โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

Review : Far Cry New Dawn

GamingDose

เผยแพร่ 22 ก.พ. 2562 เวลา 11.15 น. • GamingDose - ข่าวเกม รีวิวเกม บทความเกมจากเกมเมอร์ตัวจริง
Review : Far Cry New Dawn

Far Cry ถือเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ดังของทางฝั่ง Ubisoft ที่มักจะมาพร้อมกับไอเดียใหม่ ๆ รวมถึงการโชว์พลังของกราฟิกระดับสุดยอด พร้อมกับโลก Open World ตามสไตล์ของ Ubisoft ทำให้ Far Cry เป็นเกมเรือธงประจำปีนั้น ๆ ที่สามารถดึงเงินจากกระเป๋าของเกมเมอร์ได้อย่างไม่ยากเย็น

Far Cry New Dawn ก็ยังคงทำตามธรรมเนียมเหมือนรุ่นพี่ที่เป็นภาค Spin-Off โดยตัวเกมพยายามที่จะใส่ไอเดียใหม่ ๆ พร้อมกับการพยายามที่จะปรับปรุงระบบเกมการเล่นให้สนุกขึ้นเหมือนกับภาค Blood Dragon และ Primal นำไปสู่คำถามที่ว่า Far Cry New Dawn จะเจ๋งพอรึเปล่าสามารถติดตามได้ในรีวิวนี้เลย

Story

Far Cry New Dawn
Far Cry New Dawn

Far Cry New Dawn จะว่าด้วยเรื่องราว 17 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคที่ 5 ที่โลกถูกอาวุธนิวเคลียร์ถล่มจนมนุษย์ต้องเริ่มสร้างอารยธรรมกันใหม่ แต่หลังจากเริ่มสร้างอารยธรรมในดินแดน Hope Country ก็มีเหล่าผู้กุมอำนาจคนใหม่คือสองคู่แฝดนรก Mickey และ Lou แห่งกลุ่ม Highwaymen ที่พร้อมจะจัดการทุกคนที่ขวางทางหรือไม่ยอมรับใช้พวกเขา เราในฐานะหัวหน้าฝ่าย Security ของกลุ่มจึงต้องสร้างชุมชน Hope Country กลับขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมทั้งกำจัดกลุ่ม Highwaymen เพื่อความสงบสุขของดินแดนแห่งนี้

สำหรับเนื้อเรื่องนั้นดูธรรมดา โดยหากคุณเล่นเกม Far Cry บ่อย ๆ คุณจะรู้สเตปเนื้อเรื่องของเกมอยู่แล้วได้แก่ พระเอกเจอตัวร้ายในตอนแรก ซึ่งมักจะแสดงคาแร็กเตอร์ออกมาให้เรารู้สึกเกรงขาม บ้า ๆ บอ ๆ, กองทัพมหาศาล พร้อมทั้งสร้างความกลัวให้เรา แล้วจะมีเหตุการณ์ที่เราหรือเพื่อนเราถูกฆ่า จากนั้นเราก็ถูกยัดเยียดหรือเต็มใจในการล้างบางอีกฝ่าย ซึ่งจะมีการตอบโต้กันไปมาและเป็นอย่างนี้ไปจนจบเกม…. ตามสไตล์ของเกม Far Cry ซึ่งก็ทำออกมาได้โอเค แต่หากคุณชอบเนื้อเรื่องที่เข้มข้นหรือเน้นการหักมุมสไลต์แบบเอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน เกมนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับคุณ

Gameplay

Far Cry New Dawn
Far Cry New Dawn

ในภาคนี้ได้นำเอาองค์ประกอบของความเป็น RPG เข้ามาในเกม แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วมันแทบจะไม่มีความเป็น RPG เหมือนกับที่หลาย ๆ คนคิด เพราะสุดท้ายแล้วมันก็คือการมหกรรมแจกกระสุน/ลอบเร้น เหมือนกับเกมภาคอื่น ๆ โดยองค์ประกอบของความเป็น RPG ของเกมจะมีเพียงการออกสำรวจโลกเพื่อมาคราฟท์ปืน ให้เราสามารถใช้ปืนที่หลากหลายขึ้นกับอัพเกรดฐานเท่านั้นเอง ดังนั้นใครที่คิดว่าความเป็น RPG จะทำลายความเป็น Far Cry คุณคิดผิด

สำหรับภารกิจต่าง ๆ ของภาคนี้อาจจะดูน้อยไปหน่อยสำหรับแฟน ๆ ของเกม Far Cry แต่มันก็แลกมาด้วยการเล่าเรื่องที่กระชับ อีกทั้งภารกิจต่าง ๆ ยังถูกออกแบบมาได้ดีเลย โดยเฉพาะตอนที่เราต้องไปช่วยบุคคลพิเศษหรือ Specialist มาอัพเกรดฐานเราก็ทำออกมาได้ประทับใจ นอกจากนี้ยังมีโหมด Expedition ที่เล่นสนุกอีกทั้งได้ทรัพยากรมาอย่างคุ้มค่าอีกด้วย

