สายเนื้อ กินหนัก และซีฟู้ดแบบจัดเต็ม แต่พอกินแบบนี้ทุกวันร่างกายก็เริ่มส่งสัญญาณSOS มาว่าขออาหารดีๆ เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพใส่ร่างกายบ้าง
ชีวิตผมกับผักนั้นช่างไม่ค่อยถูกกันเท่าไรครับ เพราะผมเป็นสายเนื้อ กินหนัก และซีฟู้ดแบบจัดเต็ม แต่พอกินแบบนี้ทุกวันร่างกายก็เริ่มส่งสัญญาณ SOS มาว่าขออาหารดีๆ เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพใส่ร่างกายบ้าง ผมก็เลยมีความรู้สึกอยากทานอาหารเพื่อสุขภาพขึ้นมา เลยสอบถามกับเหล่าวีแกนใกล้ตัวก็ได้รับแนะนำมาว่าถ้าอยากเริ่มกินผักแบบทานง่ายต้องไปร้านนี้เลย Salad Factory
Salad Factory มีทั้งหมด 5 สาขาครับได้แก่ สาขาบีไฮฟเมืองทองธานี, สาขาโรบินสัน ศรีสมาน, สาขาคริสตัลพาร์คเลียบทางด่วนรามอินทรา, สาขาเดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ และสาขาเมกะบางนา
แต่ผมเลือกสาขาบีไฮฟเมืองทองธานีเพราะอยู่ใกล้ที่ทำงานเดินทางง่าย การเดินทางก็ไม่ยากครับขับไปตาม GPS : 13.911057, 100.539861 นี้เลย
"ข้อแนะนำ ทางร้านบอกว่าจอดรถหน้าร้านสะดวกกว่าขึ้นไปจอดบนอาคารจอดรถครับ เพราะทางขึ้นแคบ และเสียค่าที่จอดรถครับ"
ผมมาถึงร้านก่อนเที่ยงนิดหน่อยคนเลยไม่เยอะมาก บรรยากาศร้านขอบอกว่าตกแต่งได้น่านั่ง ชิลๆ สบายๆ มากครับ เน้นใช้โทนสีขาว เขียว และน้ำตาล ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติได้ดีมากๆ
ผมสังเกตว่าคนมาทานร้านนี้มีทุกวัยเลยครับไม่ว่าจะเป็นคนทำงานที่อยากดูแลสุขภาพอย่างผมพักกลางวันปุ๊บก็ชวนเดอะก๊วนมาทานอาหารอร่อยก่อนจะขึ้นไปทำงานที่เคร่งเครียดบนออฟฟิศต่อ หรือจะเป็นวัยรุ่น นักศึกษา ผู้สูงอายุ และเด็กเล็กที่มากับครอบครัวเรียกได้ว่าเป็นร้านที่ตอบสนองทุกเพศทุกวัยจริงๆ
ผมมีโอกาสได้คุยกับคุณกอล์ฟ และคุณพิมพ์เจ้าของร้าน ทั้งสองคนเล่าให้ผมฟังว่าร้านนี้เกิดจากความคิดที่อยากมีร้านอาหารเพื่อสุขภาพโดยเป็นอาหารที่ทานง่าย ใครที่ไม่ชอบทานผักอย่างผมก็สามารถทานได้ นอกจากนี้ยังมีอาหารทั่วไปที่ไม่ได้เน้นสุขภาพจ๋าๆ ให้ทานอีกด้วย เพื่อดึงลูกค้าที่ไม่ได้ทานผักได้มานั่งทาน และอาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนเหล่านั้นได้หันมาทานอาหารเพื่อสุขภาพได้อีกด้วย
ส่วนผักและวัตถุดิบต่างๆ ทางร้านใช้ผักสดและข้าวออร์แกนิค จากเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์จากทั่วทุกภูมิภาค จึงมั่นใจได้เลยว่าอาหารของร้านนี้ปลอดภัย ไร้สารเคมีชัวร์
