โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

SCB พื้นฐานแกร่งแค่ไหน ทำไมต่างชาติเก็บไม่ยั้ง!

efinanceThai

เผยแพร่ 05 มิ.ย. 2563 เวลา 06.45 น.

SCB เป็นหนึ่งในหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นมาแรงในช่วงนี้ จากการเข้าซื้อของ NVDR เจาะพื้นฐานพบนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดกำไรปีนี้จะลดลงเป็นเลข 2 หลัก แต่ราคาหุ้นกลับพุ่งสวนจนเกินราคาเหมาะสม เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?

*** เดือน มิ.ย. SCBราคาพุ่งแล้ว 25%

อย่างที่นักลงทุนทราบกันดีกว่า  นักลงทุนต่างชาติเริ่มที่จะกลับมาซื้อหุ้นไทยตั้งแต่ 29 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา และแรงซื้อส่วนใหญ่ก็กระจุกตัวอยู่ที่หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ทำให้หุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

โดยเฉพาะ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ที่เช้านี้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 92.50 บาท ซึ่งหากนับตั้งแต่ราคาปิด (29พ.ค.63) ถือว่าปรับตัวขึ้นมาแล้ว +25% เกาะกลุ่มสูงที่สุดในกลุ่ม 3 แบงก์ใหญ่ด้วยกัน โดยที่ KBANK ในช่วงเวลาเดียวกันบวกมาแล้ว +25% เท่ากัน ส่วน BBL ราคาบวกขึ้นมาน้อยที่สุด +18%

ทั้งนี้ SCB ปิดตลาดเช้านี้ไปที่ 89 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ +1.42% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 121.16% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า

*** ทำไมต่างชาติเลือกเก็บ SCB

แม้ราคาหุ้น SCB จะปรับขึ้นต่อเนื่อง แต่ไม่ใช่ว่ากลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ทุกตัวที่จะปรับขึ้นได้ตามตลาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ BBL ที่ราคาปรับตัวลงสวนทางในวันนี้ แม้พื้นฐานแข็งแกร่งกว่าและอาจเป็นตัวเดียวในกลุ่มแบงก์ใหญ่ที่กำไรสุทธิปี 63 ยังสามารถเติบโตได้

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?

จากการสำรวจข้อมูลด้วยโปรแกรม efin Stock Pick Up ผ่านฟังก์ชั่น Accumulate NVDR Ranking ได้ข้อมูลว่า  SCB เป็นหุ้นที่ NVDR ซื้อสุทธิมากที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของตลาดหุ้นไทยวานนี้ (4 มิ.ย. 63)   ขณะที่ BBL กลับเป็นตรงกันข้าม เพราะเป็นหุ้นที่ NVDR ขายสุทธิมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของตลาดหุ้นไทย

สาเหตุที่นักลงทุนต่างชาติเลือกเก็บหุ้น SCB มากกว่า BBL นั้นก็คือ สัดส่วนการถือครองหุ้นของ NVDR ในหุ้น BBL ที่เต็มเพดานไปแล้วนั่นเอง โดยภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้นล่าสุดของแต่ละธนาคารมีสัดส่วน NVDR เป็นดังนี้

 

หุ้นNVDRจำนวนถือครอง(หุ้น)สัดส่วนSCB346,262,30910.20%KBANK443,939,59218.55%BBL543,941,27628.50%

ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย NVDR สามารถถือครองหุ้นธนาคารได้ไม่เกิน 25% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว นั่นหมายความว่า SCB ยังมีช่องว่างให้ NVDR สามารถเข้าซื้อหุ้นได้มากที่สุดในบรรดา 3 แบงก์ใหญ่

ขณะที่ BBL นั้น NVDR ขอผ่อนผันการถือครองหุ้นเป็นไม่เกิน 35% ไปจนถึงวันที่ 23 ธ.ค. 63 ก่อนที่จะถูกปรับให้ใช้เกณฑ์ 25% เหมือนธนาคารอื่น ๆ ดังนั้นด้วยสัดส่วน NVDR ที่สูงถึง 28.5% ในปัจจุบัน จึงทำให้ต่างชาติพยายามลดสัดส่วนถือหุ้น BBL ลง 