ศัตรูของเกมนี้จะไม่ใช่กองทหารธรรมดา แต่มันคือทัพที่มีการแบ่งระดับจากด้วยสีที่จะมีความแตกต่างกัน อีกทั้งยังทำให้เราต้องเตรียมตัวรับมือให้ดีในช่วงแรก ๆ แต่พอเราเล่นไปสักพักเราจะรู้ว่า AI ไม่ค่อยฉลาดนักแม้ในความยากระดับสูงสุด มันก็ยังที่จะดาหน้าเข้ามาหาเราอย่างไม่หยุดยั้ง แม้ภาคนี้จะชดเชยด้วยการที่ศัตรูบางตัวจะมีการล้ม แล้วจะมีวงกลมขึ้นด้านบนหัวให้เพื่อน ๆ สามารถมาชุบได้ (ระบบเดียวกับภาค 5) แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไรเพราะเรายิงซ้ำได้ สำหรับศัตรูระดับสูงจะถึกแต่หากปืนของคุณระดับเท่ากันยิงไม่กี่นัดก็จัดการได้สบาย

ด้วยความที่ระบบอาวุธของเราอิงกับความเป็น RPG และเป็นมีระดับเหมือนกันแต่จะแบ่งเป็นระดับ 1-2-3 และ Elite ที่เราจำเป็นที่จะต้องออกไปสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งการบุก Outpost ที่ภาคนี้เราสามารถเลือกที่จะ Scavenging เพื่อเอาทรัพยากรมาได้ โดยศัตรูจะกลับมายึดคืนและจะเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นหากอยากที่จะเล่นเกมจบได้สบาย ๆ ก็ต้องออกหาของมาคราฟท์ปืนกับอัพเกรดฐานทัพบ่อย ๆ

ในภาคนี้ความเก่งของตัวและครของเราไม่ได้วัดจากอาวุธและการอัพเกรดฐานทัพเท่านั้น แต่ว่า Perk ก็สำคัญเพราะว่าจะเป็นการเพิ่มสามารถด้านการเอาตัวรอดในโลกใบนี้ให้กับตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งได้นานขึ้น สามารถส่วมใส่ปืนได้ดีขึ้นเป็นต้น แต่ Perk ที่สำคัญที่สุดคือ Perk สำหรับการ Takedown ที่ในเกมนี้ศัตรูจะแบ่งเป็นลำดับขึ้นตามความโหด โดย Perk นั้นวิธีการหาก็เหมือนกับภาคที่ 5 ที่เราจะต้องทำ Challenge และออกสำรวจบริเวณต่าง ๆ ที่จะมีสมุด Perk Point ให้เราเก็บ

ภาคนี้เราจะยังคงมีคู่หูเหมือนกับภาค 5 ที่จะมีความสามารถที่แตกต่างกันอีกทั้งยังสามารถที่อัพเกรดได้ ซึ่งในบางครั้งคู่หูของเราก็จะช่วยทำให้การออกตะลุยใน Hope Country ง่ายขึ้น แต่ว่าคู่หูของเราจะไม่ค่อยระวังเท่าไหร่ นอกจากนี้ดาเมจของเรายังมีผลกับคู่หูอีกด้วย ทำให้บางครั้งเราก็อยากจะเอาไว้เฝ้าฐานทัพมากกว่าการพาไปด้วย แต่อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล

Performance

สำหรับภาคนี้ได้มีการเน้นสีสันต่าง ๆ รู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าภาคที่ 5 ภายใต้ธีมแบบ Post Apocalypse ป่าไม้ ห้วย หนอง คลองบึง ก็ทำออกมาได้ดีซึ่งแม้ผู้เขียนจะเล่นในเครื่อง PlayStation 4 ธรรมดา แต่ภาพของเกมก็ไม่ได้รู้สึกด้อยกว่าเกมอื่น ๆ เลย ยิ่งใครที่เล่นในเครื่อง PlayStation Pro หรือ PC ระดับเทพ ๆ กราฟิกของเกมนี้น่าจะถูกใจคุณ

นอกจากนี้การออกแบบของตัวเกมที่เน้นในด้านของงานศิลป์แบบ punk post apocalypse ก็ทำให้เรารู้สึกถึงความคูลล์ของตัวร้าย นอกจากนี้อาวุธปืนหรือแม้กระทั่งยานพาหนะของเราเองต่างก็ได้รับการออกแบบสไตล์นี้ ทำให้เรารู้สึกว่า Hope Country นี้เป็นเหมือนกับโลกใบใหม่ ขัดกับความคิดแบบ Post Apocalypse แบบเดิม ๆ ที่มักจะมองว่าโลกเหลือแต่ความว่างเปล่าและซากปรักหักพัง โดยสิ่งเรานี้เราจะสัมผัสได้ผ่านสถานที่และศัตรูทั่วทั้งเกม

Far Cry New Dawn ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ Optimize มาได้อย่างดีเลย โดยตัวเกมแม้ศัตรูจะเดินหน้ามามากเท่าไหร่ กระสุนปืนบินว่อนแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกระตุกเลย มิหนำซ้ำยังเล่นได้นิ่ง ๆ ทุกช่วงเวลาที่เราอยู่ในเกม ซึ่งหากคุณเล่นในเครื่อง Pro กราฟิกของเกมจะสวยกว่าเครื่องธรรมดาและนิ่งได้เหมือนกัน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0