โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

Q&A เปิดข้อสงสัยที่เด็กจบใหม่อยากรู้! กับ “การสมัครงานครั้งแรก”

LINE TODAY

เผยแพร่ 22 พ.ค. 2562 เวลา 10.00 น.

ช่วงนี้อาจจะยังมีน้องๆเด็กจบใหม่บางคน หรือ กำลังใกล้จะจบ กำลังมองหางานกันอยู่ แน่นอนว่าการสมัครงานครั้งแรก คงเป็นอะไรที่มืดแปดด้าน มีคำถามอยู่ในหัวเต็มไปหมด..จะต้องเตรียมตัวอย่างไร พูดอย่างไรให้ประทับใจ และได้งาน จะได้เงินเดือนเท่าไหร่ ? วันนี้ LINE TODAY ได้รวบรวมคำถามที่เด็กจบใหม่หลายคนสงสัยมาช่วยตอบให้ พร้อมกับแนะนำเทคนิคการสมัครงานจนถึงสัมภาษณ์ ที่จะทำให้คุณดูน่าสนใจในสายตาบริษัทที่คุณใฝ่ฝันแน่นอน!!

Q: เกณฑ์หลักในการคัดคนเข้าทำงาน?

A: - มีประสบการณ์การทำงาน/ฝึกงาน หรือ มีทักษะที่สอดคล้องกับงาน

    - มีทัศนคติที่ดี

    - ดูแล้วสามารถทำงานร่วมกับทีมได้

    - ดูมีความสามารถที่จะเติบโตต่อไปได้

    - มีวิธีการคิดที่ดี มีความซื่อตรง ซื่สัตย์ ซึ่งสามารถบอกได้จากสิ่งที่คุณพูดตอนสัมภาษณ์ว่าคุณมีแพชชั่นในงานนี้แค่ไหน

Q: บุคลิกภาพแบบไหนที่โดดเด่นและสามารถสร้างความประทับใจได้?

A: ความประทับใจแรกเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งสามารถบอกได้ ตั้งแต่คุณก้าวเท้าเข้ามา เริ่มทักทาย จนกระทั่งนั่ง บุคลิกท่าทางที่ดี พูดจาฉะฉาน ไม่ตะกุกตะะกักเป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างความประทับใจและทำให้เห็นถึงวิธีคิด ทักษะด้านการสื่อสาร อีกเรื่องคือ มารยาทพื้นฐาน อย่างการใช้สายตา สบตากับผู้สัมภาษณ์ น้ำเสียง คำพูด

Q: ควรแต่งกายอย่างไร?

A: ขึ้นอยู่กับที่ๆเราไปสมัครงาน แต่ควรดูน่าเชื่อถือ ไม่อย่างนั้นลองอะไรที่เบสิคแต่ดูโปร อย่าง สีขาว ดำ น้ำเงิน ผู้หญิงก็แต่งหน้าโทนสีสุภาพ ไม่จัดเกินไป แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือ ทัศนคติ ต่อให้คุณจะใส่ชุดที่ดูเยอะเกินไป แต่ทัศนคติคุณได้ ดูสมาร์ทก็ถือว่าผ่าน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเป็นตัวของตัวเองแต่ก็ต้องสุภาพ 

Q: ส่วนใหญ่จะถามเกี่ยวกับอะไรบ้าง การตอบคำถาม?

A: คำถามส่วนใหญ่ก็จะโฟกัสจาก job description เนื้องานที่เราต้องรับผิดชอบ

Q: เราควรตอบคำถามแบบเป็นตัวเองเลย หรือ ต้องตอบสิ่งที่คิดว่าดี ?

A: เป็นตัวเองดีที่สุด! ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการที่เราโกหก แล้วเค้ามารู้ที่หลัง ไม่ใช่ทุกที่จะใช่กับเรา และไม่ใช่ว่าเราจะใช่กับทุกที่ แต่หาที่ๆใช่ที่สุดสำหรับเราแล้วพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นจะเป็นผลดีกับเราในระยะยาวมากกว่า

Q: ทำ Resume ยังไงให้ไม่เหมือนใครและตรงใจ HR?

A: ขึ้นอยู่กับบริษัทและตำแหน่งงานที่เราไปสมัคร เราต้องเรียนรู้ที่จะขายตัวเองและทำตอนสัมภาษณ์ให้ดี เหมือนกับการขายงาน

อย่างแรก ต้องทบทวนกับตัวเองให้ดีก่อนว่าเราเคยทำอะไรมา ผ่านอะไรมาบ้าง เพื่อที่จะหาจุดเด่นของตัวเองมาขาย

อย่าโกหก หรือ ใช้คำที่เกินจริงมากเกินไป 

นำเสนออย่างชาญฉลาด แน่นอนว่าจบใหม่คงยังไม่มีประสบการณ์ทำงานที่จะเอาไปใส่ เราก็เอาวิชาที่เราเรียน กิจกรรมที่ทำ และประสบการณ์ที่ฝึกงานนั้นแหละมาใส่ ลองดูด้วยว่าสิ่งไหนที่เราเขียนลงไปแล้วเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่ไปสมัคร

จะทำให้เราดูน่าสนใจมากขึ้น แล้วก็อย่าลืมยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพในสิ่งที่คุณทำ แต่จำไว้ว่า เรซูเม่เป็นเพียง 20 % ของทั้งหมด อีก 80% อยู่ที่การสัมภาษณ์

Q: ถ้าต้องแนะนำตัวควรพูดอะไรบ้าง?

