โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ROAD TO OSCARS : 20 ข้อควรรู้ ก่อนลุ้นออสการ์ 2020 (ฉบับย่อ) – ซีนนี้มา

LINE TODAY

เผยแพร่ 07 ก.พ. 2563 เวลา 17.00 น. • Ruby The Journey

รู้มั้ยว่า การประกาศรางวัลต่าง ๆ มีที่มาอย่างไร? หนังเรื่องไหน ใช้เวลาดูเกือบครึ่งวัน! หนังที่ได้รับการเข้าชิงและกวาดรางวัลมามากที่สุดคือ…!? ซีนนี้มา จะเก็บเกร็ดความรู้ฉบับย่อของงานออสการ์ งานของคนภาพยนตร์ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติกับนักแสดง ผู้กำกับ และผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างภาพยนตร์ทุกคน กับ 20 สิ่งควรรู้ 20 คำถามที่เอามามาตอบให้คลายสงสัย ในช่วงออสการ์ 2020 นี้

ปูอารมณ์ทุกคนให้ฮึกเหิมก่อนกับ เทปบันทึกของงานออสการ์ครั้งแรกของโลกที่เกิดขึ้นในปี 1929

1.อะคาเดมี อวอร์ดส์ (Academy Awards) คือชื่อจริงของงาน ออสการ์ (Oscars)

2.400 เหรียญสหรัฐฯ สนนราคาของเจ้ารูปปั้นตุ๊กตาทอง ตัวแทนแห่งความภูมิใจ ทำด้วยโลหะซึ่งชุบทอง 24 กะรัต

3.ออสการ์ในปี 2019 ที่ผ่านมา ไม่มีพิธีกรดำเนินรายการ ก็เพราะคุณ เควิน ฮาร์ท สละสิทธิ์จากกรณี เหยียดชาว LGBT ซึ่งเคยมีกรณีนี้(ไร้พิธีกร) เกิดขึ้นในปี 1989 เช่นกัน

4.5 รางวัลใหญ่ (The Big Five Academy Awards) ที่เรื่องไหนก็อยากชนะ ได้แก่

- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

- ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

- บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

- นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

- นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม

ทั้งนี้มีเพียง 3 เรื่องที่คว้าทุกรางวัลนี้มาได้ คือ It Happened One Night (1934) / One Flew Over the Cuckoo’s Nest (1975) และ The Silence of the Lambs (1991)

5.ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่เป็น ‘ภาพยนตร์สี’ เรื่องแรก ได้แก่เรื่อง Gone With The Wind (1939) และยังมีความยาวที่สุด ด้วยระยะเวลารวมถึง 3 ชั่วโมง 58 นาที (238 นาที)!

6.The Lord of the Rings : The Return of the King (2003) คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่เป็น ‘แฟนตาซี’ เรื่องแรก

7.หนังเรท X เรื่องเดียวที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่เรื่อง Midnight Cowboy (1969)

8.ผู้กำกับและเขียนบทผิวสี ใน 12 Years a slave (2013) โดย สตีฟ แม็คควีน ได้รับภาพยนตร์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในออสการ์ครั้งที่ 86 และล่าสุดเมื่อออสการ์ครั้งที่ 89 เรื่อง Moonlight (2016) โดย แบร์รี่ เจนกิ้นส์ และพิเศษไปกว่านั้นคือ Moonlight คือภาพยนตร์ที่มีนักแสดงเป็นผิวสีทั้งหมด !

9.ภาพยนตร์ที่ได้รับชื่อเข้าชิงมากที่สุด แต่ไม่ได้รางวัลซักสาขา (11 สาขา) ได้แก่ The Turning Point (1977) และ The Color Purple (1985) ตรงข้ามกับ Grand Hotel (1932) เข้าชิงแค่เพียง 1 สาขาและคว้าชัยชนะในสาขานั้นมาแบบกรุบ ๆ

10.ภาพยนตร์ที่มีความยาวกว่าครึ่งวัน รวมแล้ว 7 ชั่วโมง 47 นาที หรือ 467 นาที ได้แก่O.J.: Made in America (2016) ที่คว้ารางวัลในสาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม

11.แชมป์รางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ได้แก่ จอห์น วิลเลียม เข้าชิงมาแล้ว 52 ครั้ง คว้ารางวัลมาได้ 5 ครั้ง เขาเป็นบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่แล้วได้เข้าชิงมากที่สุดในประวัติศาสตร์

12.หนังเอเชียก็ไม่น้อยหน้า Crouching Tiger, Hidden Dragon  จากไต้หวัน ได้รับการเข้าชิงถึง 10 สาขา ในปี 2000 และคว้ารางวัลกลับมาให้ชาวเราได้ภูมิใจถึง 4 สาขา และในปีนี้ หนังสัญชาติเกาหลีอย่าง Parasite (2019) ก็ทำให้เราใจชื้น ร่วมกันลุ้นกันถึง 6 สาขา เลยทีเดียว!