เมนูอาหารของที่นี่มีให้เลือกถึง 200 เมนูครับ มีทั้งแบบสลัดที่เริ่มต้นที่ราคา 79 บาท และสามารถเพิ่มเครื่องเคียง เลือกน้ำสลัดได้ตามใจชอบ หรือเป็นสลัดที่ทางร้านเซ็ตมาให้แล้ว นอกจากนี้ยังมีเมนูสเต็ก เมนูยำ ของว่างทานเล่น น้ำผักผลไม้ปั่นเพื่อสุขภาพอีกมากมาย ผมเปิดเมนูมาแล้วไม่รู้ว่าจะกินอะไรก่อน เลยให้ทางร้านช่วยแนะนำเมนูที่ทานง่าย สุดท้ายได้เมนูอร่อยมากมายตามนี้เลยครับ
เริ่มต้นด้วยเมนูแรกกับร็อกเก็ตอกเป็ดรมควัน (ราคา 195 บาท) เมนูซิกเนเจอ์ของทางร้านโดยใช้ผักร๊อคเก็ต กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค มะเขือเทศราชินี วอลนัท ส้มนาเวล และอกเป็ดรมควัน เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำสลัดบัลซามิก โดยเวลาทานก็ราดน้ำสลัดลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ความเปรี้ยวนิดๆ เค็มหน่อยของน้ำสลัดนั้นเข้ากับผักร๊อคเก็ตได้เป็นอย่างดีเลยครับ อกเป็ดนุ่ม หอม อร่อยมากๆ ได้ความมันจากวอลนัท และความเปรี้ยวหวานจากส้ม และมะเขือเทศ ทานแล้วรู้สึกสดชื่นเฟรชมากๆ ครับ
ต่อด้วยวินเทอร์สลัด (180 บาท) ที่เสิร์ฟมาในชามใบยักษ์ ด้านในประกอบไปด้วยผักและผลไม้มากมาย อาทิ เมล่อน พีช สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี องุ่น มะเขือเทศ ส้ม มะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ เฟตาชีส แครอท รองด้านล่างด้วยผักสลัด ทานกับน้ำสลัดโยเกิร์ตใส่เนื้อส้ม รสชาติเปรี้ยวหวาน อร่อยและสดชื่นมากๆ ครับ
สุขภาพดีกันต่อกับปอเปี๊ยะสดทานตะวันกุ้ง (125 บาท) หน้าตาธรรมดาแต่ขอบอกว่าอร่อยมากๆ ครับ โดยเขาใช้ เนื้อกุ้งขาว ต้นอ่อนทานตะวัน แครอท แตงกวา ผักกาดแก้ว อัดแน่นอยู่ในโรลที่พันด้วยแป้งปอเปี๊ยะ เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้ม 2 แบบคือน้ำจิ้มซีฟู้ด และน้ำจิ้มถั่ว ใครชอบแบบจี๊ดจ๊าดก็ราดด้วยซีฟู้ด ใครชอบแบบหวานนิดๆ มันๆ ข้นๆ แนะนำน้ำจิ้มถั่วครับหอมอร่อยมากๆ ส่วนผมเป็นพวกอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคนเลยนำมามิกซ์กันดู อู้หูมันอร่อยมากๆ ทั้งความหวาน ความมัน ความเผ็ด ความเปรี้ยวมันช่างดีต่อใจสุดๆ
ต่อด้วย Double Cheese Sausage ขนมปังแบบพิเศษของทาง Moola ที่มีชีสสอดไส้อยู่ในแป้งขนมปัง ทานคู่กับไส้กรอกเผ็ดแบบโฮมเมดที่ไส้ในใช้วัตถุดิบให้รสชาติที่ทั้งกรอบและเผ็ดร้อน จากความเผ็ดทุกชนิดมารวมกัน อาทิ พริกป่น ซอสพริก พริกไทยขาว พริกไทยดำ ราดด้วยซอสศรีราชาเดรซซิ่ง ให้ความรู้สึกจัดจ้านกำลังดีไม่เผ็ดมากไปหรือน้อยไป แม้คนทานเผ็ดไม่เก่งก็สามารถทานได้