A: เราต้องเตรียมตัวให้ดีว่าจะพูดอะไร เพราะนี่เป็นคำถามคลาสิคที่ HR จะถามคุณ ถ้าเรายังไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานมาก่อนก็อาจจะพูดถึงประวัติการศึกษา กิจกรรมที่เราเคยทำที่จะสอดคล้องกับตำแหน่งงานและแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่อยากจะร่วมงานกับบริษัทนั้น พูดให้ชัดเจน ขายตัวเองให้เป็น และการถามกลับ จะทำให้คุณดูฉลาดขึ้น แต่คำถามที่ไม่ควรถาม คือคำถามที่คุณสามารถไปค้นหาคำตอบได้ในอินเตอร์เน็ต

Q: เงินเดือนสตาร์ทเท่าไหร่?

A: ฐานเงินเดือนปัจจุบันของเด็กจบใหม่ อยู่ที่ 15,000 ขึ้นไป

รู้อย่างงี้แล้วก็มาเริ่มขั้นตอนต่อไปกันเลย คือการสมัครงาน และ สัมภาษณ์ยังไงให้เราดูโปรถึงแม้จะเป็นเด็กจบใหม่!

การสัมภาษณ์งานก็เหมือนการขายของ โดยลูกค้าของเราก็คือ HR วันนี้เราจะแนะนำ 4 ขั้นตอนในการขายตัวเองให้ได้งาน!!

ขั้นแรก เริ่มจากการ pre-sale

First Impression จะเริ่มขึ้นตั้งแต่คุณเริ่มติดต่อ HR ไม่ว่าจะทางอีเมล หรือโทรศัพท์

อีเมลที่จะส่งถึง HR ควรใส่อะไรบ้าง?

- ควรระบุหัวข้อให้ชัดเจนว่าเราจะมาสมัครตำแหน่งอะไร Application for (ตำแหน่ง) มากกว่าที่จะเขียนแค่ I want to apply for a job

- ไม่ควรเริ่มต้นด้วยคำว่า Hi , Hello หรือ Dear Admin เพราะจะทำให้เราดูไม่โปร ควรจะใช้คำว่า Dear Human Resource Department หรือ Dear…(ชื่อบริษัท) หรือDear khun… (ถ้ารู้ชื่อของคนที่เราจะส่งอีเมลหา)

- การแนบ Resume ใส่ในอีเมลมาอย่างเดียวเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ อย่างน้อย ควรจะเขียนแนะนำตัวและบอกตำแหน่งที่เราจะสมัคร และควรส่ง Resume มาเป็นไฟล์ pdf.

ขั้นสอง ก่อนขาย การเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งาน

- ศึกษาบริษัทที่เราจะไปสัมภาษณ์งานด้วย 

- “รู้เขารู้เรารบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ด้วยความที่เป็นเด็กจบใหม่ ก็คงยังไม่มีประสบการณ์หรืออะไรให้ไปพูดเยอะ อย่างน้อยถ้าเราทำการบ้าน หาข้อมูลของบริษัทที่เราจะไปสัมภาษณ์มาก่อน จะทำให้เราดูเตรียมตัวและน่าสนใจมากขึ้น

เรื่องที่ควรรู้

1.บริษัทนั้นทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร?

2.วัฒนธรรมองค์กร หรือ วิสัยทัศน์ของบริษัท

3.ข่าวสารล่าสุดและผลงานของบริษัท

4.คนที่สัมภาณ์เรา (โดยเฉพาะถ้าเป็นระดับหัวหน้าที่จะเป็นคนตัดสินว่าเราจะได้งานนี้ไหมและเขาเคยออกสื่อบ้าง)

ข้อมูลเหล่านี้เราควรเริ่มจากไปหาตามหน้า เพจ หรือ เว็ปไซต์ของบริษัท แต่ถ้าหาไม่เจอก็ลองเอาชื่อ บริษัท ทั้งภาษาไทยและอังกฤษไปค้นหาใน googleได้ 

- ศึกษาตำแหน่งงานที่จะสมัคร

อย่างน้อยเราควรจะรู้คร่าวๆว่า งานที่จะไปทำ มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอะไรบ้างในแต่ละวันเพื่อที่เราจะได้หาจุดเด่นของตัวเองที่สอดคล้องกับงานที่ต้องทำ มาขายให้กับ HR