13.Parasite (2019) ที่เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นับว่าเป็นหนังที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นลำดับที่ 12 และเป็นเรื่องที่ 2 ของประวัติศาสตร์ออสการ์ที่เป็นหนังจากฝั่งเอเชีย

14.Joker (2019) ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูน ได้เข้าชิงรางวัลมากที่สุดถึง 11 สาขา และเป็นเรื่องที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่เข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ถัดจาก Black Panther (2018)

15.ผู้กำกับอายุน้อย แต่ฝีมือคมกริบจนได้รางวัลออสการ์ในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม ได้แก่ เดเมียน ชาเซลล์ ในวัย 32 ปี จากหนังเรื่อง La La Land (2016)

16.ผู้ชนะอายุมากที่สุดในออสการ์ ได้แก่ คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ เขาได้รับรางวัลในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม เมื่อครั้งอายุ 82 ปี จากเรื่อง Beginners (2011) และยังทุบสถิติใหม่ เป็นบุคคลที่ได้รับชื่อเข้าชิงที่มีอายุมากที่สุดถึง 88 ปี ในสาขาเดิม จากเรื่อง All the Money in the World (2017) 

ในขณะเดียวกัน ดาราอายุน้อยที่สุดที่มีชื่อเข้าชิงออสการ์ ก็ได้แก่ เซียร์ชา โรแนน จากเรื่อง Little Women ด้วยวัยเพียง 25 ปี

17. การประกาศรางวัลผิดพลาด! เกิดขึ้นในออสการ์ครั้งที่ 89 ปี 2017 เมื่อมีการประกาศรางวัลสุดท้าย สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ที่ La La Land และ Moonlight ม้ามืดห้ำหั่นกันจนถึงวินาทีที่ประกาศว่า ‘La La Land’ ได้ เพียงแค่ 3 นาที ก็มีการประกาศใหม่ว่า ‘Moonlight คุณชนะหนังยอดเยี่ยม!’ ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันถึงต้นตอว่า ใครกันแน่ที่เป็นคนผิด

และยังมีความผิดพลาดอีกหนึ่ง ในการใส่ภาพของคนในวงการที่ล่วงลับไปแล้วผิดคนอีก ทำให้งานออสการ์ในตอนนั้นมีดราม่า เป็นที่ฮือฮาอยู่ทีเดียว

18.ดราม่า The Farewell ภาพยนตร์โดยผู้กำกับหญิงชาวจีน ลูลู่ หวาง ที่ตอนแรกคาดว่าจะได้เข้าชิงทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม สมทบหญิงยอดเยี่ยม และบทภายนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมนั้น ก็กลับไม่ได้เข้าชิงแม้แต่รางวัลเดียว! ทำให้เกิดการพูดถึงหนังพูดถึงผู้หญิงจากผู้กำกับหญิงอีก 4 เรื่องที่ถูกอสการ์เมินในปีนี้

19. #OscarsSoWhite ‘ซินเธีย เอริโว่’ จากเรื่อง Harriet (2019) เธอคือหญิงผิวสีเพียงคนเดียวที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง ซึ่งยังมีนักแสดงที่มีผลงานโดดเด่นอีกหลายเรื่องที่หลุดโผ จึงทำให้แฮชแท็กนี้กลับมาในปีนี้อีกครั้ง

20.Netflix มีเฮ! ทุบสถิติใหม่ ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 24 รางวัล มากกว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Walt Disney หรือ Sony Pictures กับเรื่อง Marriage Story, The Irishman, The Two Popes, I Lost My Body, Klaus,American Factory, The Edge of Democracy และ Life Overtakes Me

Ruby The Journey

อ้างอิง

1  / 2 /  

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0