*** ส่องพื้นฐานคาดงบไตรมาส 2/63 ลดลงจากผลกระทบโควิด-19 ส่วนกำไรทั้งปีคาดลดลงเป็นเลข 2 หลัก

บล.เอเชีย เวลท์ ประเมินว่าผลประกอบการของ SCB ในไตรมาส 2/63 จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ผลกระทบของโควิด-19 ที่จะสะท้อนออกมาแบบเต็มไตรมาส ทั้งจาก

1)การหดตัวของสินเชื่อ โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อรายย่อย ทั้งสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อรถยนต์
2)NIM ปรับตัวลดลง จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย MOR MLR และ MRR ลง 40 bps ตามนโยบายของ ธปท.
3) คาด Credit Cost ปรับตัวสูงขึ้น QoQ โดยคาดการณ์ว่าธนาคารจะมีการตั้งสำรอง Management Overlay เพิ่ม ตามสถานการณ์ COVID-19 ที่รุนแรงขึ้น และส่งผลโดยรวมต่อเศรษฐกิจไทย

จึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 63 - 64 ลง ราว 19.6% และ 18.0% จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เลวร้ายกว่าคาด ส่งผลต่อ Credit Cost ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น เพื่อรองรับต่อความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต ทั้งนี้เราปรับสมมมติฐานอัตราส่วน Credit Cost ใหม่อยู่ที่ 1.8% (เดิม 1.3%) ในปี 63 และ 1.5% (เดิม 1.2%) ในปี 64

โดยประมาณการกำไรสุทธิปี 63 คำแนะนำ และราคาเหมาะสมของนักวิเคราะห์แต่ละรายเป็นดังนี้

 

บล.กำไรสุทธิ (ลบ.)คำแนะนำราคาเหมาะสมเมย์แบงก์ กิมเอ็ง26,541(-34%)ถือ70เอเซีย พลัส27,826(-31%)Switch77หยวนต้า30,153(-25%)ซื้อ80ฟิลลิป34,000(-15%)ซื้อ84เอเอสแอล33,641(-16%)ซื้อ91.50เอเชีย เวลท์27,883(-31%)ซื้อ99

*** เตรียมปรับแผนธุรกิจหลังจบไตรมาส 2/63 

SCB ประกาศเตรียมปรับแผนธุรกิจหลังจบไตรมาส 2/63 ดังนั้นประเด็นนี้จึงอาจเป็นอัพไซด์ได้บ้าง หากแผนธุรกิจสามารถปรับให้เข้ากับสถานการณ์ได้จริง ๆ 

นายเย็น ลอทเนอร์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงิน เปิดเผยว่า ธนาคารอยู่ระหว่างพิจารณาปรับเป้าหมายแผนธุรกิจในปีนี้ใหม่ ภายในเดือนมิถุนายนนี้ เนื่องจากธนาคารได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

"ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญมีการปรับลดลง ตลอดจนมีความผันผวน ไม่แน่นอนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นจีดีพี ส่งออก ดอกเบี้ย ค่าเงิน สินเชื่อ และ เงินฝาก ไม่ใช่แค่ของธนาคารเท่านั้น แต่เป็นทั้งระบบอุตสาหกรรม"นายเย็น กล่าว

สำหรับเป้าหมายแผนธุรกิจเดิมวางเป้าสินเชื่อรวมเติบโต 3 - 5% รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 7-10% หนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้(NPL) 3.4% และ อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ปีนี้จะมากกว่า 130%

ราคาหุ้น SCB พุ่งขึ้นจากเงินต่างชาติที่เข้าเก็บผ่าน NVDR ซึ่งหากยังมีเข้ามาต่อเนื่องก็มีโอกาสที่จะดันราคาขึ้นไปได้อีก โดย SCB น่าสนใจกว่าแบงก์ใหญ่อื่นๆ ตรงที่มีช่องว่างให้ NVDR เข้าถือหุ้นได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามราคาหุ้นที่ปรับขึ้นเกินพื้นฐานไปแล้ว ก็เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องระมัดระวังในการลงทุนด้วยเช่นกัน

ดูข่าวต้นฉบับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0