โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

STA เข้าปีทอง...แต่จะอยู่ได้ยาวแค่ไหน ?

efinanceThai

เผยแพร่ 24 ม.ค. 2563 เวลา 06.54 น.

STA อาจกำลังเข้าสู่ปีทอง ! ส่งราคาหุ้นนิวไฮรอบ 6 เดือนไปแล้ว แม้ผู้ผลิตรายอื่นจะได้รับผลกระทบจากยอดขายรถยนต์ที่อ่อนแอทั่วโลก แต่ธุรกิจถุงมือยางที่ STA ปั้นมานานจะเข้ามามีบทบาทสำคัญผลักดันผลประกอบการปีนี้พลิกกลับมาโตกระฉูดถึง 2216% ขณะที่ระยะยาวอาจได้รับผลดีจากคู่แข่งหลายรายเจอปัญหาขาดทุนหนักไปก่อนหน้าจนไม่สามารถกลับมาผลิตได้ตามปกติ

ราคาหุ้น บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี หรือ STA เปิดตลาดวันนี้ยังเดินหน้าบวกต่อเนื่อง แตะจุดสูงสุดของรอบเช้าไปที่ 12.40 บาท ทำระดับนิวไฮรอบ 6 เดือน ก่อนมาปิดตลาดรอบเช้าไปที่ 11.90 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า

หากมองที่ผลประกอบการ STA ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าฟื้นตัวได้อย่างดี เพราะพลิกจากขาดทุนในปี 59 - 60 มามีกำไรสุทธิระดับ 2 พันล้านบาทได้ในปี 61 แต่จากการพลิกมาขาดทุนอีกครั้งในปี 62 ทำให้ราคาหุ้น STA ขยับไปไหนได้ไม่ไกลนัก

 

ปี กำไรสุทธิ(ลบ.) ราคาปิดของปี(บ.) 59 -758 22.16 60 -1,437 14.10 61 +2,064 14.10 9M62 -222 10.00

*** อย่างไรก็ดีตั้งแต่ต้นปี 63 ราคาหุ้นเริ่มกลับทิศมาเป็นขาขึ้น ล่าสุดทำนิวไฮรอบ 6 เดือน สาเหตุแรกๆก็คือ ราคายางในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นมาจากภัยแล้งในประเทศไทย

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุ ว่า สาเหตุที่ราคาหุ้นปรับขึ้นมา เป็นผลจากราคายางในตลาดโลก ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากภัยแล้งในประเทศไทย ประเด็นนี้จะทำให้อัตราการทำกำไรขึ้นต้นดีขึ้น และด้วยปัจจัยบวกดังกล่าวคาด STA จะรายงานกำไรออกมาเติบโตโดดเด่นในช่วงไตรมาส 1/63 และกำไรน่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในปี 63 จึงปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้นอีก

แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 15.40 บาท

ขณะที่ทาง STA คาดว่าราคายางในช่วงครึ่งแรกของปี 63 จะพุ่งขึ้นไปแตะที่ 1.4 - 1.7 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัมอีกด้วย แต่อาจต้องติดตามราคายางอย่างใกล้ชิด

*** อีกประเด็นที่มีบทบาทสำคัญที่ทำให้กำไรสุทธิในปี 63 พลิกกลับมาโตแรง 2216% ก็คือธุรกิจถุงมือยาง

บล.เอเชีย เวลท์ ระบุว่า ธุรกิจถุงมือยางยังเป็นดาวรุ่งของ STA ในปี 63 โดยคาดว่ายอดขายถุงมือยางจะเติบโตราว 20%YoY แม้จะมีปัจจัยกดดันจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยธุรกิจของ STA มีกำไรสุทธิที่มาจากธุรกิจยางแปรรูป (ยางแท่งยางแผ่น ยางรมควัน และน้ำยาง) เท่ากับ 60% และธุรกิจถุงมือยาง 40% ของกำไรทั้งหมด ในขณะที่สัดส่วนรายได้รวมของ STA มาจากยางแปรรูปมากถึง 85%(65% จากยางแท่ง 10% ยางแผ่น และ 10% น้ำยาง) และถุงมือยาง 15%

