บลจ.พรินซิเพิล ชี้ภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามปีที่ผ่านมาเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค และIMF คาดการณ์ปีนี้จะเติบโตในระดับสูงกว่า 6.5% จากการกลับมาเปิดประเทศและการขยายตัวของภาคการผลิต หนุนกระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) แนะกระจายการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามผ่าน ‘กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้’ หรือ Principal Vietnam Equity Fund (PRINCIPAL VNEQ) ที่มีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามโดยตรง ชูผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 44% สูงกว่าดัชนีชี้วัด VN30TR Index ที่ให้ผลตอบแทน 37.14%
นายจุมพล สายมาลาประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามปีที่ผ่านมาถือว่ามีการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนามได้รายงานตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) เติบโตถึง 2.91% แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้าง ภาคการผลิตเติบโต การส่งออกที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนค่าแรงที่ถูก ขณะที่ในปี 2021คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะกลับมาเติบโตในระดับสูงกว่า 6.5% (IMF, March 10, 2021)
(นายจุมพล สายมาลา)
ปัจจัยที่ทำให้เวียดนามเป็นประเทศที่น่าลงทุนและเกิดกระแสไหลเข้าของการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (Foreign Direct Investment : FDI) เนื่องจากได้รับประโยชน์จากภาวะสงครามการค้าส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายฐานการผลิต ประกอบกับเวียดนามได้ทำข้อตกลงทางการค้าจำนวนมาก เช่น CPTPP, RCEP, EVFTA เป็นต้น รวมถึงมีต้นทุนค่าแรงต่ำเมื่อเทียบกับจีนและไทย โดยผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Intel ได้ขยายการลงทุนด้านชิพคอมพิวเตอร์, Apple
เพิ่มตัวเลขการผลิตสินค้ากลุ่ม iPhone และ iPad, LG Display ขยายการผลิต OLED อีก 750 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนในเวียดนามปรับเพิ่มขึ้นและเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดัน GDP เวียดนามเติบโตมากกว่า 50% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา รวมถึงรายได้ชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นและสังคมเมืองจะเป็นตัวเร่งการเติบโตในภาคเอกชน (ที่มา : CS)
นายจุมพล กล่าวต่อว่า ปัจจุบันดัชนีตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม (VN Index) อยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุน โดยคาดการณ์ P/E 12MFwd ที่ 14 เท่า ถือว่ามี Valuation ที่ถูกกว่าประเทศเกิดใหม่อื่นๆ และคาดว่าจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยของกำไรต่อปี CAGR ในปี 2020 – 2022 อยู่ที่ประมาณ 20% (ที่มา: Bloomberg, March 25, 2021) นอกจากนี้นับจากที่ดัชนี MSCI ได้อัพเกรดประเทศคูเวตเข้าสู่ MSCI Emerging Index เมื่อปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เวียดนามกลายเป็นประเทศที่มีน้ำหนักมากที่สุดใน MSCI Frontier Index คาดว่าจะส่งผลเกิดกระแสเงินต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเวียดนาม และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้นจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม (ที่มา CGS-CIMB, Dec 2020)
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเวียดนามมีโอกาสเข้าคำนวณ MSCI Emerging Market จะมาจาก 2 ปัจจัยหลักคือ 1.การแก้ไขกฎระเบียบการถือหุ้นครองหุ้นของชาวต่างชาติหรือ Foreign Ownership Limit Issue (FOL) เช่น NVDR สำหรับนักลงทุนต่างชาติ การเพิ่มสัดส่วนลงทุนของชาวต่างชาติในบริษัทจดทะเบียน เป็นต้น 2.การจัดตั้งระบบคู่สัญญากลางและปรับปรุงระบบให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น การอนุญาต Short Sale และ Day Trading
จากศักยภาพของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นเวียดนาม บลจ.พรินซิเพิล แนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามผ่านกองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ - Principal Vietnam Equity Fund (PRINCIPAL VNEQ) โดยเป็นกองทุนกองแรกในไทยที่เข้าลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้นเวียดนาม (Direct Investment) บริหารโดยทีมจัดการลงทุนไทยและนักวิเคราะห์ชาวเวียดนาม ผสานความร่วมมือกับทีมจัดการลงทุน Regional Investment Team ของกลุ่ม Principal Asset Management เพื่อให้ได้ข้อมูลทั้งในระดับมหภาค และวิเคราะห์ศักยภาพของหุ้นที่จะเข้าลงทุน โดยใช้ VN30 ซึ่งประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 30 บริษัทฯ เป็นเกณฑ์ชี้วัด โดยมีตัวอย่างหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนเต็มเพดานสัดส่วนการลงทุนที่กำหนด เช่น FPT Corporation ผู้นำด้านธุรกิจไอทีเอาท์ซอร์สซิ่งและบริการด้านเทเลคอม, Techcombank ธนาคารเอกชนที่มีขนาดใหญที่สุดในเวียดนามและมีแพลตฟอร์มดิจิทัล แบงกิ้งรวมถึงบริการที่หลากหลาย
สำหรับกองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ (PRINCIPAL VNEQ) โดยมีนโยบายลงทุนในหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เวียดนามที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดีในอนาคต และอาจลงทุนในกองทุนรวมอื่นๆ ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวม ETF ที่เน้นลงทุนในหุ้นประเทศเวียดนาม โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ขณะที่ผลการดำเนินงานของกองทุนพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ Class-A (PRINCIPAL VNEQ-A) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 44% สูงกว่าดัชนีชี้วัด VN30TR Index ที่ให้ผลตอบแทน 37.14% และให้ผลตอบแทน Year to Date 12.48% สูงกว่าดัชนีชี้วัดที่ให้ผลตอบแทน 11.31% (ที่มา : www.principal.th , February 28, 2021)
ทั้งนี้ กองทุนกองทุนพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ Class-A กำหนดลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท ผู้ที่สนใจติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ ตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืน และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด โทร. 02 686 9595 หรือ www.principal.th หรือ Principal TH Mobile App
ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุนรวมพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณสินค้า (กองทุนรวม) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
กองทุน PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย
กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินทุนเริ่มแรกได้/ บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน https://www.principal.th/th/mutual-fundthก่อนตัดสินใจลงทุน