- เตรียมเอกสารและ ผลงาน portfolio

สิ่งที่ควรต้องมีก็คือ Resume กับ Transcript

และจะดีเข้าไปอีกถ้ามี portfolio โดยเฉพาะ portfolio ที่เอาบริษัทที่เราไปสัมภาษณ์งานมาทำให้ดูเป็นตัวอย่าง

- เตรียมคำตอบ

ลองไปค้นหาคำถามที่ HR มักจะถามเวลาไปสัมภาษณ์งาน เช่น การแนะนำตัว จุดเด่น จุดด้อย

- เก็งคำถามเอง โดยดูจากตำแหน่งและเนื้องานที่เราจะไปทำ และลองคิดว่าถ้าเราเป็นหัวหน้าเราจะอยากถามคนที่มาสมัครงานกับเราว่าอะไร

ถามจากรุ่นพี่หรือเพื่อนที่เป็นนักล่างาน ถ้าเป็นสนามแรกของเรา ลองไปถามจากคนที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ว่าพวกเขาเคยโดนคำถามแบบไหนกันมาบ้าง อย่างน้อยเราจะได้มีไกด์คำถามไว้ในหัว ว่าที่ไหนเค้าถามแบบไหนกันบ้าง เพราะแต่ละที่อาจจะมีคำถามยิบย่อยที่แตกต่างกัน

หลังจากลองไกด์คำถามแล้ว เราก็ต้องมานั่งเตรียมคำตอบ เพราะบางที่เมื่อเราเข้าไปในห้องสัมภาษณ์อาจจะเกิดอาการประหม่า คิดไม่ออก ตอบไม่ถูก เพราะฉะนั้นการเตรียมไปก่อนจะทำให้เรารู้ว่าเรื่องไหนที่เราควรจะหยิบขึ้นมาพูด เรื่องไหนไม่จำเป็นต้องหยิบมา และจะได้มีเวลาเรียบเรียงประโยคให้ดูน่าสนใจและตรงประเด็น

- ซ้อมสร้างความมั่นใจ

การซ้อมคำตอบต่างๆที่เราคิดไว้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เชื่อเถอะว่าเมื่อเราเข้าไปในห้องสัมภาษณ์เราไม่สามารถพูดทุกอย่างได้อย่างไหลลื่น 100 เปอร์เซ็น เหมือนกับตอนซ้อมหรือตอนที่เขียนลงไปในกระดาษหรอก เพราะฉะนั้นการซ้อมจะช่วยลดความผิดพลาดในการพูดตะกุกตะกักและ การตอบได้อย่างไหลลื่นและครบถ้วนจะทำให้เราดูบุคลิกดีและมั่นใจ

ขั้นที่สาม ขายของ (สัมภาษณ์งาน)

- การแต่งตัว

การแต่งตัวให้สุภาพ เหมาะสมกับงานและสถานที่ก็ถือเป็น First Impression ที่ดีสำหรับการเจอกันครั้งแรก

- บุคลิก

อย่างน้อยๆ การมองหน้าคนสัมภาษณ์ พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ไม่ยุกยิก ก็ทำให้เราดูบุลิกดีขึ้นมาได้แล้ว

- การตอบคำถาม

สิ่งสำคัญคือ การตอบให้ตรงคำถาม! ก่อนจะตอบลองคิดให้ดีก่อนว่าเค้าถามอะไรและตอบให้ตรงประเด็น

- การถามคำถาม

ไม่ใช่แค่คนที่สัมภาษณ์เราจะถามคำถามได้อย่างเดียว เราก็สมารถถามกลับได้เหมือนกัน เพราะสิ่งนี้ก็จะเป็นตัวสะท้อนความชาญฉลาดและทัศนคติของเราได้เช่นกัน สิ่งที่คุณไม่ควรถามเช่น จะได้งานนี้มั้ย ไม่งั้นจะดูไม่มีกาละเทศะเพราะเค้าก็ต้องใช้เวลาไปพิจารณาคนอื่น หรือ โบนัสกี่เดือน ลาได้กี่วัน เพราะจะทำให้คุณดูแคร์แต่ผลประโยชน์ของตัวเอง จริงๆเรื่องผลประโยชน์สามารถถามได้เพื่อความชัดเจน แต่ไม่ควรเอามาเป็นเรื่องแรกที่คุณจะถาม

และสิ่งที่ควรถามกลับคือ ความคาดหวังที่บริษัทมีต่อตัวคุณ 2. ลักษณะงานที่คุณจะได้ทำ (ถ้าบริษัทยังไม่ได้บอก) 3. กฏระเบียบของบริษัท และผลประโยชน์ต่างๆ

ของแถม (เตรียมตัวทำงานเมื่อได้รับเข้าทำงาน)

ก่อนที่จะเริ่มงานควรที่จะเตรียมตัว มาศึกษาเกี่ยวกับบริษัทและงานที่จะทำ เพื่อที่คุณจะได้ดูเป็นเด็กจบใหม่ที่พร้อมใข้งาน!

ถ้าลองทำตามเทคนิคเหล่านี้ก็คงเพิ่มโอกาสให้คุณเป็นคนที่โดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้นแน่นอน! 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0