ทานผักกันไปแล้วลองเมนูข้าวกันบ้างครับกับข้าวผัดผลไม้ควินัวกุ้ง (145 บาท) โดยเขาใช้ควินัวมาผัดกับข้าวบาร์เลย์ ข้าวหอมนิล แครอท ธัญพืช ผลไม้อบแห้ง และกุ้งย่าง ตอนเสิร์ฟมาทางร้านให้น้ำปลาพริกมาด้วยครับ ใครชอบรสจัดหน่อยก็เหยาะลงไปนิดๆ จะทำให้รสชาติพอดี เมนูนี้ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารครับรับรองว่าทานแล้วสบายท้องมากๆ
ไม่ได้มีแค่สลัด สเต็กก็มีให้เลือกทานนะครับ วันนี้ผมสั่งสเต็กหมูสันใน (185 บาท) ที่ใช้เนื้อหมูสันในไปย่างจนข้างนอกเกรียมนิดๆ ด้านในนุ่มทานกับน้ำจิ้มแจ่ว เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวหอมนิล ผักโขมผัดเนย อร่อยมากๆ ครับ
มาดูเมนูของหวานที่อัดแน่นไปด้วยสุขภาพกับโยเกิร์ตกีวีกรีน (185 บาท) โดยเขาใช้ต้นอ่อนผักโขมมาปั่นกับกีวี กล้วย โยเกิร์ตสด เสิร์ฟมาพร้อมกีวีฝาน กราโนลา และโกจิเบอร์รี หลายคนอาจจะจินตนาการรสชาติไม่ออกใช่ไหมครับ แต่ขอบอกว่ามันอร่อยมากๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ ไม่มีกลิ่นของผักโขมเลยทานง่ายมากๆ
ปิดท้ายด้วย แฟคทอรี่ โทสต์ (175 บาท) เมนูนี้ทางร้านบอกว่าไม่ใช่เมนูสุขภาพนะครับ แต่ที่มีก็เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าที่ไม่ได้เน้นอาหารเพื่อสุขภาพมากก็สามารถมาทานได้ด้วย โดยใช้ขนมปังนำไปชุบเกล็ดขนมปังแล้วไปทอดในเนยจนเหลืองกรอบน่าทาน เสิร์ฟพร้อมกล้วย ส้ม สตรอว์เบอร์รี ไอศกรีมวานิลลา ราดด้านบนด้วยซอสคาราเมล หวาน เย็นชื่นใจมากๆ ครับ
ใครที่คิดว่าอาหารสุขภาพจะทานยากไม่อร่อย ขอบอกว่าเลิกคิดเลยครับ เพราะอาหารสุขภาพที่ Salad Factory เขาทำอร่อยและทานง่ายมากๆ ใครที่อยากพักกับอาหารหนักๆ มาหาสิ่งดีๆ ใส่ร่างกายก็มาทานกันเลย และสำหรับลูกค้าที่ใช้แอปพลิเคชัน FWD MAX รับทันที FWD Mini Caesar Salad มูลค่า 140 บาท เมื่อทานอาหารครบ 400 บาท ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.chillpainai.com/fwdmaxprivilege/
สมัครรับสิทธิพิเศษ FWD MAX ได้ง่ายๆ
Android: https://goo.gl/RVJ6Kl
ที่ตั้ง : สาขาบีไฮฟเมืองทองธานี ซอยแแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 33 ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลคลองเกลือ ปากเกร็ด นนทบุรี
เวลาเปิด : ทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
ราคา : 70-650 บาท
เบอร์ติดต่อ : สาขาบีไฮฟเมืองทองธานี 02-001-5659, สาขาโรบินสัน ศรีสมาน 02-501-5794, สาขาคริสตัลพาร์คเลียบทางด่วนรามอินทรา 02-045-4559, สาขาเดอะรริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ 02-102-3515 และสาขาเมกะบางนา 02-105-2203
