โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

NEWS : หุ้นไตรมาส 3 ผันผวน ทุนนอกยังไหลเข้า

Stock2morrow

อัพเดต 26 มิ.ย. 2562 เวลา 07.26 น. • เผยแพร่ 26 มิ.ย. 2562 เวลา 07.26 น. • Stock2morrow
NEWS : หุ้นไตรมาส 3 ผันผวน ทุนนอกยังไหลเข้า
NEWS : หุ้นไตรมาส 3 ผันผวน ทุนนอกยังไหลเข้า

บล.เอเซีย พลัส มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยไตรมาส 3 แกว่งตัวผันผวนในทิศทางขาขึ้น ได้แรงหนุนจากทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง หวั่นพิจารณางบประมาณปี 63 ล่าช้ากระทบเศรษฐกิจ แนะลงทุนหุ้นรายตัว

SET หุ้นไทย
SET หุ้นไทย

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 3 ของปีนี้ คาดว่ายังคงผันผวนอยู่ในทิศทางขาขึ้น (Sideway up) เนื่องจากทุนต่างชาติ (Fund Flow) ยังคงไหลเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจัยภายในประเทศ เสถียรภาพทางการเมือง และความล่าช้าในการพิจารณางบประมาณประจำปี 2563 จะเป็นตัวแปรที่ทำให้ตลาดผันผวน

“ประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญในไตรมาส 3 นี้ คือการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2563 ซึ่งน่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรในเดือน ก.ย. 62 ถือว่าล่าช้ากว่าทุกปีที่ผ่านมาราว 3 เดือน ซึ่งการพิจารณาที่ล่าช้า อาจมีผลต่อเนื่องไปถึงการเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้” นายเทิดศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังต้องการแรงกระตุ้นจากภาคเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก หลังจากภาคการค้าระหว่างประเทศมีปัญหา อันเป็นผลมาจากสงครามการค้าโลก โดย IMF ได้ปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 62-63 รอบล่าสุดเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ขยายตัว 3.3% และ 3.6% ตามลำดับ ซึ่งต่ำกว่าที่ IMF เคยคาดการณ์ไว้เดิม โดยต้องติดตามประเด็นการเจรจาของผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ว่าจะสามารถหาข้อยุติได้หรือไม่ ในการประชุม G20 วันที่ 28-29 มิ.ย. 62 นี้

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก ทำให้การส่งออกชะลอตัว การขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาจากภายในประเทศ คือภาคการบริโภคครัวเรือน ที่จะยังได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐ โดยสายงานวิจัยฯ คาดการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 62 ที่ 2.7% ชะลอจาก 4.1% ในปี 61

ขณะเดียวกันได้ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ 2.25% มาอยู่ที่ 1.03 ล้านล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 103.32 บาท เติบโต 5.59% จากปีก่อน ทั้งนี้ เมื่ออิงกำไรใหม่ ดัชนีเป้าหมายจะอยู่ที่ 1699 จุด บนสมมุติฐาน Market Earning Yield Gap 4.28%

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน พ.ค. 62 ที่ผ่านมา พบว่ามีแรงหนุนจาก Fund Flow ไหลเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการเมืองในประเทศที่เปลี่ยนผ่านมาสู่การมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง การเพิ่ม NVDR เข้ามาคำนวณในดัชนี MSCI รวมไปถึงหลายธนาคารกลางหันมาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มมีการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนจากพันธบัตรรัฐบาลที่ให้ผลตอบแทนต่ำไปสู่พันธบัตรรัฐบาลที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

ในทางกลับกันช่วยหนุนให้ Earning Yield Gap ของตลาดหุ้นไทยกว้างขึ้น ล่าสุดมาอยู่ที่ 4.08% ลักษณะเช่นนี้ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก หนุนให้ Fund Flow มีโอกาสถูกโอนถ่ายจากตลาดตราสารหนี้ มายังตลาดหุ้นในระยะถัดไปได้มากขึ้น ทำให้เกิดการปรับฐาน PER ให้สูงขึ้นกว่าเป้าหมายเดิมที่ 16.45 เท่า โดยในระยะสั้นอาจขยับขึ้นไปเหนือ PER ที่ราว 17 เท่าได้ กลยุทธ์การลงทุนจึงเน้นหุ้นที่มีความได้เปรียบทางด้าน Valuation เมื่อเทียบกับตลาด ดังนี้

หุ้นที่กำไรเติบโต มีคุณภาพ BBL, BDMS, ROBINS, THANI, GPSC, RJH
หุ้นได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ CK
หุ้นที่มีเงินปันผลสม่ำเสมอ ภายใต้ดอกเบี้ยขาลง EASTW, SCCC, MCS
หุ้นอาหารส่งออก ที่ถูกกระทบจำกัดจากสงครามการค้า TU

stock2morrow

ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0