โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

OSPเทรดวันแรกคึกคัก ปิดตลาดเช้าพุ่ง13% “เพชร”มั่นใจโตกว่าจีดีพี1.5-1.7%

Money2Know

เผยแพร่ 17 ต.ค. 2561 เวลา 05.52 น. • money2know - เงินทองต้องรู้
OSPเทรดวันแรกคึกคัก ปิดตลาดเช้าพุ่ง13% “เพชร”มั่นใจโตกว่าจีดีพี1.5-1.7%
โอสถสภา หรือ OSP เปิดซื้อขายวันแรกพุ่ง ปิดตลาดช่วงเช้าเพิ่ม 13% มูลค่าซื้อขายทะลักกว่าหมื่นล้าน "เพชร"มั่นใจรายได้-กำไรโตไม่ต่ำกว่าอุตสาหกรรม และมากกว่าจีดีพีประเทศ 1.5-1.7%

บมจ.โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ปิดตลาดช่วงเช้า เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ 13.00% อยู่ที่ 28.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 11,272.73 ล้านบาท โดยราคาวิ่งไปแตะสูงสุดที่ 30 บาท

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งได้ที่ทาง บมจ.โอสถสภา ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพราะคุณภาพของโอสถสภา ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมากกว่าร้อยปีนั้น จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ สอดคล้องกับเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้มีการกระจายรายได้ไปสู่สังคม กระตุ้นให้มีกำลังซื้อให้เศรษฐกิจหมุนเวียนอีกด้วย

บมจ.โอสถสภา มีมูลค่ารวม 15,094 ล้านบาท เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน SET จะมีมูลค่าตามราคาตลาด(Market Capitalization) อยู่ที่ 75,094 ล้านบาท ถือเป็นสถิติสูงสุดของตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “OSP” มีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด(มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินร่วมและผู้จัดจำหน่าย รับประกันการจำหน่าย

ด้านนายเพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ตื่นเต้น เป็นวันที่ดีสำหรับพนักงานทุกคน ที่เราจะได้ก้าวต่อไปอีกขั้นหนึ่ง

ทางบริษัทจะนำเงินของนักลงทุนไปใช้ให้มีคุณค่ามากที่สุด เพื่อการปรับปรุง พัฒนาบริษัท ทั้งการปรับปรุงโรงงาน การสร้างโรงงานของผลิตภัณฑ์แป้งเบบี้ไมด์ และการปรับปรุงในอีกหลายส่วนรวมถึงการขยายตลาดลูกค้า เรามีการทำทีละขั้นตอนเริ่มจากตลาดในประเทศต้องเสริมให้แข็งแรงก่อน และก็นำไปสู่ตลาดเพื่อนบ้าน แล้วจากนั้นเราก็มองไปที่ตลาดประเทศจีนต่อไปในอนาคต

"หลังจากได้เงินจากการระดมทุนมา จะมีการนำไปใช้หนี้ต่างๆของบริษัท พอใช้หนี้เสร็จก็ไม่มีอะไรแล้ว เราก็คาดหวังอยากจะให้มีการเติบโต ทั้งรายได้และกำไร คงไม่หวือหวามาก แต่จะได้เห็นพัฒนาการที่ดี เราจะโตได้ไม่ต่ำกว่าอุตสาหกรรมแน่นอน เราสามารถสู้ได้ทั่วโลก"

สำหรับกลยุทธ์ของทางโอสถสภา คือ การจัดสรรพอร์ตโฟลิโอของสินค้าหลายชนิด ไม่เน้นไปที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง เช่น เครื่องดื่มชูกำลังแม้จะเป็นสินค้าหลัก แต่ก็ต้องมีเครื่องดื่มทางเลือกไว้ด้วย แต่มีการคาดหวังในกลุ่ม ของใช้ส่วนบุคคล ว่าจะเติบโตขึ้นมาอีกในตลาดต่างประเทศ สินค้าจะเป็นที่หมายปอง สัดส่วนปัจจุบันอยู่ที่ 9-10% ในระยะเร็ววันจะพยายามให้ขึ้นไปถึง 20% ของสัดส่วนรายได้

สำหรับการแข่งขันในปัจจุบัน ตลาดยังคงมีความร้อนแรงเหมือนเดิม แต่ทางทีมงานก็สู้เต็มที่ คาดหวังรายได้ให้สูงกว่าจีดีพีประเทศมากกว่า 1.5-1.7 เท่า

นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด(มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่าจะสามารถเปิดโรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งใหม่ที่ประเทศเมียนมาร์ได้ภายในไตรมาส 4/62 เพื่อผลิตสินค้าออกสู่ตลาด รองรับการเติบโตที่มีมากขึ้นทุกปี จากปัจจุบันที่ทางโอสถสภา มีสัดส่วนมูลค่าการค้าปลีกเครื่องดื่มชูกำลังเป็นอันดับหนึ่งในปี 2560

เรามีความพร้อมทั้งขีดความสามารถในการทำตลาดและช่องทางการจำหน่ายจะเข้ามาครอบคลุมช่วยสนับสนุนการเติบโตที่ดี เชื่อว่าจะได้รับกรตอบรับที่ดีจากนักลงทุน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0