นยอมเป็นความต่างของคะแนน

แถมจำนวนนัดที่แพ้ มันยังทำให้เห็นด้วยว่า มาตรฐานของ “หงส์แดง” กับ “เรือใบ” มันสูงกกว่าทีมที่ไบ่มาอยู่พอสมควรเลย

ตอนนี้ ท็อตแน่ม ตามหลัง ซิตี้ อยู่ 5 คะแนน และ ตามหลัง ลิเวอร์พูล 9

ในทาง ทฤษฏี ความเป็นไปได้ในการลุ้นแชมป์ยังเปิดกว้าง แต่ในทางปฏิบัติ ประตูลุ้นแชมป์ของสเปอร์ส ริบหรี่จนแทบสอดตัวออกไปลุ้นกับเขาไม่ได้แล้ว

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่บรรดาบริษัทรับพนันหั่นราคา “ไก่เดือยทอง” ลงมากระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ เพราะในสนามตาพวกเขาเอง ก็มองว่า ถ้วยแชมป์ปีนี้ ไม่ถูกโบว์สีฟ้า ก็จะต้องผูกโบว์สีแดง แล้วแน่ ๆ นั่นเอง

“Mr.BOSTON”

 

อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะไทยลีก 2019

 

อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีก 2018/19

 

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

ดูบอลสด – ไฮไลท์บอล แบบจัดเต็มได้ ที่นี่
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ดูไฮไลท์บอล พรีเมียร์ลีก ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0