เทรนด์เรื่องสิ่งแวดล้อมและการทารุณสัตว์มาแรงมากในยุคปัจจุบันที่แทรกซึมไปทั่วไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ แน่นอนว่าเรื่องของบิวตี้ก็ได้รับอิทธิพลนั้นมาด้วย และ 2 คอนเซ็ปต์บิวตี้ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่เรียกตัวเองว่าเป็นออแกนิก และผลิตภัณฑ์ที่เรียกตัวเองว่าเป็นวีแกน ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด-ถูก หรืออะไรดีกว่ากัน เพราะท้ายที่สุดแล้วเราต้องเลือกแบบที่เหมาะสมกับผิวเราที่สุด แต่วันนี้เราอยากให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจกันอีกครั้งว่าออแกนิกและวีแกนที่ฮิตๆ กันอยู่นั้น มีวิธีการสังเกตอย่างไร เราเทียบให้ดู โดยแยกออกเป็นข้อๆ
1. ความเป็นธรรมชาติ
ORGANIC
ส่วนผสมทั้งหมดมาจากธรรมชาติ 100% (หรือใกล้เคียงที่สุด) แต่เข้มงวดในทุกกระบวนการปลูกจะต้องเป็นไปตามวิถีออแกนิก ก็คือทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ ที่ไม่ถูกสร้างโดยมนุษย์ซึ่งหลักๆจะควบคุมแหล่งที่มาของน้ำ ดิน และปุ๋ยให้ไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะจะต้องเป็นในรูปแบบเกษตรอินทรีย์เท่านั้น
VEGAN
ส่วนผสมหลักมาจากธรรมชาติ 100% (หรือใกล้เคียงที่สุด) โดยทุกกระบวนการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี เพราะนั่นคือปราการด่านแรกที่เป็นอันตรายต่อผู้ทดลองใช้ ซึ่งในกรณีนี้ไม่ใช่สัตว์ทดลองแต่เป็นมนุษย์แทน
2. ส่วนประกอบที่เลือกใช้ในผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต
ORGANIC
- มีส่วนผสมของสัตว์จากธรรมชาติ หรือผลผลิตจากสัตว์ ที่ต้องได้รับการเพาะปลูกและเลี้ยงดูตามวิถีอินทรีย์หรือออแกนิกอย่างเคร่งครัด นับตั้งแต่ฟาร์มปิด อาหารที่ใช้เลี้ยง เป็นต้น และที่สำคัญปราศจากผลผลิตที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม (Non - GMO)
- อาจมีการทดลองในสัตว์ได้
VEGAN
- ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ แม้แต่ผลผลิตใดๆ จากสัตว์จะไม่มีรวมอยู่ด้วย เช่น น้ำผึ้ง, น้ำนม ไข่ปลา หรือแม้แต่คอลลาเจนจากปลา
- ไม่มีการทดลองในสัตว์ทุกชนิด ทำการทดลองในมนุษย์แทน ดังนั้นในเรื่องของส่วนผสมจึงยิ่งต้องเลือกอย่างพิถีพิถันที่สุด ว่าอ่อนโยนและไม่เป็นอัตรายต่อมนุษย์
3.สัญลักษณ์ที่ใช้แบ่งประเภทที่สามารถสังเกตได้
ORGANIC
- มีการเขียนระบุประเภทไว้ แต่ทั้งนี้ควรมีการระบุที่มาของส่วนผสมจากธรรมชาติที่เลือกมาว่ามีการเพาะปลูก หรือเลี้ยงโดยวิธีออร์แกนิก อย่างน้อยที่สุดจะมีสัญลักษณ์ The Soil Association ที่น่าเชื่อถือระดับสากล
VEGAN
- นอกจากการเขียนการันตีว่าปราศจากส่วนผสม หรือผลผลิตจากสัตว์แล้ว ยังมีในส่วนของสัญลักษณ์ VEGAN และ Not Tested On Animal ที่มักจะมาในรูปแบบสัญลักษณ์กระต่ายที่เรียกกันในระดับสากลว่า Leaping Bunny Certified ที่หมายถึงไม่มีการทดลองในสัตว์
Credit photo: Getty Images
