หลังจากที่ค่ายต่างๆ เริ่มเปิดตัวเรือธงของตัวเองกันไปแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาของทาง OnePlus กันบ้าง โดยทาง OnePlus ได้กลับมากับ OnePlus 7T ซีรีย์ จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีจอแบบ 90Hz ให้สัมผัสที่ลื่นไหลไม่มีสะดุดต่างจากที่เคยเป็น
"จอ 90Hz ลื่นกว่ายังไง? ก็ประมาณนี้"
"ตัวอย่างจอทางด้านซ้ายแบบ 90Hz จะเร็วกว่า 60Hz แบบปกติ"
งานเปิดตัวทางการในครั้งนี้ได้แก่รุ่น OnePlus 7T, OnePlus 7T Pro แถมยังมีเซอร์ไพรส์พิเศษให้แก่แฟนๆ ใน OnePlus 7T Pro รุ่นลิมิเต็ด McLaren Edition ที่ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบที่ถอดมาจากรถไฮเปอร์คาร์ McLaren ที่เรารู้จักกัน ส่วนราคาเปิดตัวเริ่มต้นก็ออกมาได้อย่างเป็นมิตร ตามด้านล่างนี้
- OnePlus 7T - 17,990 บาท
- OnePlus 7T Pro - 26,990 บาท
- OnePlus 7T Pro (McLaren Edtion) - 29,990 บาท
- Bullet Wireless 2 (Olive Green) - 3,740 บาท
สำหรับวันวางจำหน่ายทาง OnePlus ประเทศไทยได้วางจำหน่าย OnePlus 7T Pro เป็นที่เรียบร้อย ส่วน OnePlus 7T เปิดให้จองระหว่าง 22-28 ตุลาคม และวางจำหน่ายวันที่ 1 พฤศจิกายน ส่วน 7T Pro McLaren Edition กับหูฟัง Bullet Wireless 2 คงต้องรอกันไปก่อนน่าจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้
แต่สำหรับใครที่อดใจรอไม่ไหวทางทีมงานไทยแวร์มีรายละเอียดสเปคและภาพจริงมาให้ชมกันคร่าวๆ ไปดูพร้อมๆ กันเลย
พรีวิว OnePlus 7T และ 7T Pro พร้อมรุ่นลิมิเต็ด
ฟีเจอร์เด่นๆ ของ OnePlus 7T
- ซีพียูเรือธง Snapdragon 855+
- จอไร้ขอบ 90Hz ไหลลื่นไม่มีสะดุด
- จอสวยสีสันสดใส ความละเอียดสูง
- กล้องหลัง 3 ตัวมีหลายระยะให้เลือกใช้
- ระบบ Warp Charge 30T ชาร์จเร็วขึ้น
- ลำโพงสเตอริโอคู่ Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ความจุ 3,800mAh ใช้ได้นาน
ฟีเจอร์เด่นๆ ของ OnePlus 7T Pro
- ซีพียูเรือธง Snapdragon 855+
- จอไร้ขอบแบบ 90Hz ลื่นไหลไม่มีสะดุด
- กล้องหน้า Pop-up 16 MP แข็งแรง
- กล้องหลัง 3 ตัวมีหลายระยะให้เลือกใช้
- ถ่ายวีดีโอด้วยเลนส์ Wide ได้
- ระบบ Warp Charge 30T ชาร์จเร็วขึ้น
- แรมจุใจ 8GB/12GB (McLaren)
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,085mAh ใช้ได้ตลอดวัน
ข้อดี
- เรือธงสเปคดี ราคาจับต้องได้
- จอแบบ 90Hz ไหลลื่นกว่าปกติ
- กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียดสูง
- ชาร์จเร็วขึ้น Warp Charge 30T
- แรมจุใจ 8GB
ข้อสังเกต
- กล้องยังไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร
- ไม่มีช่องใส่หูฟัง 3.5mm
- ใส่ความจำเพิ่มไม่ได้
สเปคของ OnePlus ทั้ง 3 รุ่น
Model OnePlus 7T OnePlus 7T Pro OnePlus 7T Pro McLaren จอแสดงผล
6.55 นิ้ว แบบ 20:9
Fluid AMOLED 402 ppi
รีเฟรชเรท 90Hz
3D Corning Gorilla Glass
รองรับ HDR 10+, DCI-P3 100
6.67 นิ้ว
แบบ 19.5:9Fluid AMOLED 516 ppi
รีเฟรชเรท 90Hz
3D Corning Gorilla Glass
รองรับ HDR 10+, DCI-P3 100
6.67 นิ้ว
แบบ 19.5:9Fluid AMOLED 516 ppi
รีเฟรชเรท 90Hz
3D Corning Gorilla Glass
รองรับ HDR 10+, DCI-P3 100ซีพียู
Qualcomm Snapdragon 855+
Adreno 640
Qualcomm Snapdragon 855+
Adreno 640
Qualcomm Snapdragon 855+
Adreno 640แรม
8GB LPDDR4X
8GB LPDDR4X
12GB LPDDR4Xความจุ
128GB/256GB
UFS 3.0
256GB
UFS 3.0 2-Lane
256GB
UFS 3.0 2-Laneกล้องหลัง
48 ล้านพิกเซล F/1.6
(Normal) IMX 58612 ล้านพิกเซล F/2.2 (Telephoto)
16 ล้านพิกเซล F/2.2 (Ultrawide)
48 ล้านพิกเซล F/1.6
(Normal) IMX 58612 ล้านพิกเซล F/2.2 (Telephoto)
16 ล้านพิกเซล F/2.2 (Ultrawide)
48 ล้านพิกเซล F/1.6
(Normal) IMX 58612 ล้านพิกเซล F/2.2 (Telephoto)
16 ล้านพิกเซล F/2.2 (Ultrawide)กล้องหน้า
16 ล้านพิกเซล F/2.0
เซ็นเซอร์ Sony IMX471
Notch ติ่งหยดน้ำ
16 ล้านพิกเซล F/2.0
เซ็นเซอร์ Sony IMX471
กล้อง Pop-up
16 ล้านพิกเซล F/2.0
เซ็นเซอร์ Sony IMX471
กล้อง Pop-upแบตเตอรี่
3800mAh
พร้อม Warp Charge 30T
4085mAh
พร้อม Warp Charge 30T
4085mAh
พร้อม Warp Charge 30Tระบบปฏิบัติการ
Oxygen OS บน Android 10
Oxygen OS บน Android 10
Oxygen OS บน Android 10ระบบปลดล็อก
สแกนนิ้วใต้จอ
สแกนใบหน้า
สแกนนิ้วใต้จอ
สแกนใบหน้า
สแกนนิ้วใต้จอ
สแกนใบหน้าอื่นๆ
ช่องเสียบ USB 3.1 Type-C
ซิมคู่ nanoSIM
ลำโพง Stereo คู่ Dolby Atmos
ระบบสั่น Haptic
NFC
ช่องเสียบ USB 3.1 Type-C
ซิมคู่ nanoSIM
ลำโพง Stereo คู่ Dolby Atmos
ระบบสั่น Haptic
NFC
ช่องเสียบ USB 3.1 Type-C
ซิมคู่ nanoSIM
ลำโพง Stereo คู่ Dolby Atmos
ระบบสั่น Haptic
NFCสี
Frosted Silver
Glacier Blue
Haze Blue
Papaya Orangeราคาเริ่มต้น
17,990
26,990
29,990
OnePlus 7T
