การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงผลประกอบการที่ไม่ดีก่อนหน้าที่จะเกิดการระบาดครั้งใหญ่ จากการบริหารงานในองค์กรที่มีปัญหาด้านการทุจริต ความขัดแย้งและการเมืองภายในที่รุนแรง บวกกับผลกำไรสุทธิไตรมาสแรกของปี 2562 ที่ลดลงถึง 94.5% ซึ่งถือเป็นไตรมาสที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 10 ปี ส่งผลให้ Nissan ผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น ต้องประสบกับการขาดทุนอย่างหนัก รถยนต์รุ่นใหม่ที่ผลิตขายทั่วโลกมียอดขายไม่ดีเท่าที่ควร จนต้องประกาศปิดโรงงานผลิตรถยนต์ของ Nissan ทั้ง 2 แห่ง คือโรงงานในประเทศสเปนและโรงงานในอินโดนีเซีย ในส่วนของอินโดนีเซีย Nissan ทำการย้ายฐานการผลิตรถยนต์มาที่ประเทศไทย ขณะที่การปิดโรงงานผลิตรถยนต์ Nissan ที่สเปนได้ทำให้คนงาน Nissan ในเมืองบาร์เซโลนาไม่พอใจ มีการประท้วง จุดไฟเผายางที่หน้าโรงงาน
Nissan ที่กำลังเผชิญกับวิกฤติหลายด้านรายงานวันนี้ว่า ทางบริษัทประสบภาวะขาดทุนโดยมียอดขาดทุนประจำปีสุทธิอยู่ที่ 6,200 ล้านเยน พร้อมประกาศปิดโรงงานผลิตรถยนต์ Nissan ในเมืองบาร์เซโลนาช่วงปลายปีนี้ เพื่อลดต้นทุนและปรับลดค่าใช้จ่ายในภาคการผลิต
Nissan กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทประสบปัญหาเรื่องความต้องการรถยนต์ลดลง การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับธุรกิจทุกด้านของ Nissan โดยในปีนี้ Nissan ขาดทุนไปแล้ว 6,200 ล้านเยน ซึ่งส่งผลให้ต้องการมีการเปลี่ยนแปลงในบริษัท โดยเปิดเผยแผนงานในช่วง 4 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีการลดจำนวนการผลิตรถยนต์ทั่วโลกลงร้อยละ 20 ปิดโรงงานที่นครบาร์เซโลนา ที่มีการจ้างงาน 3,000 ตำแหน่ง และลดจำนวนรุ่นของรถยนต์ที่ผลิตด้วย
โควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการผลิต การจำหน่ายและกิจกรรมทางธุรกิจอื่น ๆ ทั่วทุกภูมิภาค นอกจากนั้น ทางบริษัทยังปฏิเสธที่จะคาดหมายสถานการณ์ในปีนี้ เนื่องจากยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่
มาโกโตะ อูชิดะ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของ Nissan กล่าวว่า ผลประกอบการย่ำแย่กว่าที่คาดหมายไว้ ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ยิ่งทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น ทั้งเรื่องของความต้องการที่ลดลงของตลาดรถยนต์ กรณีอื้อฉาวของนายคาร์ลอส กอส์น อดีตผู้บริหารที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต และความตึงเครียดระหว่างพันธมิตรคือ Renault เรย์โนลท์และ Mitsubishi Motor
Nissan เผยแผนปฏิรูปองค์กรเพื่อความยั่งยืน
Nissan ประกาศแผนระยะ 4 ปี เพื่อสร้างการเติบโต เสริมสร้างเสถียรภาพทางการเงิน และความสามารถในการสร้างผลกำไร ภายในสิ้นปีงบประมาณปี พ.ศ. 2566 โดยแผนปฏิรูปการดำเนินธุรกิจนี้ยังครอบคลุมถึงการจัดการต้นทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ที่จะเปลี่ยนกลยุทธ์ขององค์กรจากเดิมที่ให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจมากจนเกินไป
ภายใต้แผนระยะ 4 ปี Nissan ตัดสินใจที่จะปฏิรูปการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพ โดยลดธุรกิจที่ไม่ทำกำไร และโรงงานที่เกินความจำเป็นลง ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างองค์กร พร้อมลดต้นทุนคงที่ โดยพิจารณากำลังการผลิต รถยนต์รุ่นต่าง ๆ ที่จำหน่ายอยู่ทั่วโลก และรวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ภายใต้การบริหารจัดการอย่างมีระเบียบแบบแผน บริษัทฯ มุ่งให้ความสำคัญและลงทุนในธุรกิจที่จะช่วยให้ฟื้นฟูองค์กรให้สร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนเท่านั้น
Nissan คาดการณ์ว่าการดำเนินงานตามแผนดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรจากผลการดำเนินงานที่ร้อยละ 5 และมีสัดส่วนทางการตลาดทั่วโลกคิดเป็นร้อยละ 6 เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณปีพ.ศ. 2566 ซึ่งรวมถึงสัดส่วนรายได้ที่มาจากการร่วมลงทุนร้อยละ 50 ในประเทศจีน