ซึ่งกำลังการผลิตถุงมือยางของ STA ณ สิ้นปี 2562 อยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านชิ้น/ปี มี U-Rate ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 90-92% และขยายกำลังการผลิตเพิ่ม โดยไตรมาส 3/63 จะมีกำลังการผลิตถุงมือยางอยู่ที่ 3.0 หมื่นล้านชิ้น/ปี เพิ่มขึ้นอีก 20%

ประเมินกำไรสุทธิปี 63 ไว้ที่ 1,158 ล้านบาท โต 2216% YoY โดยปรับประมาณการกำไรสุทธิให้เหมาะสม ส่วนปี 62 ประเมินไว้ที่ 50 ล้านบาท หลังจากผลประกอบการทรุดตัวในงวด 9 เดือนปี 62 จากที่ราคายางพาราทรุดตัวหนักในไตรมาส 3/62 จากการเทซัพพลายของผู้ประกอบการรายหนึ่งในจีน แต่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/62 จะออกมาไม่แย่นัก

แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 11.25 บาท

*** ไม่ได้รับผลกระทบจากยอดขายรถยนต์อ่อนแอ และได้ประโยชน์จากผู้ประกอบการรายอื่นที่ขาดทุนอย่างหนักจนไม่สามารถกลับมาผลิตได้ตามปกติ

บล.เอเชีย เวลท์ ระบุเพิ่มเติมว่า ด้านยอดขายรถทั่วโลกยังคงอ่อนแอ ข้อมูลจาก Germany’s Center for Automotive Research (CAR) คาดการณ์ว่ายอดขายรถทั่วโลกปี 2563 จะลดลง 1%YoY ส่งผลต่อธุรกิจล้อรถยนต์ของรายใหญ่ทั่วโลก ทั้งยางแท่งและยางแผ่น ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตยางรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ในปี 2562 STA มีสัดส่วนลูกค้าในไทยเพิ่มขึ้น 25-30% ซึ่งเป็นรายใหม่ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดยางล้อรถยนต์ของจีน และยางแบรนด์ไทยสามารถรุกตลาดอเมริกาในช่วงสงครามการค้าและแย่งส่วนแบ่งตลาดมาได้ และผู้ประกอบการย้ายฐานการผลิตบางส่วนจากจีนมาไทย

นอกจากนี้ STA ยังได้ประโยชน์จากผู้ประกอบการในธุรกิจยางแปรรูปซึ่งเป็นคู่แข่งขาดกระแสเงินสด ทำให้หยุดการผลิตไปซัพพลายของธุรกิจยางแปรรูปในไทยจึงลดลง นอกจากนี้ลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรป ให้ความสำคัญกับมาตรฐาน FSC อย่างมาก (มาตรฐาน FSC เป็นมาตรฐานที่มุ่งเน้นให้เกิดความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม) โดย STA มีมาตรฐานครบวงจรตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำจนถึงธุรกิจปลายน้ำ

*** มีสิ่งที่ต้องระวังก็คือ ราคายางธรรมชาติที่ปรับตัวขึ้นมา อาจจะกดดันต้นทุนของถุงมือยางได้

บล.เคทีบี ระบุ  STA จะได้อานิสงส์จากบางส่วนจากเหตุการณ์โรคระบาดจากไวรัสโคโรนา ช่วยในการเพิ่มยอดขายถุงมือยางเพื่อป้องกันเชื้อโรคเพิ่มขึ้นแต่อาจจะไม่เด่นชัดเหมือนการซื้อหน้ากากอนามัยของประชาชน  ขณะที่ราคายางธรรมชาติปรับขึ้นมาอยู่ประมาณ 149 cent/kg +6% YTD อาจกดดันต้นทุนของถุงมือยาง

คงคำแนะนำ "ถือ" STA ราคาเป้าหมาย 11.25 บาท ยังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังสำหรับธุรกิจยาง อิง PER 63 ที่ 13x (9-yr. average PER)

การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น STA ในรอบนี้ สะท้อนจากราคายางที่ปรับตัวขึ้นมาแรง แต่จะเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราวหรือไม่ เนื่องจากปรับขึ้นรอบนี้มีสาเหตุมาจากภัยแล้งเท่านั้น และการปรับขึ้นราคายางก็อาจกระทบต่อต้นทุนของถุงมือยางที่เป็นธุรกิจสำคัญอีกด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0