โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

NSL เข้าเทรดวันแรกบวก 21.67% เจาะกลยุทธ์ดันรายได้สู่ 6,000 ล้านบาท

Wealthy Thai

อัพเดต 08 ส.ค. 2566 เวลา 13.20 น. • เผยแพร่ 19 พ.ค. 2564 เวลา 11.16 น. • This’s Alano

NSL ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป แซนวิชอบร้อน เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว นำเข้าและจำหน่ายเนื้อสัตว์และผักแช่แข็ง เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก โดยทำราคาเปิดการซื้อขายที่ 14.60 บาท เพิ่มขึ้น 21.67% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในราคาจองหุ้นละ 12 บาท
นายสมชาย อัศวปิยานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้บริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก โดยทำราคาในระดับดังกล่าว ถือว่าตอบรับปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ โดยรู้สึกพอใจอย่างมาก และใกล้เคียงสถาบันการเงินวิเคราะห์
ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในการใช้เงิน (IPO) จะนำไปใช้ดังนี้ 1.เพื่อจ่ายคืนหนี้สินเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับที่ปรึกษาทางการเงิน จำนวน 350 ล้านบาท จะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเหลือต่ำกว่า 1 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 1-2 เท่า
2.เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ จำนวน 200 ล้านบาท และ 3.เพื่อใช้สำหรับลงทุนโรงงานแห่งใหม่ จำนวน 350 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นก่อสร้างโรงงาน 240 ล้านบาท ลงทุนในเครื่องจักรประมาณ 110 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 1 ปี คาดว่าจะสามารถผลิตได้เต็มกำลัง ในปี 2566
รวมทั้งบริษัทมีแผนจะเข้าสู่ธุรกิจอาหารกลุ่มใหม่ๆ ทั้งประเภทแช่แข็ง กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น พร้อมทั้งยังมีแผนสร้างโรงงานใหม่ และในระยะยาวจะเข้าสู่อาหารหลายมิติ โดบบริษัทจะเป็นองค์กรธุรกิจอาหารหลายๆช่องทาง โดยมีการวางทิศทางธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งในปีนี้จะมีการขยายการลงทุนในธุรกิจสแน็คภายใต้แบรนด์ NSL และกลุ่มธุรกิจฟู้ด เซอร์วิส ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2564 ไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 16% จากธุรกิจใหม่ๆที่เสริมเข้ามาทั้งฟู้ดเซอร์วิส ขนมขบเคี้ยว และการเติบโตร่วมกับเซเว่น และธุรกิจใหม่ๆที่จะไป ถือเป็นยอดขายเข้ามาเสริมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยว ที่กำลังจะออกสินค้าเพื่อจำหน่ายในเซเว่น และนอกเหนือเซเว่นทั้งหมด โดยสินค้าในกลุ่มนี้จะมี 3 กลุ่มใหญ่ๆ ที่จะเข้ามาเสริมยอดขาย และอีกธุรกิจ คือฟู้ดส์เซอร์วิส อาทิ ผักแช่แข็ง ปลาหมึก หอย เป็นต้น
โดยรายได้รวมอีก 5 ปี (2564-2568) คาดการณ์ว่าจะไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท จะมาจากเซเว่น อีเลฟเว่น 70% และนอกเซเว่นฯอีก 30% โดยสัดส่วนนอกเซเว่นฯมีโอกาสผลักดันให้มาร์จิ้นดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งอัตรากำไรสุทธิในเซเว่นฯจะอยู่ที่ 5% กลุ่มอื่น 10% โดยรวมแล้วคาดปี 68 จะมีอัตรากำไรสุทธิ 7-8% ขณะที่ ปี 63 อยู่ที่ 5.2% โดยไตรมาสแรกปี 64 อยู่ 7%
อย่างไรก็ตามบริษัทมีการทำ MOU ร่วมกันกับเซเว่นฯในระยะยาว ดูแลซึ่งกันและกัน สินค้าที่บริษัทผลิตให้เซเว่นฯจะไม่ผลิตให้คู่แข่ง เซเว่นฯก็เช่นกัน โดยเซเว่นฯไปไหน บริษัทก็จะตามไปขายด้วย อย่างกัมพูชา บริษัทได้เริ่มพัฒนาสินค้า โลจิสติกส์ ที่จะตามไปจำหน่ายด้วย ไม่ว่าจะเป็นแม็คโคร หรือโลตัส ก็ยังเป็นเป้าหมายที่จะเข้าไปขายเช่นกัน ขณะที่ต่างประเทศ เน้นอาหารพร้อมรับประทานที่ เหมาะกับช่องทางจำหน่ายในแต่ละประเทศ ทั้งรูปแบบแช่แข็ง เป็นต้น คาดเริ่มออกสินค้าปลายปีนี้
“การระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ จะช่วยให้ NSL Foods สามารถสร้างศักยภาพในการเติบโตได้อย่างยั่งยืน เสริมสร้างความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงิน สร้างความต่อเนื่องในการลงทุน โดยหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในธุรกิจเบเกอรี่และอาหารที่สามารถตอบโจทย์ภายใต้แนวคิด Nutrition Sustainable for Life หรือการพัฒนานวัตกรรมอาหารอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต” นายสมชายกล่าว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0