มาโคโตะ อูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Nissan กล่าวว่า “แผนปฏิรูปของเรามีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้เกิดการเติบโตอย่างมั่นคง แทนที่จะให้ความสำคัญต่อการเพิ่มยอดขายมากจนเกินไป Nissan มุ่งเน้นเรื่องความสามารถหลักขององค์กร พร้อมยกระดับคุณภาพทางธุรกิจ และรักษาระเบียบวินัยทางการเงิน รวมถึงรายได้สุทธิต่อหน่วยเพื่อสร้างผลกำไรตามเป้าที่วางไว้ โดยทั้งหมดนี้จะมีการดำเนินงานควบคู่ไปกับการรื้อฟื้นวัฒนธรรม “ความเป็น Nissan” เพื่อเดินหน้าสู่ยุคใหม่
แผนระยะ 4 ปี วางอยู่บนกลยุทธ์ 2 ด้าน ที่อยู่บนชื่อเสียงของ Nissan ที่มีรากฐานมาจากการเป็นผู้ริเริ่มด้านนวัตกรรม ฝีมือการผลิต การให้ความสำคัญแก่ลูกค้า และคุณภาพ และยังรวมไปถึงการปฏิรูปด้านวัฒนธรรมองค์กร
1) กระบวนการทำให้เกิดประสิทธิภาพ: แนวทางปฏิบัติเพื่อปรับโครงสร้าง ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
แผนงาน
• ปรับอัตราการผลิตของนิสสันลงร้อยละ 20 ให้เหลือเพียง 5.4 ล้านคันต่อปี ภายใต้การปฏิบัติงานตามช่วงเวลาการทำงานตามมาตรฐานปกติ
• เพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตให้ได้มากกว่าร้อยละ 80 เพื่อเพิ่มผลกำไร
• ลดจำนวนรุ่นรถยนต์ทั่วโลกลงร้อยละ 20 (ให้เหลือเพียง 55 รุ่น จากเดิม 69 รุ่น)
• ลดต้นทุนแบบคงที่ลงประมาณ 3 แสนล้านเยน
• ยุติการดำเนินงานของโรงงาน ณ บาร์เซโลนา ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก
• ควบรวมการผลิตของรถยนต์รุ่นสำคัญต่าง ๆ ในอเมริกาเหนือ
• ยุติการดำเนินงานของโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย และมุ่งให้ความสำคัญกับโรงงานในประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตแห่งเดียวในอาเซียน
• ร่วมมือบริษัทในกลุ่มพันธมิตรในการใช้ทรัพยากร เช่น การผลิต รุ่นรถยนต์ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ร่วมกัน
2) การให้ความสำคัญกับตลาดหลักและรถยนต์รุ่นสำคัญ
แผนงาน
• มุ่งเน้นธุรกิจของนิสสันในประเทศญี่ปุ่น จีน และทวีปอเมริกาเหนือ
• ใช้ประโยชน์จากความร่วมมือของกลุ่มพันธมิตร เพื่อรักษาฐานทางธุรกิจของนิสสัน ในอเมริกาใต้ อาเซียน และยุโรป
• ยุติการการดำเนินงานในประเทศเกาหลีใต้ ยุติการดำเนินธุรกิจของดัทสันในรัสเซีย รวมถึงปรับแผนการดำเนินธุรกิจของบางประเทศในอาเซียน
• ให้ความสำคัญกับรถยนต์รุ่นหลักในกลุ่ม C และ D Segment รวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และรถสปอร์ต
• เดินหน้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 12 รุ่น ในอีก 18 เดือนข้างหน้า
• เพิ่มจำนวนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึง เทคโนโลยี e-Power โดยตั้งเป้าจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 1 ล้านคัน ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2566
• ในประเทศญี่ปุ่น Nissan จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 2 รุ่น และรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยี e-Power จำนวน 4 รุ่น เพื่อเพิ่มสัดส่วนของยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ถึงร้อยละ 60 ของยอดขายทั้งหมด
• นำระบบขับเคลื่อน ProPILOT มาใช้ในรถยนต์มากกว่า 20 รุ่นที่วางขายใน 20 ประเทศ โดยตั้งเป้าว่าจะมีรถยนต์จำนวนกว่า 1.5 ล้านคัน ที่ใช้ระบบ ProPILOT ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2566
อูชิดะ กล่าวปิดท้ายว่า Nissan ต้องส่งมอบคุณค่าของแบรนด์ให้แก่ลูกค้าทั่วโลก โดยต้องนำนวัตกรรม ทั้งด้านยานยนต์ เทคโนโลยี และเจาะตลาดที่ Nissan มีศักยภาพในการแข่งขัน นี่คือ DNA ความเป็น Nissan และในยุคใหม่ของเรา คนยังเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด เพื่อส่งมอบเทคโนโลยีที่คิดค้นมาสำหรับทุกคน และเพื่อรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- มาแล้วราคาน่ารัก! NISSAN KICKS E-POWER เครื่องยนต์ปั่นไฟให้มอเตอร์วิ่ง
- ส่องตัวเป็นๆ NISSAN KICKS e-POWER น่าใช้หรือไม่?
- ก็อตซิลลามาแล้ว! NISSAN GT-R 50 BY ITALDESIGN
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath