โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

Netflix ปรับราคาขึ้นในสหรัฐฯ พื้นที่อื่นเตรียมฟังประกาศ

GamingDose

เผยแพร่ 17 ม.ค. 2562 เวลา 04.20 น. • GamingDose - ข่าวเกม รีวิวเกม บทความเกมจากเกมเมอร์ตัวจริง
Netflix ปรับราคาขึ้นในสหรัฐฯ พื้นที่อื่นเตรียมฟังประกาศ

Subscribers ของผู้ให้บริการ Netflix ในประเทศสหรัฐฯ กำลังจะปะทะกับค่าบริการท่ีสูงขึ้น ในทุกแพ็คเกจเร็ว ๆ นี้

โดยราคาที่ปรับขึ้นใหม่มีดังนี้

  • แพ็คเกจความละเอียด SD ถูกปรับเป็น $9 จาก $8
  • แพ็คเกจความละเอียด HD (ซึ่งได้รับความนิยมมากสุด) ถูกเปลี่ยนจาก $11 เป็น $13
  • แพ็คเกจ UltraHD หรือ 4K ถูกเพิ่มราคาจาก $14 เป็น $16
Image result for netflix raising price
Image result for netflix raising price

ตามรายงานของสำนักข่าว AP News การปรับขึ้นราคาครั้งนี้มีผลทันทีสำหรับผู้สมัครใช้บริการรายใหม่ ส่วนผู้ใช้บริการก่อนหน้าจะถูกเก็บค่าใช้จ่ายในราคาใหม่ในอีก 3 เดือนข้างหน้า

Reed Hastings ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Netflix กล่าวว่าบริษัทต้องทำเช่นนี้เพราะบริษัทต้องลงทุนใน Original Contents เป็นจำนวนเงินมหาศาล บวกกับค่าลิขสิทธิ์ในการนำภาพยนตร์และซีรี่ส์มาฉายในแพลตฟอร์มของตัวเอง

Reed Hastings กล่าวเมื่อปี 2017 ว่า ราคาที่มากขึ้นหมายถึงคุณภาพที่ดีขึ้น บริษัทพยายามเพิ่มเนื้อหาที่มีคุณภาพให้ออกมามีปริมาณมากขึ้น ซึ่งมีจำนวนผู้ชมทั่วโลกเป็นประจักษ์พยาน

Netflix จ่ายเงินไปกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อรักษาสิทธิการฉายซีรี่ส์เรื่อง Friends ตามรายงานของหลายสำนักข่าว บริษัทก็ลงทุนในการสร้าง Netflix Originals เป็นจำนวนเงินไม่ใช่น้อย โดยในตอนนี้ Netflix สามารถสร้างภาพยนต์และซีรี่ส์ที่บริษัทถือลิขสิทธิ์เป็นของตัวเองกว่า 700 รายการ ภายในปี 2018 เพียงปีเดียว

ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งภาพยนตร์และซีรี่ส์เจ้าใหญ่รายอื่น เช่น Hulu, WarnerMedia, NBCUniversal และ Disney+ กำลังเตรียมเข้าสู่ตลาดเช่นกัน ดังนั้น Netflix จึงต้องสร้าง Original Contents ให้มากและต้องดึงดูดผู้ชมให้ได้ ซึ่งในขณะนี้ Netflix มียอด Subscribers กว่า 80 ล้านบัญชีผู้ใช้งานทั่วโลก

Image result for roma netflix
Image result for roma netflix

การสร้างภาพยนตร์เพื่อเข้าชิงรางวัลก็เป็นอีกหนึ่งความสำคัญของบริษัทเช่นกัน อย่างเช่น ภาพยนตร์เรื่อง Roma ที่เพิ่งได้รับรางวัล Golden Globe ไป ก็เป็นหลักฐานว่าเนื้อหาของ Netflix มีคุณภาพดีมาก ๆ และสามารถเป็นจุดแข็งของบริษัทได้ แต่ก็แลกมาด้วยหนี้ระยะยาวกว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะบริษัทเข็นเนื้อหาของตัวเองออกมามากเกินไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าการขึ้นราคาอาจไม่ได้จบที่ผู้ใช้งานในประเทศสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว

Jon Landgraf ประธานของบริษัท FX Networks ให้ความเห็นว่าการเติบโตของบริษัท Netflix เริ่มไม่มีความเสถียร เพราะอุปสรรคหลายอย่าง และการสร้างภาพยนตร์สักเรื่องหรือสักตอนก็ใช้เงินลงทุนไม่ใช่น้อย ๆ และมันคงเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งโลกจะเต็มไปด้วยภาพยนตร์ของ Netflix การผูกขาดในอุตสาหกกรมประเภทนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้

สำนักข่าวต่าง ๆ กำลังติดต่อ Netflix เพื่อขอความคิดเห็นและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีนี้

https://www.youtube.com/watch?v=ZIhlQESe0hA

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0