สำหรับ OnePlus 7T ตัวนี้ จะเป็นเรือธงรุ่นเริ่มต้นที่อัพเกรดประสิทธิภาพมาจาก 6T รุ่นก่อน มีราคาถูกกว่าตัว Pro ในส่วนของประสิทธิภาพที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดก็จะเป็นจอ 90Hz แสดงผลได้ลื่นกว่าแบบปกติ 60Hz ที่เราใช้กันทั่วๆ ไป
ทาง OnePlus 7T ก็ได้เลือกใช้เทคโนโลยี Fluid AMOLED ขนาด 6.5 นิ้วในสัดส่วน 20:9 เหมาะสำหรับการดูหนังภาพยนตร์ แถมยังรองรับการแสดงผล HDR10+ เมื่อเปิดวีดีโอบน Youtube หรือ Netflix ที่รองรับ วีดีโอจะแสดงผลสีได้สมจริงยิ่งกว่าเดิม
–
สี OnePlus 7T
OnePlus 7T จะมีสีให้เลือกซื้อถึงสองสีด้วยกันได้แก่ Glacier Blue และ Frosted Silver เป็นสีบนผิวอลูมิเนียม
–
กล้อง OnePlus 7T
แน่นอนว่าต้องมีจุดเด่นเรื่องกล้อง 3 เลนส์แบบที่เรือธงทางค่ายอื่นๆ มีกัน ในส่วนของรายละเอียด ทาง OnePlus กล้องหน้าในรุ่นนี้จะอยู่บนจอตามปกติเป็นรูปแบบติ่งหยดน้ำ (Notch Waterdrop) พร้อมเซ็นเซอร์ Sony IMX 471 ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
จุดเด่นของกล้องหลังตัวนี้ที่ได้รับการอัพเกรดมาจากรุ่นก่อนคือ การถ่ายวีดีโอแบบ Ultrawide 117 องศา แถมยังรองรับกันสั่นภายในตัวกล้องอีกด้วย ส่วนกล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล กล้องถ่ายระยะไกลสามารถซูมได้ 2 เท่าแบบไม่เสียรายละเอียด นอกจากนี้ยังรองรับการถ่าย Macro และการถ่ายกลางคืนได้ดีขึ้นด้วยซอฟต์แวร์ Nightscape 2.0 อีกด้วย
–
ประสิทธิภาพ OnePlus 7T และ 7T Pro
OnePlus 7T และ 7T Pro ทั้งสองรุ่นนี้ใช้ซีพียู Snapdragon 855 Plus รุ่นเดียวกันมีประสิทธิภาพกว่ารุ่นก่อนถึง 15% แถมยังเลือกใช้ความจุแบบ UFS 3.0 2-Lane 128GB และ 256GB ในรุ่น Pro ซึ่งเป็นความจุที่เร็วที่สุดในขณะนี้ แรมที่มีก็ให้มาถึง 8GB เปิดใช้งานหลายแอปฯ ได้
เรื่องการชาร์จ OnePlus 7T ซีรีย์ ได้รับการอัพเกรดจาก Warp Charge 30 แบบเดิมให้กลายเป็น 30T ชาร์จได้ไวกว่าเดิมถึง 23% ชาร์จเพียงแค่ 30 นาที ก็ได้แบตฯ มากถึง 70% เลยคงถูกใจคงที่ไม่ชอบชาร์จเป็นเวลานานๆ
ลำโพงเป็นแบบ Stereo สองทิศทาง มาตรฐาน Dolby Atmos เสียงขับเต็มพลังเปิดดังๆ ระหว่างดูหนังฟังเพลงได้อารมณ์กว่าเดิม ในตัวเครื่องเปลี่ยนระบบสั่นเป็นแบบ Haptic ให้สัมผัสสั่นแบบใหม่ เล่นเกมส์รู้สึกถึงการสั่นได้ดีขึ้น
–
สี OnePlus 7T Pro
สีของ OnePlus 7T Pro เป็นสีใหม่สีฟ้า Haze Blue แบบเมฆหมอก สมดังชื่อที่ตั้ง
–
McLaren Edition
แฟนๆ และนักข่าวสื่อมวลชนต่างก็เซอร์ไพรส์ทั้งงาน เมื่อ OnePlus ประกาศโซนให้ทดลองเครื่องที่ตามปกติจะมีแต่ตัวเครื่องโทรศัพท์ให้ได้ลองใช้กัน แต่ในงานนี้มี McLaren Edition ทั้งที ก็เลยมีรถ McLaren จริงๆ ให้ยลโฉมกันด้วย
สำหรับสเปคของ OnePlus 7T Pro (McLaren Edition) ตัวนี้ได้รับการอัพเกรดแรมให้กลายเป็น 12GB จากรุ่นปกติที่มีเพียงแค่ 8GB และยังไม่หมดเพียงแค่นั้นอุปกรณ์ภายในกล่องที่ได้รับก็ยังมีแบบพิเศษทั้งเคส, สายชาร์จ, ตัวอะแดปเตอร์สีเจ็บจริงๆ
–
สี McLaren Edition
ที่มาของสี McLaren Edition นั้นได้ต้นแบบมาจากสี Papaya Orange ที่ใช้กับรถ McLaren แบบเดียวกันเลย จะได้เห็นจากขอบๆ รอบเครื่องและรอบกล้องจะมีสี Papaya Orange แซมไว้ ส่วนฝาหลังก็จะมีลายผิวพิเศษเวลาสะท้อนกับแสง
–
มี UI เฉพาะเป็นของตัวเอง
นอกจากเรื่องดีไซน์ลายตัวเครื่องและสี ภายในยังมี Theme UI แบบพิเศษที่ออกแบบมาให้ใช้กับ McLaren รุ่นนี้ ซึ่งเพื่อนๆ ก็จะเห็นได้ว่าสีและการออกแบบมีการแต่งเติมสี Papaya Orange เข้าไปให้สมกับรุ่นลิมิเต็ด
ตัวเครื่องจริงภายในงาน
–
OnePlus 7T
เรือธงรุ่นเริ่มต้น OnePlus 7T มีสองสีให้เลือก หน้าจอด้านหน้ามีติ่งเล็กๆ ถือว่าน้อยกว่ารุ่นก่อนๆ ไม่เกะกะสายตา ด้านหลังมีกล้อง 3 เลนส์อยู่รวมกันในวงกลม สีเป็นเหล็กเงาๆ เมื่อสะท้อนแสง บอดี้แบบนี้เช็ดรอยนิ้วมือง่าย
ด้านท้ายเครื่องจะมีช่องเสียบ USB-C และช่องใส่ซิมแบบ Nano-SIM ด้านบนจะเป็นรูใส่ไมค์ เสียดายที่รุ่นนี้ไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 ใครที่ชอบฟังเพลงแบบเดิมอาจจะต้องซื้ออุปกรณ์เสริมมาต่อหรือใช้แบบไร้สายแทน
ปุ่มด้านข้างสามารถปรับฟังก์ชันสั่น / เงียบ / เปิด-ปิด เสียงเรียกเข้าได้ ปุ่มฝั่งขวานั้นจะเป็นปุ่มเปิดเครื่อง ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นปุ่มเพิ่มเสียงและลดเสียง ตามปกติทั่วไป
–
ตัวอย่างมุมกล้อง OnePlus 7T
กล้องหลังของ OnePlus 7T มี 3 เลนส์ปรับมุมกล้องได้ โดยรวมถือว่าทำได้ดี แต่ความรู้สึกตอนใช้งานกล้องหน่วงแปลกๆ ถึงแม้จอภาพจะแสดงผลได้ถึง 90Hz แต่ก็ไม่สามารถแสดงผลได้ตอนถ่ายภาพนิ่ง ไม่เร็วอย่างที่คิดในตอนแรก
–
OnePlus 7T Pro
สำหรับตัวเครื่องจริงภายในงาน OnePlus 7T Pro ก็มีแพ็คเกจกล่องมาในแบบที่เห็น ดูเรียบง่ายมีเอกลักษณ์ดี ด้านหลังของตัวเครื่อง OnePlus 7T Pro นั้นจะเป็นกล้องเรียงแถวเดียวยาวๆ ตรงด้านบนเครื่อง ตามด้วยแฟลช
ด้านหน้าเครื่องของ OnePlus 7T Pro จะเป็นจอแบบไร้ขอบแบบฉบับดีไซน์ในยุคนี้ กล้องหน้าตัวนี้เป็นแบบ Pop-up ซ่อนอยู่ในเครื่องต่างจากรุ่น 7T ปกติ ทาง OnePlus บอกว่ากล้องหน้านั้นแข็งแรงมาก ใครใช้งานบ่อยๆ ไม่ต้องกลัวหักเลย
–
ตัวอย่างมุมกล้อง OnePlus 7T Pro
สำหรับกล้องบน OnePlus 7T Pro ใช้เซ็นเซอร์แบบเดียวกับ OnePlus 7T แต่น่าจะได้รับการปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า ถ้าอิงตามสเปคที่เห็นได้ชัดก็จะมีการซูมแบบ Optical ตัว Pro จะซูมได้ 3 เท่าแบบไม่เสียรายละเอียดในขณะที่ 7T ธรรมดาซูมได้แค่ 2 เท่า
–
OnePlus 7T Pro (McLaren Edition)
ยอมจริงๆ กับดีไซน์ระดับนี้ ได้ข่าวว่า OnePlus 7T Pro (McLaren Edition) เริ่มต้นการออกแบบภายในและดีไซน์เทียบเท่าการออกแบบที่ทำให้กับรถ McLaren ถือว่าเป็นมือถือที่ถอดการออกแบบจากรถยนต์มาได้สวยงามตัวนึงเลยเหมือนกันนะครับ
ด้านหลังเครื่องกล้องจะเป็นทรงเดียวกับ OnePlus 7T Pro ต่างกันที่สีกับลายเครื่อง รอบเครื่องและกล้องจะมีขอบสีส้ม Papaya Orange หลังฉาบด้วยสีลายไม้ (ลายบนพวงมาลัยรถ McLaren) เวลาสะท้อนแสงก็จะเห็นตามภาพ ถือปกติก็จะเป็นสีดำ
อุปกรณ์ที่แถมมาให้ก็เช่นกัน แถมมาให้ครบชุดเอาใจแฟนๆ รถสปอร์ตและไฮเปอร์คาร์อย่าง McLaren นี้จริงๆ
สรุป
สมาร์ทโฟน OnePlus 7T และ 7T Pro เป็นมือถือเรือธง (Flagship) ราคาเป็นมิตรที่ยกระดับมาตรฐานจอแสดงผลขึ้นเป็น 90Hz ในขณะที่ค่ายอื่นๆ ยังไม่ใช้การแสดงผลแบบนี้ยังคงเป็น 60Hz ตามปกติ ลื่นแบบที่เรารู้สึกได้ เวลาปัดเลื่อน เล่นเกมส์ ดูหนัง จอจะลื่นไวกว่าปกติให้ความรู้สึกที่เพลิดเพลินตากว่าเดิม สเปคก็จัดมาเต็มทั้ง Snapdragon 855 Plus แรม 8GB/12GB ความจุ 128GB/256GB
เรื่องกล้องก็มีจุดเด่นที่อัดวีดีโอภาพมุมกว้าง Ultrawide ได้ต่างจากรุ่นเก่า 6T ที่อัดไม่ได้ ส่วนกล้องหน้าของรุ่น 7T Pro ก็มีความแข็งแรงใช้งานได้ไม่ต้องกลัวหัก ด้านการใช้งานทั่วไปสเปคขนาดนี้ก็เหลือๆ ใช้งานได้ตลอดวันที่แจ่มกว่าค่ายอื่นๆ ก็คงจะเป็นเรื่องการชาร์จเร็ว 70% ได้ภายใน 30 นาที
ที่เหลือคงเป็นเรื่องไลฟ์สไตล์การใช้งานและความชอบของผู้ใช้งานเอง หากเพื่อนๆ มองหาเรือธงที่มีดีเรื่องชาร์จเร็ว, ตัวเครื่องเป็นรอยนิ้วมือยาก, สีเครื่องแปลกตา, กล้อง 3 เลนส์กันสั่น และ กล้องหน้าแข็งแรง เจ้า OnePlus 7T, 7T Pro และ รุ่น McLaren Edition ก็คงเป็นตัวเลือกให้ได้เหมือนกัน