ตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจพื้นฐานเศษฐกิจในประเทศแข็งแกร่ง แม้เผชิญปัจจัยภายนอกผันผวน เปิด 32 หุ้นพื้นฐานดีน่าลงทุนช่วงโอกาสราคาลง
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยในงานสรุปภาวะตลาดทุนไทยและโอกาสการลงทุน ระบุว่า ภาพใหญ่ตลาดทุนไทยในปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าปัจจัยภายนอกประเทศมีความผันผวน แต่ภายในยังมีความแข็งแกร่ง ต้องยอมรับว่าความผันผวนจากภายนอกเป็นปัจจัยหลักความเสี่ยงมาจาก ปธน.โดนลัด์ ทรัมป์ แต่ล่าสุดทางสหรัฐกับจีนเริ่มเจรจากันมากขึ้น เช่น การให้ประกันตัวประธานหัวเหว่ย การขายสินค้าระหว่างกัน ซึ่งปัจจัยภายนอกตรงนี้กระทบเราด้วย เพราะประเทศไทยเราเชื่อมโยงกับโลก นักลงทุนทั่วโลกเป็นกลุ่มเดียวกัน
ตั้งแต่ต้นปี ตลาดหุ้นไทยมีผลงานค่อนข้างแข็งแกร่ง แม้ค่าเฉลี่ยของดัชนีจะติดลบ -7.6 แต่ถ้าเราเทียบกับตลาดเกิดใหม่(MSCI EM) ที่มีค่าเฉลี่ย -16.7 สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) แม้จะออกมาที่ 3 แต่จะเห็นว่าการใช้จ่ายในประเทศเริ่มดีขึ้นมาถึง 5.5 ซึ่งปลายปีนี้ก็มีมาตรการออกมากระตุ้นอย่างต่อเนื่อง การเลือกตั้งชัดเจนมากขึ้น ตรงนี้จะทำให้ภาพโดยรวมของตลาดปีหุ้นไทยแข็งแกร่ง
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อ้างอิงจาก SETSMART ได้คัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี คัดเลือกจากหุ้นที่จ่ายปันผลสูงกว่า 3.5%, return on equity และ net profit margin สูงกว่า 10% ต่อเนื่องทุกปีตลอด 3 ปีที่ผ่านมา จำนวน 32 ริษัท ได้แก่
- พรีบิลท์ PREB
- จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล JAS
- พาโตเคมีอุตสาหกรรม PATO
- เอ็ม.ซี.เอส.สตึล MCS
- เมย์แบงก์ กิมเอ็ง MBKET
- กรุงไทยคาร์เร้นท์ KCAR
- เอ็มเอฟซี MFC
- เอเชียพลัส ASP
- อินทัช โฮลดิ้ง INTUCH
- เคจีไอ KGI
- เกียรตินาคิน KKP
- โกลว์ GLOW
- แลนด์แอนด์เฮ้าส์ LH
- เอเชียเสริมกิจลีสซิ่ง ASK
- อลูคอน ALUCON
- ไทยรีประกันชีวิต THREL
- ทิสโก้ TISCO
- ควอลิตี้เฮ้าส์ QH
- ไทยเซนทรัพลเคมี TCCC
- อุตสาหกรรมถึงโลหะไทย TMD
- ทิพยประกันภัย TIP
- แม็คกรุ๊ป MC
- เอสพีซีจี SPCG
- ไดนาสตี้เซรามิค DCC
- ทีทีดับบลิว TTW
- ที.เค.เอส TKS
- ไทยเทพรส SAUCE
- ทักษิณคอนกรีต SCP
- จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก EASTW
- ธนชาต TCAP
- ไทยพาณิชย์ SCB
- แอดวานซ์ ADVANCE
ส่วนเรื่องของหุ้นที่ทำการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือ IPO ที่เข้าตลาดมาในปี 2560-2561 แบ่งตามช่วง % ผลกำไรส่วนต่างจากราคาหลักทรัพย์(Capital gain) นับจากวันแรกที่ซื้อขาย ซึ่งมีเพียง 3 บริษัทเท่านั้นที่มีราคาปิดต่ำกว่าวันแรกที่เสนอขาย
สำหรับหุ้น IPO ในปี 60 จาก 20 ตัวจาก 40 การเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(IPO) มีจำนวน 61% ที่มีผลประกอบการที่ดีกว่าตลาด ซึ่งส่วนใหญ่ยังเกาะกลุ่มไปกับค่าเฉลี่ยของตลาดด้วย
"ฉะนั้นไม่ได้แปลว่าตลาดหุ้นโดยรวมผันผวน ราคาหุ้นตลาดลงมา แล้วเป็นเรื่องแย่ เพราะนั่นหมายถึงโอกาสในการลงทุน ในช่วงจังหวะผันผวนยังมีหุ้นพื้นฐานดีๆในตลาดอยู่มาก จึงเป็นโอกาสการลงทุนที่จะซื้อหุ้นดีในราคาถูก"
ภาวะตลาดมีผลต่อหุ้นอยู่แล้ว ขอให้นักลงทุนมองภาพยาวๆ เราโตมาได้ใกล้เคียงศักยภาพ เรามีกานเติบโต 4.8% มาเป็น 3.3% ที่เราโตได้เพราะคุณภาพ ข้างในประเทศแข็งแกร่ง เงินไหลออกจากหุ้นจริง แต่ไหลเข้าตราสารหนี้ แสดงว่าคนเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ
ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า หุ้น Ipo ที่นำเทียบกับวันแรกที่เข้าตลาด จะเห็นว่าหลายตัวลงต่ำกว่าวันแรกที่เข้า ต้องมองไปดูที่ภาพรวมของตลาดด้วย เนื่องจากตลาดลงทั้งหมด ตรงนี้ต้องนำไปเทียบกับภาพรวมตลาดด้วย เมื่อเทียบกับคู่แข่ง เมื่อเทียบกับต่างประเทศ
ราคาเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ipo) เป็นสิ่งที่อยากให้นักลงทุนเข้าใจ คือ เราต้องดูปัจจัยอื่นๆด้วย เช่น หุ้น Ipo มีราคาเปิดที่ดีขึ้ตรงกับความเป็นจริงมากขึ้นหรือไม่ ราคาตลาดผันผวนขนาดไหน และอย่าคิดว่าเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นแล้ว จะอยู่ไปตลอดหรือไม่ ต้องดูเวลา ดูความเหมาะสมตรงนี้ด้วย
โดยภายในสิ้นปีนี้ ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดว่าจะมีหุ้นที่สามารถเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ipo) เพิ่มเติมอีกราว 2-3 บริษัทด้วยกัน
ปีนี้จริงๆแล้วเศรษฐกิจทั่วโลกมีการฟื้นตัวขึ้นพร้อมกัน แต่ที่น่ากังวลคือปีหน้าจะโตต่อไปอย่างในท่ามกลางปัจจัยต่างๆยังผันผวน สงความการค้า อัตราดอกเบี้ย ฉะนั้นรูปแบบการเติบโตในปีหน้า ต้องเป็นการเติบโตที่แข็งแรง ประเทศที่มีสภาวะการเงินผันผวน ประเทศที่พึ่งการส่งออก การบริโภคภายในประเทศ ที่มีอย่างเดียวจะน่ากังวล
ขอให้นักลงทุนเลือกลงทุนหุ้นที่มีคุณภาพ และมีต้องเข้าใจความผันผวนของเศรษฐกิจในภาพรวมด้วย