สครับ กับ พีลลิ่ง ต่างกันยังไง? หลายคนอาจจะเคยเจอปัญหาที่ว่า ไม่ว่าเราจะลงครีมบำรุงไปมากเท่าไหร่ ก็เหมือนว่าผิวจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเอาซะเลย มันเป็นเพราะครีมไม่ดีงั้นหรอ? จริงๆ แล้วอาจมีสาเหตุมาจากการที่เราไม่เคยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปเลย ทำให้สารบำรุงต่างๆ ไม่สามารถเข้าไปทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ วันนี้ Beauty See First เลยขอมานำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับขัดผิวให้ใสเนียนนุ่ม ทั้งสครับและพีลลิ่ง แต่ทั้งสองอย่างนั้นมีความแตกต่างกันที่ตรงไหนบ้างนะ? เราสรุปมาให้ง่ายๆแล้วตามนี้เลย!
สครับ
(Scrub) กับ พีลลิ่ง (Peeling)
ต่างกันยังไง?
สครับ (Scrub) คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอกที่เสื่อมสภาพ ที่มีลักษณะเป็นเม็ดแข็งๆ เล็กๆ ที่ทำหน้าที่ “ขัดถู” เอาสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป อธิบายง่ายๆ ก็ใช้หลักการเดียวกับการที่เราใช้กระดาษทรายในการขัดพื้นผิววัสดุนั่นเอง
พีลลิ่ง (Peeling) คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอกเช่นเดียวกับสครับ แต่มาในรูปแบบของเนื้อเจลหรือมีลักษณะคล้ายน้ำเวลาใช้เราก็แค่ทาพีลลิ่งลงบนผิวแล้วถูเบาๆ เซลล์ผิวและสิ่งสกปรกต่างๆ ก็จะหลุดออกมาในลักษณะคล้ายกับขี้ไคลเลยล่ะ
**ขัดผิวเหมือนกัน
แล้วใช้ต่างกันอย่างไร?**
สครับ (Scrub) ด้วยความที่สครับมีลักษณะเป็น ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่ใช้การขัดถู (Physical Exfoliation) ทำให้ช่วยปรับผิวของเราให้เรียบเนียน นุ่มลื่นได้ แต่สำหรับคนที่กำลังมีปัญหาสิวหรือมีผิวที่ค่อนข้างง่ายต่อการระคายเคือง การใช้สครับที่มีเนื้อหยาบอาจเข้าไปสร้างปัญหาให้กับผิวเพิ่มได้
พีลลิ่ง (Peeling) ในขณะที่พีลลิ่งมีลักษณะเป็น ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่ใช้สารเคมี (Chemical Exfoliation) ทำให้สามารถช่วยปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำให้กลับมาสดใสได้ แม้คำว่า “สารเคมี” จะฟังดูรุนแรง แต่ในความจริงแล้ว พีลลิ่งสร้างการระคายเคืองได้น้อยกว่าสครับเสียอีก เพราเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพจะถูกผลัดออกมาในรูปของขี้ไคล และเนื้อสัมผัสที่คล้ายน้ำหรือเจลของพีลลิ่ง ก็ไม่หยาบหรือสร้างการเสียดสีเหมือนสครับ ทำให้เหมาะกับคนที่มีปัญหาสิวมากกว่า และใช้ได้ผลดีกับคนที่มีผิวแห้งด้วย แต่ในบางชนิดที่มีส่วนผสมของกรด ใช้บ่อยเกินไป อาจทำให้ผิวบางได้
TIPS :
ไม่ว่าจะผลัดเซลล์ผิวด้วยสครับหรือพีลลิ่ง แต่ถ้าหากเราทำบ่อยเกินไป ก็อาจะส่งผลให้ชั้นผิวบาง และทำให้ผิวของเราเกิดการระคายเคืองได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้นควรทำการผลัดเซลล์ผิวเพียงสัปดาห์ละ 1- 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว
