จากกระแสข่าว NOBLE เล็งเทกโอเวอร์ LPN เดินเกมทยอยเก็บหุ้นในกระดาน หวังขึ้นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก่อนประกาศตั้งโต๊ะทำเทนเดอร์ฯ หลังมองเห็นขุมทรัพย์ LPN กอดกำไรสะสม 10,674 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าต่อหุ้น 7-8 บาท แถมมีฐานลูกค้าคอนโดฯมหาศาลนำมาต่อยอดธุรกิจบัตรแรบบิทของกลุ่มบีทีเอสได้อีกมากในอนาคตนั้น
ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะจริงหรือไม่ ด้าน NOBLE มีนโยบายที่จะเจาะตลาดระดับกลางมากขึ้น แต่ที่ผ่านมาก็จะเน้นพัฒนาเอง และหากสนใจก็จะต้องมองระยะยาว เพราะคอนโดมิเนียมจะยังไม่ดีไปอีก 2 ปีข้างหน้านี้ กว่าจะฟื้นได้คาดว่าเป็นปี 2565
อย่างไรก็ตามทาง LPN ก็มีความเคลื่อนไหวด้านการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ แต่ต้องรอปิดสมุด XD ก่อนว่าใครไป-ใครมา สัดส่วนมากเพียงใด หากจะมีการเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ต้องถือหุ้นเกิน 25% สำหรับ Trigger Point แรก และเป็นที่น่าสังเกตว่าที่ผ่านมา LPN จ่ายปันผลสูงมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งๆ ที่ผลประกอบการไม่ดีนัก
อย่างไรก็ตามการเก็งกำไรมักตกไปอยู่ที่เป้าหมายซึ่ง LPN มีมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นสูงเป็น 8.78 บาท สูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน แต่ DBS ให้ราคาพื้นฐานเพียง 2.40 บาท สืบเนื่องจากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะไม่สดใสต่อไปใน 2 ปีข้างหน้า
หากข่าวจริงเป็นบวกกับ NOBLE
ส่วนนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ให้มุมมองว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการสอบถามประเด็นดังกล่าวกับทางบริษัท แต่ประเมินเบื้องต้นว่าหากประเด็นดังกล่าวเป็นจริง จะเป็นปัจจัยบวกต่อ NOBLE เนื่องจากทางLPN เป็นบริษัทที่เน้นพัฒนาคอนโดระดับ Affordable (ราคา 1-3 ล้านบาท) ซึ่งจะช่วยเติมเต็มโครงการระดับดังกล่าวให้แก่ทางบริษัท นอกจากนี้ยังจะช่วยยกฐานรายได้จากเดิมที่อยู่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท เป็น 2 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด หุ้นแนะนำ NOBLE (ซื้อ เป้าหมาย 17.50 บาท) และ LPN (เก็งกำไร เป้าหมาย 3.50 บาท)
